หลายคนคงได้มีโอกาสอ่านข่าวเกี่ยวกับการระเบิดของภูเขาไฟที่มีชื่อว่า "กรากาตัว" (Krakatua) ที่ตั้งอยู่ในบริเวณช่องแคบซุนดาระหว่างเกาะสุมาตราและเกาะชวาของประเทศอินโดนีเซียเมื่อวันที่ 11 เมษายนที่ผ่านมา หลังจากที่กรุงจาการ์ตาประกาศบังคับใช้มาตรการล็อคดาวน์เพียง 1 วันโดยครั้งนี้เป็นครั้งแรกหลังจากที่มีการปะทุไปล่าสุดเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา (ธันวาคม 2018) ซึ่งทำให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิซัดเข้าใส่เกาะชวาและเกาะสุมาตราของอินโดนีเซีย มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 400 คนและบาดเจ็บกว่า 4,000 คน ในครั้งนั้นเจ้าหน้าที่และนักวิทยาศาสตร์ด้านแผ่นดินไหว สันนิษฐานว่าชิ้นส่วนขนาดใหญ่ของภูเขาไฟอาจจะถล่มลงสู่ทะเลซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิดังกล่าวภาพ: ภูเขาไฟกรากาตัว (Krakatua) ที่ตั้งอยู่ในบริเวณช่องแคบซุนดาจะว่าไปการปะทุเมื่อต้นเดือนทีผ่านมานี้ แม้จะพ่นเถ้าถ่านขึ้นสู่ท้องฟ้าสูงนับ 15 กิโลเมตร (ทั้งที่ภูเขาไฟเองมีความสูงเพียง 813 เมตร) และส่งเสียงดังไปไกลถึงกรุงจาการ์ตาซึ่งอยู่ห่างออกไปกว่า 150 กิโลเมตร แต่นั่นก็เป็นเพียงแค่การปะทุที่ไม่รุนแรงและไม่ก่อให้เกิดความเสียหายมากนักเมื่อเทียบกับการปะทุที่ผ่านมาในอดีต อย่างไรก็ดี หลังจากที่มีการปะทุ ชาวบ้านอาศัยอยู่ริมชายฝั่งกาลิอันดา (Kalianda) ทางใต้ของจังหวัดลัมปุง (Lampung) ก็อพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดคลื่นยักษ์สึนามิตามมา แต่ผ่านไปกว่า 10 วันหลังการปะทุก็ยังไม่ได้มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นย้อนหลังไปเมื่อปี 1883 ภูเขาไฟกรากาตัวมีการปะทุซึ่งจบลงด้วยการระเบิดครั้งใหญ่ในช่วงเดือนสิงหาคม โดยมีความรุนแรงเทียบเท่ากับระเบิดทีเอ็นที 200 เมกะตัน (หรือ 13,000 เท่าของระเบิดปรมาณูที่ถล่มเมืองฮิโรชิมาในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2) เลยทีเดียวภาพ: การระเบิดของภูเขาไฟกรากาตัว ในปี 1883การระเบิดครั้งนั้น นอกจากจะทำลายพื้นที่ 2 ใน 3 ของเกาะและคร่าชีวิตคนอย่างน้อย 36,000 คน ยังปล่อยฝุ่นควันที่มีขนาดเทียบเท่ากับหินขนาด 20 ลูกบาศก์กิโลเมตรปกคลุมอากาศ และส่งเสียงดังไปไกลถึงเมืองอลิซสปริงส์ (Alice Spring) ในประเทศออสเตรเลียซึ่งอยู่ห่างไปไกลกว่า 3,600 กิโลเมตรและเกาะโรดรีก (Rodrigues) ในมหาสมุทรอินเดียซึ่งอยู่ห่างไปกว่า 4,780 กิโลเมตร ภาพ: ภูเขาไฟที่ยังคงคุกรุ่นในอินโดนีเซียจากข้อมูลในปี 2012 กรากาตัวเป็น 1 ใน 127 ภูเขาไฟของอินโดนีเซียที่ยังคงคุกรุ่นอยู่ และประชาชนราว 5 ล้านคนยังคงใช้ชีวิตอยู่ในบริเวณที่มีความเสี่ยงต่อการปะทุของภูเขาไฟ หากมองดูให้ดีจะเห็นว่าความทุกข์ความเดือดร้อนของหลายคนในช่วงโควิด-19 นี้อาจจะดูเล็กน้อยเมื่อเทียบกับความหวาดระแวงและความไม่แน่นอนที่คนเหล่านี้ต้องเผชิญตลอดทั้งชีวิต อ้างอิงจาก"Agency says loud rumble heard in Jakarta not sound of Anak Krakatau. So what was it?" จาก thejakartapost.com"Krakatoa volcano erupts spewing plumes of ash 1,640ft into the air as ‘loud rumbles’ heard 90 miles away" จาก thesun.co.ukขอบคุณภาพจากภาพปก Pixabay , ภาพที่ 1 Freepik, ภาพที่ 2 wikipedia, ภาพที่ 3 wikipedia