ซีรี่ย์นี้...มีเรื่องเล่า ดูแล้วอยากเล่าต่อค่ะ สำหรับซีรี่เกี่ยวกับการทำอาหาร เรื่อง Wok of Love กระทะเลิฟ เสิร์ฟรัก ที่เคยออกอากาศทางโทรทัศน์บ้านเราเมื่อหลายปีก่อน สิ่งที่น่าสนใจนอกจากเรื่องราวความรักหนุ่มสาวที่เกิดขึ้นในซีรี่ย์แล้ว อาหารที่อยู่ในเรื่งอก็น่าสนใจใช่กันค่ะ Wok of Love เป็นเรื่องราว ของ ซอพุง (รับบทโดย จุนโฮ) เชพอาหารจีน ตำแหน่งหน้าเตา 1 จากร้านอิ่มอร่อย บนโรงแรมใจแอนท์ โรงแรมระดับห้าดาว เชฟพุงเป็นเด็กกำพร้า ที่เติบโตในร้านขายจาจังมยอนซึ่งเจ้าของร้านเป็นพ่อของ คุณหมอทังซุยุก ในเรื่องไม่ได้เห็นว่าเขาเติบโตมาอย่างไร แต่ได้ฟังบทสนทนาระหว่างเขากับ คุณหมอทังซุยุก พอทราบว่า เขาทั้งสองถูกจับคู่ให้ต้องแต่งงานกัน พุงฝันอยากสร้างครอบครัวที่อบอุ่น อยากทำงานหาเงินมาก ๆ เพื่อเปิดคลินิกให้ภรรยา ฉากแรกเปิดมาเราจะได้เห็นเขาทำอาหารอย่างตั้งอกตั้งใจเพื่อจะเอาไปให้คุณหมอทังซุยุก แค่ฉากแรก ถ้าใครจิตไม่แข็งพออาจเกิดอาการน้ำลายไหลตามเมนูอาหารที่เชฟบรรจงสรรสร้างขึ้นก็เป็นได้ เขาทำอาหารไปส่งที่โรงพยาบาล ซึ่งต่อมาเขาได้เห็นมาอยู่ในถังขยะ …เจ็บปวดมาก หลังจากผ่านการแต่งงานมาเพียง 1 เดือน เขาได้รู้ว่า ทังซุยุกภรรยาของเขาเป็นชู้ักับเจ้าของโรงแรมที่เขาทำงานอยู่ เพื่อนร่วมงานและหัวหน้าร่วมมือกันเล่นสกปรกจนเขาต้องออกจากงาน ด้วยความแค้นที่มี เขาตัดสินใจเข้ามาขอกู้เงินกับ โดชิลซอง (รับบทโดย จางฮยอก) นักเลงปล่อยเงินกู้ ชื่อ บริษัทเงาหนี้เงินกู้ และขอเซ้งร้าน ชื่อ Hungry Wok เพื่อเปิดร้านอาหารจีน โดยหวังจะดึงลูกค้ามาโรงแรมใจแอนด์ เพื่อเป็นการแก้แค้น ก่อนออกจากโรงแรมมาเขาได้ฝากมีดปังตอไว้ที่หน้าห้องของชู่รักไว้ด้วย ซึ่งต่อมาความแค้นเพิ่มขึ้น เชฟพุงถอนมีดจากหน้าประตู โยนไปปักที่หัวนอนแทน หลังจากที่รู้ว่าอดีตภรรยาทำแท้งลูกของเขา ซึ่งต่อมากลายเป็นมีดที่ไม่มีใครสามารถดึงออกได้ นับเป็นสัญญะที่บ่งบอกถึงความแค้นได้อย่างชัดเจน เขาออกมาจากโรงแรมเอามาเพียงกระทะและกระบวย ซึ่งเป็นของส่วนตัว เหมือนนักรบที่มีเพียงโล่กับดาบ ถูกไล่ออกจากกองทัพโดยที่ตัวเองไม่มีความผิด และถึงแม้ว่าอดีตภรรยาจะทำเขาเจ็บปวด แต่ยังรักและเคารพพ่อตาของเขา เห็นได้จากการที่เขากลับไปเอาอุปกรณ์ทำเส้นจาจังมยอน ซึ่งเป็นสมบัติของพ่อตาเขา นำกลับไปที่ร้านอาหารจีนด้วย ชิลซองตกลงให้เงินกู้ โดยมีเงื่อนไขว่า เชฟพุงจะต้องสอนให้ลูกน้องของเขาเป็นลูกมือในครัว และสามารถมีความรู้ติดตัว เพื่อจะทำอาชีพและมีอนาคตที่ดี เขาถามเชฟพุงว่า อาวุธของนายคืออะไร เชฟพุงบอกว่า “ความสามารถและความพยายาม” เรามาดูว่าของสองสิ่งนี้จะทำให้เขาชนะร้านอาหารบนโรงแรมหรูได้หรือไม่ การปีนกลับไปที่ที่เคยอยู่...แสนยาก แต่ตอนตกลงมา...ก็ดิ่งมาจากหลังคาเลย ดันแซอู (รับบทโดย จองรยอวอน) หญิงสาวทายาทตระกูลเศรษฐีที่กลายเป็นยาจกเพราะบ้านของเธอล้มละลาย และเธอพึ่งตรวจพบว่าม้าที่เธอเลี้ยงไว้ (ซึ่งเหมือนเป็นสัญญะอีกอย่างหนึ่งที่ผู้กำกับพยายามจะสื่อในซีรี่) เป็นมะเร็งระยะที่ 4 ส่วนว่าที่เจ้าบ่าวก็ไม่ได้มาเข้าพิธี หนีหายไปเลย เชฟพุง และ แซอูที่มาในชุดฟันดาบกับม้าคู่ใจ เธอบอกว่าเวลาที่เธอสวมชุดฟันดาบ ทำให้เธอรู้สึกกลัวน้อยลง (ชุดฟันดาบเป็นเหมือนครอบครัวที่ปกป้องเธอ ซึ่งต่อมาเธอได้ถอดชุดฟันดาบออกเลิกเล่น และไม่ใส่อีกเลย เหมือนว่าเธอกำลังจะบอกว่าเธอดูแลตัวเองได้ ไม่จำเป็นต้องมีใครปกป้องเธอแล้ว แม้แม่ของเธอจะขอให้กลับไปเรียนฟันดาบต่อหลับจากครอบครัวกลับมามั่งมีเหมือนเดิม ) เจอกันที่สะพาน ทั้งสองตัดสินใจจะกระโดดสะพาน ทั้งสองแบ่ง คุ๊กกี้กันกิน ซึ่งเป็นคุกกี้เสี่ยงทาย ในคุกกี้ของแซอู บอกว่า “จงแหงนมองที่ฟ้า อย่าหันมองที่เท้” ในขณะที่คุกกี้ของเชฟพุง บอกว่า “ข้างหน้าของคุณ คือคู่แท้” แซอูบอกว่าอยากทาน จาจังมยอน ก่อนตาย เชฟพุงจึงชวนเธอไปที่ร้านของเขาและให้เธอเป็นลูกค้าคนแรกของเขา จาจังมยอน บะหมีซอสผัด อาหารที่ชาวเกาหลีนิยมมาก อาจจะเป็นเมนูธรรมดาที่เรา ๆ เคยเห็นกัน แต่ภายใต้เมนูธรรมดานี้มีเรื่องราวความเชื่อของชาวเกาหลี ที่เชื่อว่า หากทาน จาจังมยอน ในวัน Black day จะได้พบกับคนรักในเวลาอันรวดเร็ว จาจังมยอน จึงเป็นอาหารบำบัดความโสด ที่จะเปลี่ยน Mindset ของคนโสด ให้มีคามหวังในความรักต่อไป แซอูตัดสินใจเข้ากู้เงินกับ ชิลซอง เธอขอร้องให้เขาปล่อยเงินกู้ให้เธอ และขอให้เขา “เป็นแสงสว่างให้ฉันที ” ชิลซอง หลงรักเธอ และยินดีให้เงินกู้เพราะคิดว่าเธอเป็นมะเร็งจริงๆ แซอูได้เงินมารักษาม้า ก่อนจะเข้ามาขอสมัครงานที่ร้าน Hungry Wok โดยมีแม่ของเธอ แม่บ้าน และคนขับรถ มาสมัครงานที่ร้านเช่นกัน เปิดร้านเพียงวันแรกก็มีเรื่องกับนักเลง ทำให้เชฟพุงได้รับอุบัติเหตุแขนขวาหัก ทำให้ไม่สามารถทำอาหารได้ เขาจึงให้ แซอูมาเป็นมือขวาที่ถือกระบวยให้ ด้วยเพราะแซอูเป็นลูกคุณหนู ไม่เคยทำอาหารมาก่อน ทำให้การเป็นกระบวยแทนเขา ค่อนข้างจะลำบาก เพราะการทำอาหาร กระบวยกับกระทะต้องเขาขากันเป็นอย่างดี ทำให้ถูกดุหลายครั้ง รวมถึงแม่ของเธอก็ถูกดุด้วยเพราะความที่เป็นคุณนายไม่เคยทำงานมาก่อน เลยทำให้แม่ของเธอไม่สามารถทำงานในครัวได้ แต่แซอูไม่ย่อท้อ เธอตั้งใจ กลับมาบ้านก็ยังมาหัดทำ สามารถทำงานร่วมกันกับเชฟพุงได้ ได้ฉายาว่า น้องกระบวย ...และความรัก...เริ่มก่อตัว เรื่องแบ่งความสำคัญให้กับชีวิตของ ชิลซอง ที่ต่อมาเขาได้รู้ว่า หญิงชราที่เดินขายหมากฝรั่งคือแม่ของเขา ได้รู้ว่าพ่อของเขาคือนักมวยแชมป์โลกซึ่งเสียชีวิตในวันที่ได้แชมป์พอดี ในบทสนทนาระหว่าง ชิลซอง กับแม่ มีตอนหนึ่งพูดถึง แม่ทิ้งไว้ที่ร้านจาจังมยอน โดยหวังว่าเจ้าของร้านใจดี จะให้จาจังมยอนลูกของเธอกินและเลี้ยงดูต่อ อดคิดไม่ได้ว่า ...ร้านจาจังมยอน เดียวกันกับ พ่อเลี้ยงเชฟพุงหรือเปล่านะ ... เพราะในเรื่อง พยายามให้เราเห็นว่า ชิลซอง รักเชฟพุงแค่ไหน และเชฟพุงก็รัก ชิลซอง เช่นกัน...เขาเรียก ชิลซอง ว่า พี่ ด้วยนะ ความรู้สึกมัน อบอุ่นได้ โดยที่เราไม่ได้เห็นความสัมพันธ์ในวัยเด็ก ซึ่งอาจจะไม่ใช่อย่างที่คิดก็ได้ อาจะเป็นร้านจาจังมยอน ร้านอื่นก็ได้เนาะ ชิลซองบอกเชฟพุงว่า “การแก้แค้น ไม่ใช่สิ่งที่ดีที่สุด” ถ้านายทิ้งมีดไว้ที่นั้น คนที่นั้นจะไม่เจ็บปวด แต่เป็นนายต่างหากที่เจ็บปวด ฉันจะช่วยนายเอง ... จากนั้นได้พาเชฟพุงไปถอนมีดปังตอออกจากหัวเตียง เลิกแค้น... ชิลซอง รู้ว่า แซอู รักเชฟพุง เขาจึงยอมหลีกทางให้ ในขณะที่ แซอู ค่อนข้างจะชัดเจนในความรู้สึกของตัวเอง บอกว่าชอบ ก็คือชอบ ในขณะที่เชฟพุง … ยังปากแข็งคลุมเครือ และไม่ชัดเจน เพราะเขาเองก็รู้ว่า ชิลซอล ชอบแซอูเหมือนกัน เขาจึงไม่กล้าที่จะเอ่ยความนัยออกมา นอกจากเรื่องความรักสามเส้าแล้ว ยังมีเรื่องวุ่นวายภายในร้านอาหารที่พวกเขาต่างต้องช่วยกันประคับประคองมันไปให้รอด ชิลซอง อยากช่วยเชฟพุง และอยากแก้แค้นส่วนตัวกับเจ้าของโรงแรมเช่นกัน เขาได้สืบเรื่องการเงินของเจ้าของโรงแรมจึงรู้ว่าตอนนี้สถานการณ์ของโรงแรมไม่สู้ดีนัก นอกจากนี้ยังช่วยพ่อของ แซอู จนรอดพ้นจากคดีล้มละลายกลับมาสบายเหมือนเดิม ....ซิลซอง จึงเหมือน เทวดาพ่อทูลหัวที่คอยช่วยพระเอกนางเอกของเรื่องอยากไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เมื่อกลับมาร่ำรวยเหมือนเดิม แม่ของแซอูขอให้เธอออกมาจากร้านอาหารจีนและออกเดทกับผู้ชายที่ร่ำรวย แซอูเถียงเรื่องความรัก ในมุมของแม่มองว่าความรัก 1 ปีก็หมดแล้ว แต่ความร่ำรวย จะทำให้เราสบายไปตลอดชีวิต นางไม่อยากให้ลูกสาวได้กับเชพพุง นางแบ่งชนชั้น ....แหม...แม่คะ เมื่อเชฟพุงรู้ว่า คุณป้า เชฟมือหั่น และเชฟทำเส้น คือคนในครอบครัวของแซอู เขาจึงเข้ามาขอโทษ และเข้ามาปรณิบัตรรับใช้ในบ้านของแซอูเพื่อเป็นการไถ่โทษที่เขาเคยดุว่าแม่ของเธอ ชิลซอง ท้าพนันกับเจ้าของโรงแรมโดยมีโรงแรมใจแอ้นท์เป็นเดิมพัน ให้แข่งเชฟพุงกับหัวหน้าเชฟห้องอาหารอิ่มอร่อย มาแข่งทำอาหาร โดยให้แต่ละคนเลือกวัตถุดิบคนละอย่าง ….ซึ่งการแข่ขันลุ้นน่าดู..........สุดท้ายพระเอกนะ ยังไงก็ชนะ ชิลซองได้เป็นเจ้าของโรงแรม เชฟพุง กลับมาทำงานที่ร้านอาหารอิ่มอร่อย เขาเลือกเอาจาจังมยอนใส่ไว้ในเมนูด้วย ท่ามกลางความไม่เห็นด้วยของเชฟเก่าซึ่งก็คือเพื่อนเขาของเขานั่นแหล่ะ พวกเขาเห็นว่า จาจังมยอน เป็นอาหารธรรมดา ไม่มีค่าไม่คู่ควรห้องอาหารหรูหราบนโรงแรมห้าดาวแบบนี้ แหม เชฟคะ แบ่งชนชั้นกันอีกแล้วนะคะ เรื่องนี้ทำให้เราเห็นการแบ่งชนชั้นในครัวด้วยนะ เพิ่งรู้ว่าแต่ละตำแหน่งในครัว ก็มีการตั้งค่าต่างกันด้วย เชฟพุงให้เหตุผลว่า .... คุณค่าของอาหาร ไม่ได้อยู่ที่เมนูอะไร แต่อยู่ที่อาหารที่เสริฟไป หมดจานหรือเปล่า คุณค่าของการเป็นเชฟอยู่ที่การทำอาหารให้อร่อย ไม่ว่าจะเมนูไหนก็ตาม ..... คุณค่าที่คุณคู่ควร ชนะเลิศจ้าคุณเชฟของแม่ คำเตือน ไม่ควรดูซีรี่นี้ตอนดึก ๆ เพราะคุณอาจต้องลุกมาต้มมาม่ากินกลางดึก...เตือนแล้วนะ ขอขอบคุณ ภาพจาก * ขอขอบคุณภาพจาก www.viu.com/ott/th/th/vod/134469/Wok-of-Love- * ขอขอบคุณภาพจาก SBS TV / * ขอขอบคุณภาพจาก www.Netflix.com