เครดิตภาพ : unsplash ในขณะนี้ประเทศไทยของเราติดหนึ่งในประเทศที่มีการติดเชื้อและแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วของไวรัสชนิดที่เรียกว่าร้ายแรงสุด ๆ ในปี 2019 และลามมาถึงปี 2020 นั้นคือ โคโรน่าไวรัส หรือที่คุ้นชื่อกันใน Covid-19 นั้นเอง และส่งผลกระทบร้ายแรงในหลาย ๆ แง่มาก อาทิเช่น สุขภาพ จิตใจ และในแง่ที่สำคัญอย่างทางเศรษฐกิจการท่องเที่ยว การค้าขาย ซึ่งส่งผลกระทบในวงกว้างมาก ๆ วันนี้เราจะมานำเสนอในแง่ของเศรษฐกิจและการค้าว่าเป็นอย่างไร ถ้าเพื่อน ๆ พร้อมแล้ว ตามมาเลยค่ะ เครดิตภาพ : unsplash ในแง่ของเศรษฐกิจการค้าขายนั้นนับว่ารุนแรงและส่งผลกระทบที่ค่อนข้างรุนแรงพอสมควร โดยไม่กี่วันที่ผ่านมาภาครัฐได้ออกมาตราการอย่างเข้มงวดให้ร้านค้าต่าง ๆ แลเสวนสาธารณะทุกแห่ง ให้ปิดทำการเป็นเวลา 5 ชั่วโมง ตั้งแต่เวลา 24:00-05:00น. และประกาศจะมีผลตั้งแต่วันที่ 2 เมษายน 2563 เป็นต้นไปพร้อมทั้งประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาลตั้งด่าน และหากร้านค้าไม่ปฏิบัติตามจะมีความผิดทาง ซึ่งจากประสบการณ์โดยตรงของเรา ซึ่งครอบครัวของเราเองก็เป็นหนึ่งในผู้ประกอบการเพราะทางบ้านของเราก็ทำธุรกิจร้านขายอาหารตามสั่งและผู้ประกอบการส่วนใหญ่ในระแวกบ้านให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีและเต็มใจกันมาก ๆ แต่หากมองในภาพกว้างหากเราให้ความร่วมมือและทำปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดแล้ว ไวรัส Covid-19 อาจจะมีอัตราการลดลงของการแพร่เชื้อแลพทำให้สถานการณ์จะดีขึ้นอีกด้วย และอาจจะทำให้เศรษฐกิจร้านค้าเปิดบริการได้เหมือนเดิม และไม่เพียงแต่ผู้ประกอบการจะให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีนะคะ ทางประชาชนเหล่าผู้บริโภคก็มีการตระหนักด้วยเช่นกัน ซึ่งเราจะเห็นได้จาก บางส่วนจะมาใช้บริการหรือซื้อของก่อนเวลาร้านค้าปิดค่ะ การใช้มาตราการปิดร้านค้าในเวลาที่รัฐได้ตั้งไว้ได้ส่งผลกระทบอย่างไรและผู้ประกอบการมีวิธีการอย่างไรในสถานการณ์แบบนี้? เครดิตภาพ : unsplash ในขณะนี้มาตราการการปิดร้านของภาครัฐในเวลา 24:00-05:00 น. ก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าสำหรับร้านค้าขายของหรือร้านขายอาหารตามสั่งนี้นั้นในบางวันรายได้บางส่วนอาจจะหายไป และในระหว่างวันลูกค้าก็มาซื้อลดน้อยลงกว่าแต่ก่อนค่อนข้างเยอะ เพราะด้วยมาตราการกักตัวอยู่บ้านของทางภาครัฐ คือ อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ ก็ทำให้ประชาชนตระหนักและทำตามกันอย่างเคร้งครัด ซึ่งตอนนี้ในการปรับตัวในสถานการณ์แบบนี้ของเราก็คือ เราเตรียมตัวที่จะทำ Food Delivery ด้วยตนเองโดยเริ่มจากอาจจะมีการส่งในระแวกใกล้เคียงก่อนหรืออาจจะเริ่มทำการ Co กับบริษัท Food Delivery อย่าง Grab food , Food Panda หรือ Weserve เป็นต้น เพื่อช่วยในการมองเห็น เข้าถึง และเป็นการช่วยกระตุ้นยอดขายอีกช่องทางหนึ่งค่ะ หรือทางร้านขายของอาจจะต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบการขายเป็นแบบออนไลน์ ซึ่งเป็นอีกช่องทางที่กำลังมาแรงและปลอดภัยที่สุดในขณะนี้ เพราะผู้บริโภคไม่ต้องออกจากบ้าน และยังใช้กลยุทธ์ 'Contactless Payment' ซึ่งหากแปลตามตัวมันจะแปลได้ว่า 'การชำระเงินแบบไม่ต้องสัมผัส(เงิน)' ซึ่งเป็นช่องทางที่ปลอดภัย safe ทั้งตัวเราและผู้อื่นได้อีกด้วยค่ะ ซึ่งในส่วนของร้านค้าที่ขายตามตลาดต่าง ๆ ภาครัฐก็กำลังมีนโยบายในการให้เงินเยี่ยวยา โดยจะยกเว้นการเก็บค่าแผงในตลาด 10 แห่งดังนี้ ตลาดนัดเมืองมีน ตลาดธนบุรี ตลาดเทวราช ตลาดประชานิเวศน์ 1 ตลาดหนองจอก ตลาดบางกะปิ ตลาดพระวงเวียนเล็ก ตลาดรัชดาภิเษก ตลาดสิงหา และตลาดราษฎร์บูรณะ โดยจะยกเว้นค่าเช่าให้ตั้งแต่เดือน มี.ค.เป็นต้นไปจนกว่าสถานการณ์จะกลับสู่ภาวะปกติ สินค้าที่ขาดตลาดและสินค้าที่หาได้ยากขึ้น เครดิตภาพ : unsplash สินค้าที่ขาดตลาดก็คงต้องยกให้ 'ไข่ไก่' เลยหล่ะค่ะ เพราะไข่ไก่ถือเป็นวัตถุดิบที่สามารถตอบโจทย์ให้กับผู้บริโภคส่วนใหญ่ และในหนึ่งวันคนเราก็ต้องบริโภคไข่ไก่อย่างน้อยหนึ่งฟอง ซึ่งในตอนนี้ยอด Demand หรือความต้องการไข่ไก่ของคนยอมรับว่าเยอะมาก ๆ ซึ่งส่งผลให้ไข่ไก่หายากและขาดตลาดมาก ๆ ในบางพื้นที่ และราคาขายปลีกไข่ไก่สดที่วางจำหน่ายในร้านค้าปลีกสมัยใหม่ อาทิ ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อ มีราคาที่สูงมากถึง 6-9 บาทต่อฟองซึ่งถือว่าเป็นระดับที่แพงสุด ๆ ซึ่งในตอนนี้ภาครัฐจะขยายเวลาการห้ามส่งออกต่อไปอีกหลังสิ้นสุดในเดือนเมษายนนี้หรือจะมีมาตรการอื่น ๆ เพื่อรักษาสมดุลไข่ไก่ในระบบ ซึ่งในฐานะที่เราเป็นผู้ประกอบการรายหนึ่งก็มีทางออกคือต้องหาซื้อตามตลาดสดเพราะจะมีราคาถูกกว่าและมีหลากหลายร้านให้เลือกอีกด้วยค่ะ ก็จบลงไปแล้วนะคะสำหรับ 'กทม.ประกาศปิดร้านค้าทุกประเภท ตั้งแต่ 05.00-24.00 น. ส่งผลอย่างไรกับผู้ประกอบการบ้าง?' ซึ่งถือว่าเป็นการบอกเล่าในแง่ของผู้ประกอบการ ทำให้ทุกคนได้เห็นและตระหนักถึงสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น เราก็หวังว่าสถานการณ์ Covid-19 จะดีขึ้นในเร็ววัน ในระหว่างนี้เราก็ต้องดูแลตนเองกันด้วยนะคะ Take care 🙂❤️