อื่นๆ

กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ เพื่อรวมฮ่องกงเป็นเนื้อเดียวกับจีน?

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ เพื่อรวมฮ่องกงเป็นเนื้อเดียวกับจีน?

"เสรีภาพ" เป็นสิ่งที่ไม่ว่าใคร ๆ ก็ปรารถนา แต่เมื่อต้องอยู่รวมกันมาก ๆ ในสังคม การมีกฏเกณฑ์ต่าง ๆ เข้ามา จึงทำให้ "เสรีภาพ" ในความคิดของคนเราแต่ละคนนั้น ไม่สามารถเป็นไปได้ดั่งที่ใจต้องการ และหากว่ากฏเกณฑ์เหล่านั้นทำให้รู้สึกถูกลิดรอนสิทธิมากขึ้น การเรียกร้องสิทธิจึงเกิดขึ้นเช่นกัน และวันนี้สิ่งที่เราเห็นการเรียกร้องสิทธิที่เป็นประเด็นใหญ่ประเด็นหนึ่งของ "โลก" ในช่วงเวลานี้ก็คึอ "การเรียกร้องสิทธิของคนฮ่องกง" ซึ่งส่งผลให้เกิดเรื่องราวหลาย ๆ อย่าง รวมทั้งการมี "กฏหมายความมั่นคงฮ่องกง" เกิดขึ้นมา เรามา "วิเคราะห์ กฏหมายความมั่นคงฮ่องกง" ในมุมมองเล็ก ๆ  กันดีกว่า

ฮ่องกง"ฮ่องกง" เป็นเกาะหนึ่งหนึ่งของประเทศจีน เมื่อจีนแพ้สงครามที่เรียกว่า "สงครามฝิ่น" จึงต้องยอมทำสัญญาให้ประเทศอังกฤษเช่าช่วงปี 1841- 1997 ช่วงเวลาที่อังกฤษเข้าปกครองฮ่องกง ก็ได้เปลี่ยนให้เกาะซึ่งประชากรในเกาะมีอาชีพประมงเป็นหลัก กลายเป็นเมืองท่า เป็นศูนย์กลางการค้าทางทะเลที่สำคัญของโลก ฮ่องกงมีความเจริญรุ่งเรือง เป็นทั้งเมืองที่เต็มไปด้วยธุรกิจ และการท่องเที่ยวก็ได้รับความนิยมมากที่สุดเมืองหนึ่งที่คนไทยชอบไปไม่น้อย เพราะจากประเทศไทยไปฮ่องกง เดินทางโดยเครื่องบิน ไม่เกิน 3 ชั่วโมงก็ถึงแล้ว ตลอดเวลาที่ผ่านมา ผู้เขียนมองฮ่องกงในเรื่องของการค้า การท่องเที่ยว และหนังฮ่องกง ไม่ค่อยได้ศึกษาด้านการเมือง แต่วันนี้มีเรื่องมากมายเกิดขึ้นในฮ่องกงจึงสนใจเป็นพิเศษ

Advertisement

Advertisement

ฮ่องกงอังกฤษส่งมอบคืนเกาะฮ่องกงให้จีน เมื่อปี 1997 ตามระยะเวลาที่ถูกกำหนดไว้แต่เดิม แต่ก็เกิดความไม่ลงตัวเกิดขึ้น เพราะฮ่องกงมีแนวคิดที่แตกต่างกัน "จีน" ปกครองประเทศด้วยระบอบคอมมิวนิสต์ ขณะที่ "ฮ่องกง" ภายใต้การดูแลของอังกฤษ ปกครองในระบอบประชาธิปไตย และด้วยระยะเวลาที่ยาวนานกว่า 100 ปี ที่คนฮ่องกงใช้ชีวิตกันมา ทำให้วิธีคิด รวมถึงวัฒนธรรมต่าง ๆ มีความแตกต่างไปจากเดิม ดังนั้นแม้อังกฤษคืนเกาะฮ่องกงให้จีนแล้วก็ตาม แต่ "ฮ่องกง" ยังได้รับสิทธิพิเศษให้เป็นเกาะที่สามารถดูแลตัวเองต่อไปได้อีก 50 ปี โดยมีการปกครองแบบ 1 ประเทศ 2 ระบบ มีผู้บริหารสูงสุดแห่งเขตบริหารพิเศษฮ่องกงที่ถูกส่งมาจากรัฐบาลจีนปกครอง จากวันที่อังกฤษคืนเกาะฮ่องกงให้จีน รวมระยะเวลามาถึงวันนี้คือ 20 กว่าปีแล้ว และเหลือเวลาเพียง 30 ปี ที่ระบอบการปกครองรูปแบบพิเศษจะหมดไปและฮ่องกงก็จะถูกปกครองเหมือนมณฑลอื่น ๆ ของจีน

Advertisement

Advertisement

ฮ่องกง

ด้วยความที่ "ฮ่องกง" ไม่ได้อยู่ภายใต้การปกครองของจีนมาอย่างยาวนาน คนฮ่องกงเองจึงมีความคิดที่แตกต่างกัน มีทั้งคนที่เห็นด้วย และคนที่ไม่เห็นด้วย บางคนมองว่าฮ่องกงเป็นเอกเทศมานานแล้ว ฮ่องกงก็ควรจะเป็นฮ่องกงต่อไป แต่บางคนก็มองว่าฮ่องกงก็คือจีนถ้าจะถูกปกครองโดยจีนต่อไปก็ไม่แปลก มีผู้คนที่กังวลว่าต่อไปจะต้องขาดอิสระในการใช้ชีวิต ในการทำธุรกิจ หากถูกจีนปกครอง หรือถ้ามองเรื่องใกล้ตัวที่สุด อย่างที่คนรุ่นใหม่เห็น ๆ อยู่ เช่นการใช้ Social network ในแบบที่ชาวโลกใช้กัน ก็อาจจะไม่ได้ใช้อีกต่อไป เพราะจีนมีการบล็อก Google, Facebook, Line, IG, Youtube ฯลฯ

แม้ว่าจีนจะมีทางเลือกให้กับพลเมืองของตัวเอง สามารถใช้งานได้เช่นเดียวกันอย่าง Weibo, QQ, Youku, iQiyi ฯลฯ แต่ทางเลือกอื่น ๆ เชื่อว่าจะไม่เป็นที่สนใจของคนฮ่องกง เพราะจากการวิเคราะห์อุตสาหกรรม Social network ในฮ่องกง ในปี 2019 ฮ่องกงเล่น Facebook มากถึง 82 % ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่ติดต่อสื่อสารในหมู่เพื่อนฝูง ญาติพี่น้อง แต่ยังรวมไปถึงการรับรู้ข่าวสารทุกอย่างบนโลกใบนี้ ผ่านช่องทางนี้ และช่องทางอื่น ๆ บนโลกออนไลน์ที่ไม่ได้ถูกบล็อก ช่องทางการสื่อสารเหล่านี้นี่เองที่เป็นศูนย์รวมเชื่อมต่อ ทำให้มีผู้ประท้วงออกมาเดินถนนมากขึ้นเรื่อย ๆ

Advertisement

Advertisement

48813789861_2c158dd950_b

นอกจากความกลัวว่าอิสรภาพที่เคยมีจะหายไปเมื่อจีนมาปกครองฮ่องกงอยู่แล้ว เมื่อเกิดปัญหากฎหมายว่าด้วยเรื่องของ “การส่งผู้ร้ายข้ามแดน” เกิดขึ้น ส่งผลให้เกิดการประท้วงครั้งใหญ่เกิดขึ้นในฮ่องกง ต้นตอของเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด คือเหตุการณ์ที่ “เฉิน ตงค่าย” วัย 19 ปี ซึ่งเป็นชาวฮ่องกง ฆ่า “ผาน เสี่ยวอิง” แฟนสาวอายุ 20 ปี ชาวฮ่องกงเช่นเดียวกัน ขณะไปเที่ยวที่ไต้หวันด้วยกัน เพราะโกรธที่ฝ่ายหญิงสารภาพว่าท้องกับแฟนเก่า จึงบีบคอเธอจนสิ้นใจแล้วนำศพใส่กระเป๋าลากขึ้นรถไฟไปฝังที่สวนสาธารณะนอกเมืองไทเป จากนั้นได้บินกลับมาที่ฮ่องกง และถอนเงินจาก ATM ของฝ่ายหญิงเพื่อนำไปใช้หนี้บัตรเครดิตของตนเอง แต่ในที่สุดเขาก็ถูกจับได้ และให้การสารภาพ หลังจากที่พ่อแม่ของฝ่ายหญิงเข้าแจ้งความที่ลูกสาวหายไป และเจ้าหน้าที่ไต้หวันพบศพฝ่ายหญิง

เหตุการณ์ฆาตกรรมนั้นเกิดขึ้นที่ไต้หวัน แม้ “เฉิน ตงค่าย” จะสารภาพว่าทำผิดจริง แต่ฮ่องกงกับไต้หวันไม่มีกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดน ทำให้ไม่สามารถส่งเขากลับไปรับโทษข้อหาฆาตกรรมที่ไต้หวันได้ ศาลฮ่องกงทำได้เพียงตัดสินคดีที่เกิดขึ้นในฮ่องกง นั่นคือความผิดที่นำบัตร  ATM ของฝ่ายหญิงไปใช้ ข้อหาที่เขาได้รับคือข้อหาลักทรัพย์และฟอกเงินเท่านั้น ความผิดในคดีนี้โทษมีเพียงจำคุก 29 เดือน ซึ่งการรับโทษนั้นน้อยเกินไปสำหรับฆาตกรที่เหี้ยมโหด ด้วยเหตุนี้ฮ่องกงจึงมีแนวคิดที่จะออกกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดน เพราะไม่อย่างนั้นคนฮ่องกงไปฆ่าคนในประเทศที่ไม่มีกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนร่วมกันก็จะรอดคุกกันหมด

48819107963_e011603e7f_b

และปัญหาใหญ่ก็เกิดขึ้นเมื่อฮ่องกงจะออกกฎหมายใหม่นี้ ขณะที่ไต้หวันยังไม่ได้แสดงท่าทีว่าเห็นด้วย จีนได้เข้ามาร่วมวง โดยบอกว่ากฎหมายนี้ไม่ใช่เพียงแค่เป็นกฎหมายระหว่างฮ่องกงกับไต้หวันเท่านั้น แต่เหมารวมถึงจีนด้วย ทำให้คนฮ่องกงและคนไต้หวันเริ่มกลัวว่าจีนจะใช้สิทธิควบคุมทั้งฮ่องกงและไต้หวันโดยปริยาย เพราะเมื่อออกกฏหมายมา จะไม่ใช่แค่ใช้ในเรื่องของคดีฆาตกรรม แต่ยังสามารถใช้กับคนที่ขัดแย้งกับรัฐบาลจีน ถ้าหนีเข้ามาฮ่องกงหรือไต้หวัน ก็จะต้องถูกจับตัวกลับไปรับโทษที่จีน ซึ่งคนส่วนใหญ่ไม่เชื่อว่าจะยุติธรรมจริง ๆ จึงเกิดการประท้วงเกิดขึ้น แต่เมื่อการประท้วงรุนแรงขึ้น "แคร์รี หลำ" ผู้บริหารสูงสุดแห่งเขตบริหารพิเศษฮ่องกงได้ออกมาประกาศพักการพิจารณากฎหมายนี้ไปก่อน แต่ก็ยังเป็นสิ่งที่คนฮ่องกงหรือแม้กระทั่งไต้หวันก็กังวลว่า...พักถึงเมื่อไหร่ ?

ปัญหาการประท้วงในฮ่องกงขยายวงกว้างมากขึ้น เพราะไม่ได้ต้องการแค่ "พัก" กฏหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดน แต่ต้องการให้ "ยกเลิก"กฏหมายฉบับนี้ การประท้วงมีการปะทะกันระหว่างผู้ประท้วงกับตำรวจหนักขึ้นเรื่อย ๆ จนมีทั้งผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ ผู้ที่ถูกจับ เริ่มมีการทำลายทรัพย์สิน แต่เพราะเกิดไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาด การประท้วงจึงหยุดไปช่วงหนึ่ง แต่ปัญหานี้ก็กลับมาเป็นเรื่องใหญ่อีกครั้ง การประท้วงครั้งใหม่ได้เริ่มขึ้น เมื่อรัฐบาลจีนเตรียมใช้ "กฎหมายความมั่นคงฮ่องกง" หรือ "กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ" ซึ่งคาดว่าจะใช้ในเดือนสิงหาคมที่จะถึงนี้ โดยผ่านการอนุมัติของสภาประชาชนแห่งชาติจีน (NPC) ทำให้ชาวฮ่องกงยิ่งเครียดเพราะนั่นหมายถึงว่า จีนใช้อำนาจที่มีบังคับใช้กฏหมายของจีนในฮ่องกงได้ โดยไม่รอรัฐบาลท้องถิ่นร่วมตัดสินใจ ซึ่งจะส่งผลในหลาย ๆ ด้าน ต่อผู้ขัดขวาง หรือผู้ต่อต้าน เช่นผู้ที่เข้าร่วมประท้วงมีโอกาสได้รับโทษหนักถ้าถูกตั้งข้อหาว่าเป็นผู้ล้มล้างอำนาจรัฐ หรือต้องกลายเป็นก่อการร้าย หากทำอะไรรุนแรงไป ฯลฯ

เกาะฮ่องกง

แต่การประท้วงที่เกิดขึ้นในฮ่องกง ก็ไม่ได้หมายความว่าคนฮ่องกงทุกคนเห็นด้วยก้บการเรียกร้องครั้งนี้ ไม่ได้มีแค่คนฮ่องกงที่ไม่อยากกลับไปอยู่ภายใต้การปกครองของจีน เพราะก็ยังมีคนฮ่องกงที่รักในความเป็นจีน ยังมีคนที่มองย้อนกลับไปสู่ประวัติศาสตร์ถึงความเป็นมาของเกาะฮ่องกงเองว่าเป็นเกาะหนึ่งของมณฑลเซินเจิ้น แต่ต้องมาอยู่ภายใต้การปกครองของอังกฤษเพราะแพ้สงคราม ดังนั้นจึงมีคนฮ่องกงที่สนับสนุนรัฐบาลจีนแผ่นดินใหญ่ รวมทั้งคนดังอย่าง "เฉินหลง" นักแสดง ผู้กำกับ ผู้สร้างภาพยนตร์, "ลีกาชิง" และ "แจ๊ค หม่า" นักธุรกิจผู้ร่ำรวย และยังมีคนอีกเป็นจำนวนมากที่ยังยึดมั่นว่าฮ่องกงก็คือคนจีน มีความเชื่อว่าการปกครองโดยคนจีน ซึ่งเป็นคนชาติเดียวกัน ย่อมดีกว่าการปกครองจากคนต่างชาติ

ในอดีตนั้นเมื่อมีสงคราม อาวุธยุทโธปกรณ์ของจีนยังด้อยกว่าอังกฤษ และชาติฝั่งตะวันตกหลาย ๆ ชาติ มีข้อเสียเปรียบหลาย ๆ อย่าง จึงต้องเลือกที่จะเสียดินแดนส่วนน้อยไป เพื่อรักษาดินแดนส่วนใหญ่ไว้เมื่อแพ้สงคราม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนั้นกับโลกพัฒนาไปมากในวันนี้ จึงทำให้คนรุ่นเก่ากับคนรุ่นใหม่ในฮ่องกงมองโลกในแบบที่แตกต่างกัน คนรุ่นเก่ายังจดจำเรื่องราวของการต่อสู้ของคนรุ่นปู่ย่าตายายได้ ในขณะที่เด็กรุ่นใหม่เกิดมาในช่วงที่โลกพัฒนาไปไกลแล้ว ไม่ได้สัมผัสถึงอดีตที่เจ็บปวด ดังนั้นคนฮ่องกงที่เห็นด้วยกับจีนแผ่นดินใหญ่มองเด็กรุ่นใหม่อย่างอย่างคำกล่าวที่ว่า

คนฮ่องกงยอมให้ต่างชาติมาปกครอง เลือกก็ไม่ได้ ใครก็ไม่รู้อีก พอให้คนจีนมาปกครอง แถมเลือกได้ ดันไม่ยอม

ฮ่องกงมองไปที่ "จีน" ในวันนี้ จีนมีพลเมือง1,400 ล้านกว่าคนปกครอง​เป็นมณฑล 50 มณฑล ปกครองด้วยระบบคอมมิวนิสต์​ที่เด็ดขาดมากกว่ารัสเซีย​ ทำให้จีนควบคุม​พลเมืองเอาไว้ได้​ ประชาชน​จีนอยู่ดีกินดีไม่มีโจรผู้ร้ายเหมือนประเทศ​อื่น ๆ ความเจริญ​ทางเทคโนโลยี​ทำให้จีนก้าวกระโดด​มาอยู่แถวหน้าที่คนทั่วโลกจะต้องทึ่ง​ จีนมีรถไฟฟ้า​ความเร็วสูงหลายสิบสายมีความยาวนับหมื่นกิโลเมตร​และสร้างถนนที่มีความโหดและอันตรายมากที่สุดในโลกและมีลิฟต์ความเร็วสูงที่สุดในโลก มีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี​ทางการสื่อสาร ซึ่งเราสามารถสัมผัสสิ่งเหล่านี้ได้ด้วยสายตาตัวเอง เพียงแค่ไปเที่ยวและทำความรู้จักกับจีนในยุคปัจจุบันจริง ๆ หากจีนและฮ่องกงมองการพัฒนาฮ่องกงไปในทิศทางกัน น่าจะเป็นเรื่องที่ดี

ฮ่องกงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในฮ่องกง เป็นสิ่งที่ชาวโลกกำลังจับตามองว่าการตัดสินใจของรัฐบาลจีนที่มองว่า "ฮ่องกงคือส่วนหนึ่งของจีนที่ต้องดูแล" จะส่งผลอย่างไรบ้าง ส่วนและผู้ร่วมประท้วงเพื่อเรียกร้องความเป็นประชาธิปไตยให้ฮ่องกง จะสามารถเรียกร้องได้สำเร็จหรือไม่ เพราะมีข้อเรียกร้องหลาย ๆ ข้อที่ผู้ประท้วงต้องการ เช่น ให้หยุดดำเนินคดีกับผู้ชุมนุม ห้ามตั้งข้อหาผู้ชุมนุมว่าเป็นผู้ก่อการจราจล ฯลฯ  แต่สิ่งที่ไม่มีใครอยากเห็นก็คือการประท้วงที่มีการปะทะกันอย่างรุนแรงเกิดขึ้น เพราะแค่การระบาดของไวรัสโควิด-19 และสถานการณ์การประท้วงที่ผ่านมา ก็สร้างความเสียหายให้ฮ่องกงอย่างมากอยู่แล้ว...ไม่มีใครอยากเห็นฮ่องกงบอบช้ำไปกว่านี้...


ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก

BBCSCMPSCMP2statista

ขอบคุณภาพประกอบจาก pixabay

ภาพที่ 1ภาพที่ 2ภาพที่ 3ภาพที่ 4

ภาพที่ 5ภาพที่ 6ภาพที่ 7ภาพที่ 8

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์