นาทีนี้คงไม่มีใครที่ไม่รู้จักไวรัส Covid-19 ซึ่งได้แพร่กระจายไปทั่วโลกในเวลาอันรวดเร็วและได้สร้างความเสียหายต่อมนุษยชาติในแง่ต่างๆหลายด้าน ความเสียหายที่เกิดขึ้นนั้นไม่สามารถประเมินค่าได้ แต่เหรียญยังมีสองด้าน เจ้า Covid-19 เองก็เช่นเดียวกัน อย่างน้อยๆเจ้าไวรัสนี้แหล่ะทีมีบทบาทช่วยพัฒนาสกิลใหม่ๆของเราขึ้นมา ช่วยเตือนสติในสิ่งที่เคยมองข้าม ปลุกความกระตือรือร้นขึ้นมา ดูแลตัวเองได้มากขึ้น รู้จักกับเทคโนโลยีใหม่ๆ ซึ่งถ้าในช่วงเวลาปกติคงไม่เคยสนใจที่จะเรียนรู้ การปรับตัวในยุค New Normal นั้นมีมุมดีหลายมุมให้เรามอง ส่วนจะมองมุมไหนได้บ้างนั้น 8 ข้อที่นำมาแชร์ในวันนี้จะมีอะไรบ้างนั้น ไปดูกัน!!! 1.ทำกับข้าวเก่ง ชีวิตที่ผ่านมาต้องทำงานเร่งรีบแข่งกับเวลาอยู่ตลอด แต่ตอนนี้มีเวลาเหลือเฟือได้หันกลับมาใส่ใจสุขภาพ รู้จักวัตถุดิบที่จะนำมาปรุงอาหารเพิ่มขึ้น ลองทำอะไรใหม่ๆ คิดค้นเมนูที่นอกเหนือไปจากชีวิตประจำวัน จากที่เคยต้องฝากท้องไว้ตามร้านปากซอยแถวบ้าน แต่ตอนนี้ได้ฝึกฝนโชว์ฝีมือในการเป็นเชฟ คัดสรรแต่สิ่งที่มีประโยชน์ กินผัก กินเนื้อ ได้อย่างวางใจเพราะเราล้างเองกับมือ แล้วจะรู้ว่าการทำกับข้าวให้อร่อยถูกปากตนเองนั้นไม่ได้ยากเลย 2.เห็นของใช้ที่ไม่คาดว่าจะมีในบ้าน “ซื้อจนงง” ใครหลายคนคงเคยเป็น ทาสแมวยังมี นับประสาอะไรกับทาสช้อปปิ้ง มีทุกสิ่งที่มันต้องมี แม้ไม่ต้องมีก็ได้แต่มันก็มี พ่ายแพ้ให้กับคำว่า "sale"มานับครั้งไม่ถ้วน เอามาอยู่บ้านไว้ก่อนสบายใจ เป็นตายค่อยว่ากันทีหลัง ตอนนี้มีโอกาสได้ใช้มันแล้ว แต่ถ้ามีซ้ำหลายอันก็จับมัดรวมขายไปเลย ไม่แน่อาจได้อาชีพแม่ค้า พ่อค้าออนไลน์ กันแบบไม่รู้ตัว 3.ขุดเครื่องสำอางมาใช้ได้จนหมด ถ้าใครเป็นโรคบ้าซื้อเครื่องสำอาง โอกาสนี้เหมาะที่สุดแล้ว ที่จะได้รวบรวมคลังแสงเครื่องสำอางมาใช้ให้คุ้มค่า คุ้มราคากับเขาเสียที ไม่ว่าจะเป็นมาส์กทิชชู่ทื่ซื้อมาตอนลดราคา สารพัดครีมที่ซื้อมาแล้วไม่เคยได้ใช้ ไม่ใช่เพราะงานยุ่ง แต่เป็นเพราะไปช้อปเพิ่มของเก่าเลยนอนแน่นิ่งอยู่ก้นตู้ รอเจ้าของมาหยิบไปใช้ ตอนนี้เป็นโอกาสดี รีบใช้ซะก่อนที่มันจะหมดอายุ 4.มีสุขอนามัยที่ดี เรียกได้ว่าเป็นช่วงชีวิตที่อนามัยที่สุดก็ว่าได้ กดเจลแอลกอฮอล์ในทุกสถานที่ ไม่กดเขาก็ไม่ให้เข้า บางที่แบบเจล บางที่ก็สเปรย์แบบน้ำใส่มือกันเลย กลับมาก็ต้องรีบล้างมือล้างเท้า จะให้สะอาดสุดก็ต้องรีบอาบน้ำ เสื้อผ้าที่ใส่แล้วก็ต้องรีบทำความสะอาด ถ้าไม่อยากทำขนาดนี้ก็ออกไปข้างนอกให้น้อยที่สุด อะไรที่ทำบ่อยจะเคยชินจนเป็นนิสัย ก็ต้องขอแสดงความยินดีด้วย คุณได้นิสัยดีเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งอย่างแล้ว 5.เข้าสู่ยุคมนุษย์ดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ ไม่ว่าจะ work from home ประชุมออนไลน์ การส่งงาน การสั่งข้าว การเรียนที่บ้านหรือช็อปปิ้งออนไลน์ ทุกอย่างทำได้ด้วยปลายนิ้ว ไม่อยากใช้ก็ต้องใช้ เกิดการเรียนรู้ใหม่ๆ สำหรับบางคนนี่ถึงขั้นพลิกชีวิตกันเลย ถ้าเคยใช้แค่คุยไลน์ เล่นเฟส วันนี้ได้ค้นพบถึงศักยภาพแห่งมือถือที่แท้ทรู บวกกับความอัศจรรย์แห่ง application ทั้งหลายที่พัฒนาสรรหามาให้ใช้อย่างไม่หยุดหย่อน ในเมื่อโลกก้าวไปไกลยิ่งต้องก้าวตามให้ทัน 6.พบความสามารถที่ไม่เคยคาดคิด เพราะไม่เคยมีเวลาสังเกตตัวเองอย่างจริงจังเสียที นี่คือโอกาสอันดีกับที่จะได้อยู่บ้านนานขึ้น แต่เมื่ออยู่นานตังค์ก็หมดแล้วจะทำยังไงให้ไปต่อได้ เปรียบเหมือนต้นบอระเพ็ดที่ยืนหยัดอยู่ท่ามกลางทะเลทรายอันแห้งแล้ง เค้นทุกศักยภาพที่มีออกมา ทำอะไรได้ หรือไม่ได้ ณ.วันนี้ไม่มีอะไรต้องเกี่ยงงอนต่อไปอีก การที่เราได้ทำอะไรที่หลากหลายทำให้ค้นพบความสามารถอื่นๆของตนเองเพิ่มขึ้น เราจะเป็นอะไรก็ได้ขอแค่เพียงลงมือทำ 7.มองเห็นสัจธรรม มีข่าวผู้ป่วยอยู่ทุกวัน จนถึงวันนี้อาจจะกลายเป็นความชินชาไปแล้วก็ได้ ผู้ป่วยมีอยู่ทั่วโลก เราเริ่มมองเห็นถึงสัจธรรมและความเป็นไปของชีวิต เข้าถึงจิตวิญญาณมากขึ้น เข้าใจถึงชีวิตที่ดำเนินไป จากที่เคยตะเกียกตะกายแก่งแย่งตำแหน่ง หรือเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด ทำทุกทางให้ได้เงิน ฯลฯ อาจจะทำให้รู้และเข้าใจธรรมชาติ และการเปลี่ยนแปลงได้ดีขึ้น อย่างที่เขาเรียกว่า “ปลง”นั่นแหล่ะ 8.เป็นผู้บริโภคที่ชาญฉลาด เพราะต้องระมัดระวังในการใช้จ่าย คิดอย่างรอบคอบ วางแผนการใช้อย่างดี ในวันเก่าก่อนตอนที่เศรษฐกิจยังรุ่งเรืองอาจจะเคยถูกหลอกซื้อหน้ากากอนามัยไปบ้าง จะบางจะหนา ไม่มีความรู้ใดๆทั้งสิ้น แต่ในวันที่สตางค์ในกระเป๋าเริ่มบีบบังคับ การจะซื้ออะไรจึงต้องคุ้มกับเงินที่เสียไป หาข้อมูลกันถี่ยิบก่อนซื้อเลย แม้แต่ช็อปปิ้งออนไลน์ ต้องเทียบราคากัน เทียบแล้วเทียบอีก ไม่ส่งฟรีไม่สั่ง ส่งฟรีถ้าไม่ลดก็ไม่สั่ง ของที่ได้ต้องดีด้วย กลายเป็นผู้บริโภคที่ชาญฉลาดไปโดยไม่รู้ตัว นอกจาก 8 ข้อนี้ที่นำมาแชร์แล้ว หลายคนอาจจะมีมุมมองอื่นที่ต่างไป แต่อย่างน้อยก็ทำให้เราได้รู้ว่า ในความโชคร้ายก็ยังมีความโชคดีอยู่บ้าง เหรียญยังมีสองด้านอยู่เสมอ เพียงแต่เรารู้จักเลือกมุมมองและพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส ปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน อย่ายึดติดกับสิ่งที่ผ่านพ้นไปแล้ว ในอดีตก็เคยมีเหตุการณ์ร้ายแรงเกิดขึ้นเช่นกันแต่ทุกคนก็ผ่านพ้นมาได้ ขอเพียงเราเข้าใจเราก็จะเป็นผู้ที่อยู่ร่วมสมัยได้อย่างมีความสุข ในความหมายของผู้เขียน XXXX คือ LOVE แล้วของเพื่อนๆล่ะคืออะไร ร่วมแชร์กันได้ใต้ Comment ขอบคุณภาพจาก Pixabay.com Tumisu จาก Pixabay">รูปปก, Free-Photos จาก Pixabay">รูปที่1,Couleur จาก Pixabay"> รูปที่2, Ylanite Koppens จาก Pixabay">รูปที่3 Monete