เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2563 ที่ผ่านมา money heist ซีรีส์สัญชาติสเปนที่มียอดผู้ชมอย่างล้นหลามจากทั่วโลก ได้ปล่อยซีซั่น 4 ลงจอ Netflix และเต้ยดูจบเป็นที่เรียบร้อยเลยถือโอกาสนี้สรุปเรื่องตั้งแต่ซีซั่น 1 - ซีซั่น 4 ให้ผู้ที่ชื่นชอบดูหนังได้อ่านกัน สัญญาว่าจะสปอยล์เนื้อเรื่องให้น้อยที่สุดถ้าพร้อมแล้ว 3...2...1...เริ่ม!!!!!! ซีรีส์เรื่องนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับการปล้นโจรกรรม จุดเริ่มต้นของเรื่องเกิดจากชายคนหนึ่งที่อยู่ภายใต้โค้ดเนมว่า ‘ศาตราจารย์’ (Álvaro Morte) มีความคิดที่จะปล้นเงินจำนวน 2,400 ล้านยูโรจากโรงกกษาปณ์ ภายใต้แนวคิดที่ว่าเป็นการปล้นเงินที่ผลิตใหม่ ยังไม่มีใครเป็นเจ้าของ ถือได้ว่าเป็นการปล้นครั้งยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์โลก เขาจึงได้ออกตะเวนหาเดอะแก๊งที่จะร่วมกระบวนการครั้งนี้ ได้ทั้งหมด 8 คน โตเกียว (Úrsula Corberó) , เบอร์ลิน (Pedro Alonso) , ริโอ (Miguel Herrán) , เดนเวอร์ (Jaime Lorente) , เฮนซิงกิ (Darko Peric) , ไนโรบี (Alba Flores) , ออสโล (Roberto Garcia) , มอสโก (Paco Tous) และเดอะแก๊งทุกคนห้ามบอกข้อมูลส่วนตัวให้กันและกันรู้เด็ดขาด และชื่อที่ตั้งขึ้นนั้นมาจากชื่อเมืองทั้งสิ้น ในการปล้นครั้งมีกฎเหล็กสำคัญ 2 ข้อคือ 1. ห้ามตกหลุมรักหรือมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกัน 2. ห้ามฆ่าใคร ห้ามมีใครได้รับบาดเจ็บ สำนวนที่ว่ากฎมีไว้แหกใช้ได้กับเรื่องนี้ไม่มีผิดแต่อย่างใด เมื่อเข้าสู่สนามจริงทุกชีวิตต่างมีความเสี่ยง บางครั้งก็ต้องปะทะต่อสู้เพื่อความอยู่รอด ทั้งกับกองตำรวจและความขัดแย้งกันเอง แล้วยิ่งพออยู่ด้วยกันไปก็ดันรักกันขึ้นมาอีก ทำให้ศาตราจารย์ผู้ที่เฝ้าดูสถานการณ์จากข้างนอกผ่านจอมอนิเตอร์ต้องคอยหาทางช่วยชาวแก๊งให้รอดปลอดภัยและให้การปล้นครั้งนี้บรรลุล่วงไปได้ด้วยดี (ในหลาย ๆ ครั้งที่แผนเกือบล้มเหตุเกิดจากความรักทั้งสิ้น) ตามแผนการเดิมแล้วซีรีส์เรื่องนี้จบที่ซีซั่น 2 แต่ด้วยกระแสตอบรับดี เจ้าของผลงาน (Álex Pina) ตัดสินใจฟอร์มทีมลงมือเขียนและผลิตซีซั่นใหม่ออกมา ในซีซั่น 3 เปิดเรื่องด้วยชีวิตอิสระของเหล่านักปล้นหลังจากโจรกรรมครั้งนั้นสำเร็จ แต่จู่ ๆ ริโอดันถูกตำรวจจับ ทุกคนจึงกลับมารวมตัวกันอีกครั้ง เป้าหมายคือปล้นทองคำจากธนาคารกลางสเปนเพื่อเรียกร้องให้ตำรวจปล่อยตัวริโอ ซีซั่นนี้มีตัวละครใหม่เพิ่มเข้ามาทำให้เรื่องสนุก เข้มข้นยิ่งขึ้น และการปล้นทองคำธนาคารกลางสเปนก็ยังดำเนินมาถึงซีซั่นที่ 4 นี้ นอกจากเราได้ลุ้นไปกับการปล้นแล้ว ยังได้คอยติดตามดูความสัมพันธ์ของบรรดานักปล้นอีกด้วย บอกเลยได้ทั้งรสหวานและเผ็ดในเวลาเดียวกัน แล้วในซีซั่น3 – 4 พล็อตเรื่องก็ไม่ได้ต่างจาก 2 ซีซั่นที่ผ่านมา (นั่นก็คือการปล้น) ทีมผู้สร้างยังได้สอดแทรกเรื่อง LGBTQ กับ Sexual Harassment เข้ามาในเนื้อเรื่องด้วย ทำให้มีกิมมิคเล็ก ๆ น้อย ๆ ไม่จำเจจนเกินไป แถมเป็นการรณรงค์เรื่องนี้ไปในตัว อีกหนึ่งประเด็นที่น่าสนใจคือหน้ากากที่ใช้อำพรางและเพลงที่ใช้ปลุกใจของกลุ่มนั้นล้วนแล้วเป็นสัญลักษณ์ของการต่อต้านต่อระบบทุนนิยมที่ไม่เป็นธรรมของรัฐบาลภายในเรื่องนี้แทบทั้งสิ้น ใครที่อยากรู้ประวัติความเป็นมาของทั้ง 2 สิ่งนี้มากขึ้น สามารถหาข้อมูลอ่านเพิ่มเติมกันเองตามความต้องการใบหน้าที่อยู่บนหน้ากากนั้นคือ ซัลบาโด ดาลี ศิลปินชื่อดังชาวสเปน ผู้สร้างสรรค์งานศิลปะเหนือจริง และบทเพลงชื่อ Bella Ciao ของ มานู พลาส เมื่อนำเอาเพลงนี้ไปแปลเนื้อหาเพลงจะอุปมาถึงความเหลื่อมล้ำของชนชั้นทางสังคมซ่อนเอาไว้ใครที่กำลังคิดจะลองดูสักตอน 2 ตอน ขอบอกไว้ตรงนี้เลยว่า อย่าเข้าไปดู!! ถ้าได้ดูแล้วจะหยุดไม่ได้ดั่งต้องมนต์กฤษณะกาลี เรื่องนี้ของมันแรงดูแล้วติดเลย (♡μ_μ) เขียน : Isalineภาพ : Netflix , money heist part2 ; part4