Ultrasonic Wave กระตุกผิวให้กลับมามัธยม(ฟิต)อีกครั้ง การสั่นด้วยเสียงทำให้เกิดการคลายตัวของรูขุมขน หากบางคนยังสงสัย ลองไปสืบค้นในอินเตอร์เน็ตดูว่ามันทำงานอย่างไร ถ้าหากเปรียบเทียบเป็นในหนัง SiFi จะมีการพูดถึงปืน Sonic Wave หลักการทำงานของมันก็เข้าใจไม่ยากคือ การปล่อยคลื่นเสียง การสั่นด้วยความแรง แรงจนทำให้แหก แหกได้ทุกอย่าง เพราะแบบนั้นถ้าเอามาย่อส่วนและปรับความแรงที่เหมาะสมนั้น ความตันของรูที่แห้งจากการรอหน้าฝนนั้น ก็ได้กลับมามีความกระชับไม่แห้งเหี่ยวและตันอีกต่อไป แน่ะที่ว่าถึงรูนี่รูขุมขนนะอย่าคิดลึกผู้เขียนไม่ได้ส่อเลยจริ๊งๆ (เสียงสูง) ...เอาหล่ะเข้าเรื่องดีกว่าเดี๋ยวหลุดไปปากอ่าว(ออกทะเลไปเยอะ) ขอบคุณภาพจาก Freepik โดยหลักการแล้วขั้นตอนการทำการฟื้นฟูผิวก็มีหลากหลายแบบด้วยกัน เอาแบบที่ทำได้แล้วเสี่ยงน้อยหน่อยหรือแบบไม่ต้องถึงขั้นลงมีดขึ้นเขียงก็คือการ กดกระตุ้นเซลล์ผิวให้มีการขยับหรือเคลื่อนไหวหลอดเลือดทำให้มันดีขึ้นจากที่ตันอยู่ก็จะละลายหายไป ไล่ไปตั้งแต่ใช้มือนวดจนกระทั้งใช่เครื่องนวด และที่เป็นจุดขายของวันนี้ก็คือ ใช้คลื่นเสียงความเข้มข้นระดับอัลตาไฮเดฟฟินนิชั่น!! เอ้ยไม่ใช่..!!? อัลตร้าโซนิค แรงสั่นความถี่สูงแบบเข้มข้น เพื่อกระตุ้นเซลล์ผิวและทำให้เกิดการขยายตัวของสิ่งอุดตันส่งผลให้เลือดไหลเวียนดีและยังทำให้รูเปิดกว้างในขนาดตามกำเนิด ส่งผลให้ผิวแลดูมัธยม(เหมือนกับเกิดใหม่)อีกครั้ง ขอบคุณภาพจาก Freepik แต่ก็ไม่ใช่ทุกผิว ผิวบางผิวอาจจะเสียหายหรือเซลล์ที่ตายแล้วมีมาก ก็จำเป็นที่จะต้องฉาบด้วยวิตามินเจล โดยใช้เครื่องอัลตราโซนิคกดบนผิวที่มีวิตามินเจลทาไว้อยู่ เพื่อเป็นการเปิดผิวรับวิตามินเจล และทำให้วิตามินเจลย่อยขนาดให้เล็กลง และสามารถซึมผ่านผิวได้ดีขึ้น อีกทั้งขณะที่ทำอัลตราโซนิคผิวอยู่นั้น ยังส่งผลให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น เพราะสิ่งที่อุดตันหรือตกตะกอนถูกแรงสั้นทำให้แตกตัวออก หรือเซลล์ที่ถูกกดทับคลายตัวลง ทำให้มีพื้นที่ในการไหลเวียนของเลือดเพิ่มมากขึ้น จากเซลล์ที่กำลังจะเสียหายกลับมาทำงานได้ปกติหรืออาจทำงานได้ดีขึ้นกว่าเก่า ส่งผลให้เซลล์มีสุขภาพที่ดี เป็นผลให้จากที่เริ่มคล้ำและดำจากการทีเซลล์นั้นค่อยๆตายลง กลับมามีชีวิตชีวาจากการได้รับสารอาหารและออกซิเจน จากการให้วิตามินเจลผ่านไปกับเลือดที่ไหลเวียนได้ และเพื่อที่จะให้ใช้วิธีนี้แล้วได้ผลดี เราควรทำร่วมกับการผลักวิตามิน EและC เนื่องจากเป็นวิตามินที่มีผลกับผิวโดยตรง ขอบคุณภาพจาก Freepik ข้อดีของการบำรุงผิวด้วยวิธีการนี้คือ ขั้นตอนจะไม่ได้สลับซับซ้อนอะไรและสามารถทำได้ง่ายกว่า โดยขนาดของความถี่ที่เหมาะสมทางการแพทย์จะแบ่งเป็นรายละเอียดตามรายการด้านล่าง ขนาดความถี่ บริเวณผิวที่ฟื้นฟู 1 MHz ร่าง 3 MHz ผิวหน้า(กราม,หน้าผาก,แก้ม) 5 MHz รอบดวงตา ขอขอบคุณ เว็ป Jellenproducts สำหรับข้อมูล วิธีการบำรุงนี้เหมาะกับใคร ระยะเวลาที่จะทำซ้ำ ควรเว้นห่างอย่างน้อยสองสัปดาห์ เพื่อให้ผิวได้พักผ่อนและเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดรองช้ำเพราะรับแรงกระแทกบ่อยครั้งเกินไป ส่วนระยะเวลาที่จะให้เห็นผลก็ขึ้นอยู่กับคุณภาพของผิว (ระยะเวลาเฉลี่ยของคนทั่วไปที่เพิ่งเริ่มทำแล้วจะเห็นผล จะอยู่ที่ 4-6 สัปดาห์ เฉลี่ย 1 ครั้งต่อสัปดาห์ เท่ากับ 3 ครั้ง) และราคาในการทำจะประหยัดกว่าวิธีการกระตุ้นอื่นๆที่กล่าวมาข้างต้น แต่การทำวิธีนี้ต้องการเวลานานจึงไม่เหมาะกับคนที่ต้องการเห็นผลในทันที ขอบคุณภาพจาก Freepik ท้ายบทนี้ ถ้าหากจะพูดถึงการทำให้ผิวกลับมามีชีวิตชีวาใหม่โดยไม่ต้องลงมีดลงเข็มก็มีอีกวิธีหนึ่งนอกเหนือจากการทำอัลต้าโซนิค คือการยิงเลเซอร์ การยิงเลเซอร์คือการใช้พลังงานแบบเข้มข้นเหมือนกันแต่คราวนี้มาในรูปแบบของแสง ยิงเป็นจุดทำให้ร่างกายสร้างเซลล์ใหม่ขึ้นมาเลย โดยวิธีนี้จะแตกต่างจากวิธีการอัลตราโซนิค โดยการทำให้เซลล์ตายแล้วรอให้ร่างกายสร้างเซลล์ผิวขึ้นมาใหม่แทนที่ แต่จะมีข้อเสียคือจะเป็นการเปิดโอกาสให้เกิดเซลล์ผิวที่เกิดใหม่อ่อนแอและตาย ทำให้ปัญหาจุดต่างดำหนักขึ้น ถ้าหากเราไม่ปกป้องกระบวนการเกิดใหม่ของเซลล์จากแสงแดด จากเชื่อแบคทีเรีย และความเป็นกรดเป็นด่างของการถูกเหงื่อกัด โดยส่วนมากการที่คลินิกเลือกเสริมความงามแบบนี้เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดแผล สามารถทำได้ง่าย ผิวจะสามารถฟื้นตัวได้เร็วและเกิดความเสียหายน้อยกว่าและทำได้บ่อยกว่า ภาพปกโดยผู้เขียน นามปากกา LoongAy