ภาพ : จากหนังสือโลกแห่งน้ำ (Gistda, 2555), pixabay พระมหากษัตริย์ไทย ในอุทกยุทธภูมิและกลศึก : สมเจตน์ ทิณพงษ์ ก่อนอื่นขอทำความเข้าใจเกี่ยวกับชื่อเรื่อง "พระมหากษัตริย์ไทย ในอุทกยุทธภูมิและกลศึก" กันก่อน ซึ่งก็หมายความถึงพระมหากษัตริย์ไทยกับการแก้ไขปัญหาของน้ำ ที่เปรียบเสมือนข้าศึกที่มารุกรานประเทศบ้านเมืองนั่นเอง ดังนั้นก็หมายความว่าประเทศไทยตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบันนั้นได้เผชิญกับวิกฤตเกี่ยวกับน้ำมาโดยตลอด แล้วเรามาดูกันว่าพระมหากษัตริย์แต่ละพระองค์ แต่ละยุคแต่ละสมัยนั้นมีพระปรีชาสามารถมาน้อยเพียงใดในการต่อสู้กับสถานการณ์น้ำ ที่เปรียบกับข้าศึกที่มารุกรานที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้ทัน และการปรับยุทธวิธีในการใช้น้ำให้เกิดประโยชน์ต่อบ้านเมืองในด้านต่าง ๆ ภาพแผนที่โบราณของราชอาณาจักรไทย : จากหนังสือโลกแห่งน้ำ (Gistda, 2555) อุทกชัยภูมิ กรุงศรีอยุธยา : กลศึกด้วยน้ำ พ.ศ. 1893 กรุงศรีอยุธยาได้รับการสถาปนาเป็นราชธานีขึ้นโดยพระเจ้าอู่ทอง ทรงเป็นปฐมกษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยา ซึ่งเป็นต้นราชวงศ์อู่ทอง ในนามพระรามาธิบดีที่ 1 พระองค์ทรงเห็นว่าพื้นที่อยุธยาตรงนี้ เป็นที่ลุ่มและมีหนองน้ำขังอยู่ทั่วไป เป็นที่อุดมสมบูรณ์ มีชัยภูมิเหมาะที่จะตั้งอาณาจักรแห่งใหม่นอกเหนือสุโขทัย พระองค์จึงดำริให้อพยพผู้คนข้ามแม่น้ำเจ้าพระยามาตั้งเมืองใหม่ที่ริมหนองโสน หรือที่รู้จักกันว่า "บึงพระราม" ในปัจจุบัน ทรงเห็นว่าเป็นทำเลดี ชัยภูมิของอยุธยามีแม่น้ำโอบล้อมถึง 3 สาย ได้แก่ แม่น้ำเจ้าพระยา ไหลผ่านด้านทิศตะวันตกและด้านทิศใต้ แม่น้ำป่าสัก ไหลผ่านด้านทิศตะวันออก และแม่น้ำลพบุรี ไหลผ่านด้านทิศเหนือ แต่แรกเดิมทีบริเวณนี้ไม่ได้มีสภาพเป็นเกาะอย่างที่เห็น มีการขุดคูคลองเชื่อมแม่น้ำทั้ง 3 สาย เพื่อให้เป็นปราการธรรมชาติป้องกันภัยจากข้าศึก อีกทั้งเป็นคูคลองระบายน้ำของราชอาณาจักรอีกด้วย และยังสามารถเป็นประตูออกสู่ทะเล นับเป็นจุดเริ่มต้นของความรุ่งเรืองมั่งคั่ง เมืองที่ยิ่งใหญ่แห่งดินแดนสุวรรณภูมิที่สืบเนื่องยาวนาน กรุงศรีอยุธยาถือว่าเป็นราชธานีแห่งแผ่นดินสยามจวบจนบัดนี้นับได้เกือบ 700 ปี การปรับชัยภูมิ ตัดแม่น้ำ ลำคลอง พ.ศ. 2076 พระไชยราชาธิราชขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์กรุงศรีอยุธยาพระองค์ที่ 13 ขณะนั้นพม่าในยุคของพระเจ้าตะเบ็งชะเวตี้ มีความเข้มแข็งในการสงครามมาก ได้แผ่อิทธิพลขยายอาณาเขตเข้ามามีอำนาจครอบครองในดินแดนหัวเมืองต่าง ๆ ของอยุธยา สมเด็จพระไชยราชาธิราชทรงเสด็จยกทัพไปสู้รบกับพระเจ้าตะเบ็งชะเวตี้ กรุงศรีอยุธยากับพม่าจึงเกิดการเผชิญหน้ากันขึ้น จึงทำให้เกิดศึกในยุทธภูมิต่าง ๆ เช่นที่ เชียงกราน ภาพแผนที่เมืองอยุธยาในอดีต : จากหนังสือโลกแห่งน้ำ (Gistda, 2555) ยุทธศึกท่ามกลางน้ำล้อมก่อนเสียกรุง ครั้งที่ 1 พ.ศ. 2081 ถือเป็นสงครามไทยกับพม่าเป็นครั้งแรก โดยในยุคนั้นมีการดำเนินการปรับภูมิทัศน์ของเมืองเชิงอุทกศาสตร์ มีการขุดคลองลัดบางกอกในแม่น้ำเจ้าพระยาที่มีเส้นทางคดเคี้ยวไปมา ในลักษณะคอดกิ่วอยู่หลายแห่ง เพื่อย่นระยะทางในการเดินเรือ แม่น้ำเจ้าพระยาช่วงบางกอกเป็นเส้นทางน้ำโค้งขนาดใหญ่ อ้อมไปตามแนวบางกอกใหญ่ถึงบางหลวง แล้วอ้อมขึ้นไปทางเหนือผ่านบางขุนศรี ตลิ่งชัน และบางระมาด แล้ววกกลับมาบางกอกน้อยเลี้ยวขึ้นเหนือไปทำให้แผ่นดินระหว่างบางกอกน้อยและบางกอกใหญ่คลอดกี่จนสามารถเดินถึงกันได้ พระองค์จึงมีพระราชดำริให้ขุดคลองลัดตรงส่วนที่คอดกิ่ว ทำให้ย่นระยะทางและเวลาจากกรุงศรีอยุธยาไปจนถึงปากแม่น้ำได้มาก มีการสร้างคลองบางกอกน้อย คลองบางหลวง คลองบางใหญ่อย่างที่เห็นในปัจจุบัน ภาพผังเมืองอยุธยาในอดีต : จากหนังสือโลกแห่งน้ำ (Gistda, 2555) พ. ศ. 2091 กรุงศรีอยุธยามีสมเด็จพระมหาจักรพรรดิเป็นกษัตริย์ปกครอง กองทัพหงสาวดียกมาถึงอยุธยาประมาณเดือนมีนาคม (จิตรสิงห์ ปิยะชาติ, 2552) จึงมีเวลาเพียง 5 เดือนจะเข้าสู่ฤดูฝน หากไม่สามารถบุกเข้าเมืองได้ก็ต้องพบกับสภาพน้ำท่วมต้องเลิกรายกทัพกลับไป อีกทั้งอยุธยามีชัยภูมิน้ำล้อมรอบสามารถนำเรือบรรทุกปืนใหญ่ไล่ยิงข้าศึกที่เข้ามาใกล้ฝั่งได้ พ.ศ. 2491-2106 หลังจากพม่ายกทัพกลับไปพระมหาจักรพรรดิโปรดให้ปรับปรุงยุทธศาสตร์ในการป้องกันไม่ให้ข้าศึกอาศัยเป็นที่ตั้งมั่น มีการโปรดให้ขุดคลองมหานาคเป็นคูเมืองออกไปถึงชายทุ่งเขาทอง พ.ศ. 2106 พระเจ้าบุเรงนองได้ยกทัพเข้าตีหัวเมืองทางเหนือเริ่มจากพิษณุโลก ซึ่งขณะนั้นสมเด็จพระมหาธรรมราชาครองเมืองอยู่ แต่ไม่สามารถยันทัพพม่าไว้ได้ สุดท้ายจึงยอมจำนน อ่อนน้อมจนพระเจ้าบุเรงนองตั้งให้เป็นพระศรีสรรเพชญ์ หรือเจ้าฟ้าสองแคว ครองเมืองพิษณุโลกทางเดิมแต่ในฐานะหัวเมืองประเทศราชของพม่า จากเนื้อความเหตุการณ์ข้างต้นจะเห็นว่านอกจากน้ำจะมีประโยชน์ในด้านยุทธวิธีทางการปกป้องประเทศจากข้าศึกแล้ว พระปรีชาสามารถของพระมหากษัตริย์ไทยในอดีตเกี่ยวกับการตั้งราชอาณาจักรที่มีทำเลใกล้แม่น้ำลำคลองเพื่อใช้ประโยชน์ต่าง ๆ เช่น ด้านการเกษตร การคมนาคมทางน้ำ การอุปโภคบริโภค นอกจากนี้เรายังจะเห็นถึงการมีการขุดคลองเพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์จากแหล่งน้ำ และน้ำเพิ่มขึ้นได้อีก ภาพ เรื่อง : จากหนังสือโลกแห่งน้ำ (Gistda, 2555) เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !