ประเทศอัลเบเนีย มันอยู่ส่วนไหนของโลกันน่ะ ไม่ต้องตกใจค่ะ อัลเบเนียก็อยู่ในภาคพื้นยุโรปเหมือนกัน อยู่ทางใต้ค่ะ ที่เพราะไม่เป็นท่ี่รู้จักกันมากนัก เพราะประเทศอัลเบเนียนั้นเคยเป็นคอมมิวนิสต์สายสตรองมาก่อน สตรองขนาดที่ขึ้นชื่อว่าเป็น เกาหลีเหนือของบอลข่านเลยล่ะค่ะ วันนี้จะพามาดูบ้านเมืองหลวงของประเทศอัลเบเนีย กรุงทีราน่า ( Tirana ) จะเป็นอย่างไร ตามมาเลยค่ะ ในส่วนของการเดินทางนั้น เราเดินทางมากจากประเทศมอนเตเนโกร เมืองบุดว่า จองตั๋วผ่านอินเตอเน็ตเลยค่ะ เว็บ goeuro.com สะดวกมาก ไปรับตั๋วหน้าเคาเตอร์เลย ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4-5 ชั่วโมง รวมผ่านตม อีกค่ะ ตอนผ่านตม . นั้นรถเยอะมาก แถวยาวมาก ๆ รอนานถึงชั่วโมงกว่า รถจนลงไปเดินเล่นได้เลยค่ะ ข้าง ๆ จะเป็นทะเลสาบ Lake Shkodër เป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปใต้ค่ะ วิวสวยมาก ๆ ลมพัดดีเลย การเดินทางเข้าประเทศอัลเบเนียต้องมีวีซ่าอัลเบเนียค่ะ แต่ใครมีเชงเก้นวีซ่าแบบเข้าออกได้หลายครั้งก็ใช้ได้ค่ะ ส่วนเรามาแลกเปลี่ยนที่ประเทศฮังการีทำให้มีเชงเก้น สบายตัวเลยค่ะ อิอิ ไม่นานก็เข้าสู่เมืองหลวงทีราน่า ด้านนอกเมืองค่อนข้างโล่งและตึกราบ้านช่องเก่ามาก ๆ ค่ะ ดูแปลกตาดี ถ้าเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน อัลเบเนียยังถือเป็นประเทศที่ยากจนมาก แม้ว่าจะอยู่ในยุโรป แต่ก็รายได้ไม่ได้เยอะ แถมคนอพยพออกไปต่างประเทศเพื่อชีวิตที่ดีกว่าด้านรายได้ค่ะ พอมาถึงสถานีรถบัสนั้น เราได้โหลดแผนที่มาไว้แล้วค่ะ ประเทศอัลเบเนียนั้นส่วนใหญ่เป็นมุสลิมนะคะ แนะนำว่าการแต่งตัวให้มิดชิดหน่อย เพื่อเลี่ยงสายตาที่ไม่พึงประสงค์ เราวางแผนจะไปเยี่ยมชม Mosaic of Tirana เป็นโบราณสถานเก่าแก่ต้องแต่สมัยโรมัน ยุคก่อตั้งเมือง แรก ๆ เลยค่ะ ค่าเข้าฟรีค่ะ แต่คุณลุงที่เฝ้านั้น ไม่เป็นมิตรเอาเสียเลย เราถึงกับรีบ ๆ เดินดูแล้วรีบออกมาค่ะ คงเห็นว่าเรามาตอนบ่าย ๆ กวนเวลานอน แกถึงกับกวักมือไล่ให้เราไปเสีย เราถึงกับอึ้งเลยละคะ 555 การเก็บรักษานั้นค่อนข้างแย่เลยละคะ ตากแดดตากฝน แถมมีขยะวางอยู่วัตถุโบราณเป็นพัน ๆ ปี เราถึงกับอึ้ง แต่ก็คงคิดว่าเค้าไม่ได้เงินสนับสนุนมากมายนัก และชาวอัลเบเนียนั้นไม่ได้มีความรู้สึกถึงความผูกพันธ์กับพวกสิ่งโบราณพวกนี้ที่มีพื้นเพเป็นของชาวโรมัน คนอัลเบเนียได้ผ่านยุคคอมมิวนิสต์ที่อาจจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของความคิด ละทิ้งวัฒนธรรม และคุณค่าของรากเหง้าและวัตถุโบราณ ทำให้การให้ความสำคัญกับคุณค่าของโบราณสุถานและวัตถุไม่ได้มีมากนัก เป็นความคิดเห็นส่วนตัวนะคะ บ้านเมืองนั้นจะเห็นว่าเป็นตึกบล็อก ๆ ที่เป็นสไตล์คอมมิวนิสต์ ใครที่เคยไปยุโรปตะวันออกมาบ้างแล้ว จะเห็นว่าประเทศที่เคยปกครองโดยคอมมิวนิสต์จะมีตึกบล็อก ๆ แบบนี้ เพราะเป็นลักษณะพื้นฐานในยุคนั้นที่ทุกคนจะได้ที่พักอาศัยเหมือนกัน สร้างแบบเดียวกัน แต่เรากลับคิดว่าที่อัลเบเนียนั้นสีสันสวยงาม มี Graffiti เก๋ ๆ ทุกมุมถนน เนื่องจากเป็นประเทศสุดท้ายที่เราจะบินกลับประเทศฮังการีในค่ำคืนนี้ ทำให้เราแลกเงินนิดหน่อยค่ะ ค่าเงินของประเทศอัลเบเนียเรียกว่า Lek เลคอัลเบเนีย 1 euro = 120 Lek ค่ะ ประเทศอัลเบเนียนั้น อยู่ด้านใต้มอนเตเนโกรและเซอร์เบีย ความสัมพันธ์กับเซอร์เบียนั้นไม่ดีเลยค่ะ เพราะกำลังมีปัญหายุ่งยากเรื่องของ Kosovo ที่ประกาศเป็นประเทศอิสระ แต่ว่าเซอร์เบียบอกว่า โคโซโวเป็นส่วนหนึ่งของเซอร์เบีย และอัลเบเนียเป็นคนที่สนับสนุนให้โคโซโซเป็นอิสระ สองประเทศจึงมองหน้ากันไม่ติดมาแต่ไหนแต่ไรแล้วค่ะ รบกันบ่อย ๆ ตั้งแต่อดีตมาแล้ว สาเหตุที่อัลเบเนียมีประชากรมุสลิมนั้นมาจากเคยตกอยู่ใต้ออตโตมัน(ตุรกี) ก่อนจะเป็นอิสระ และก็กลายมาเป็นคอมมิวนิสต์แบบเข้มเข็ง โดยผู้นำที่ชื่อว่า โฮซา ( Hoaxa ) ประเทศอัลเบเนียนั้นเคยเป็นพันธมิตรที่ดีในสมัยประธานเหมา กับประเทศจีน เป็นเรื่องที่แปลกใจมาก ๆ เพราะจะเห็นสิ่งก่อสร้าง และภาษาจีนเป็นแหล่ง ๆ บ่งบอกว่าได้เคยมีสัมพันธไมตรีกับจีนในยุคคอมมิวนิสต์ค่ะ ตรงจตุรัสกลางเมืองนั้นดูสวยงาม ใหญ่โต มีทั้งโรงโอเปร่า สำนักงานต่าง ๆ เป็นประเทศที่ตึกเหลี่ยม ๆ บล็อก ๆ เยอะจนดูหลอกตาเลยละคะ มีคนออกมาออกกำลังกาย ปั่นจักรยาน ทำกิจกรรมในชีวิตประจำวัน นักท่องเที่ยวน้อยมาก เดินมาเป็นชั่วโมงยังไม่เจอคนเอเชียเลยสักคน คนส่วนใหญ่ดูเหมือนจะไม่ได้สังเกตหรือแปลกใจที่เราเป็นเอเชียเดินอยู่บนถนนเลยค่ะ หลังจากสังเกตรอบ ๆ แล้วไม่เห็นแบรนด์อะไรที่เป็นของต่างประเทศมากนัก แถมพวกฟาสต์ฟูดก็ไม่มีเลยค่ะ KFC Macdonald Starbucks ไม่มีเลย ร้านอาหารส่วนใหญ่ไม่รับเครดิต เงินสดเท่านั้นค่ะ ทำให้เราต้องเข้าไปในห้าง เพื่อเข้าซุปเปอร์มาเก็ตเพื่อจะซื้อพวกน้ำและของกินค่ะ ห้างใหญ่โตแต่ไม่มีแบรนด์ที่รู้จักเลยค่ะ ห้างอยู่ข้างๆ จัตุรัสใจกลางเมือง หาง่ายมาก ๆ มีอินเตอร์เน็ตให้ใช้ฟรีด้วยเผื่อใครอยากจะโหลดแผนที่หรือติดต่อกับคนอื่น แนะนำขึ้นไปชั้นที่เป็นฟู๊ดคอร์ทค่ะ จะมีวิวอลังการเห็นทั้งเมืองแบบฟรี หรือจะสั่งอาหารมานั่งทานด้วยก็ได้ค่ะ ค่าครอบชีพถือว่าถูกมาก ถูกที่สุดในยุโรปแล้วละค่ะ เคบับไก่ราคา 1 Euro หรือ 30 บาทเท่านั้น หนึ่งวันในอัลเบเนียทำให้เรียนรู้ประเทศอัลเบเนียในแง่ผิวเผินเท่านั้น คนอัลเบเนียนั้นเป็นคนปาร์ตี้เก่ง เป็นมุสลิมที่ไม่คลุมผม แต่หน้าจะคมเข้มเหมือนชาวอิตาลี บ้านเมืองดูเคร่งขรึม ไม่ค่อยมีชีวิตชีวามากเท่าไหร่ แต่ยังไม่ถูกคลอมงำด้วยทุนนิยม แบรนด์อเมริกาไม่มีเลยค่ะ หลาย ๆ อย่างยังคงเป็นร้านเล็ก ๆ ที่แลกเงินก็มีไม่เยอะ ส่วนตัวคิดว่าเป็นเมืองหลวงที่ไม่ค่อยมีอะไรน่าดูนัก เพราะคนส่วนใหญ่จะไปเที่ยวทะเลสาบชโกดาร์ และเทือกเขา ภูเขาสวย ๆ ในประเทศแทน เราแบกเป้กลับฮังการีด้วยความรู้สึกแปลกใหม่ เพราะทริปบอลข่านครั้งนี้ ตั้งใจอยากจะมาคนเดียว อยากมาลุยเดี่ยว เคยได้ยินคนพูดว่าเที่ยวยาก ไม่ปลอดภัย แต่ไม่จริงเลยค่ะ ไม่มีอะไรยากถ้าวางแผนมาดี และต้องรู้จักยืดหยุ่นและเปิดใจ ใครที่มีแผนอยากมาท่องเที่ยวประเทศแถวบอลข่าน แนะนำเลยว่าการนั่งบัสข้ามประเทศง่ายมาก ๆ พกเงินยูโรมาแลกได้ ไม่ต้องกังวลเรื่องค่าเงิน จองโรงแรมผ่าน Booking ไม่ก็แอพอื่น ๆ แล้วแต่ตามสะดวก กระเป๋าเป้สักใบ เดินทางง่ายสะดวก 10 วันในทริปครั้งนี้ทำให้เราหลงรักประเทศแถบนี้เลย ประวัติศาสตร์ที่ต้องดิ้นรนต่อสู้ผ่านอะไรกันมาแบบหนักหน่วง ทำให้พวกเค้ามีความพิเศษในแบบของตัวเอง หากไม่มาเห็นด้วยตัวเองก็คงไม่ได้เจออะไรแปลกใหม่ เปิดโลกเรามากเลยค่ะ ครั้งหน้าจะไปไหนอีก ติดตามได้ที่เพจ Whynottravel ลิ้งค์เพิ่มเติมอยู่ด้านล่างค่ะ The world is a book, and those who don't travel only read one page.― St Augustine โลกนี้เปรียบเสมือนหนังสือ และบุคคลผู้ไม่ออกเดินทางก็เท่ากับว่าอ่านหนังสือเพียงหน้าเดียว - เซนต์ ออกัสติน ( ภาพทั้งหมดถ่ายโดยนักเขียน ) เพิ่มเติม : แชร์ประสบการณ์ นักเรียนทุนประเทศ “โรมาเนีย” มีดีมากกว่าปราสาทแดรกคูล่า ไปแลกเปลี่ยนกับทุน CEEPUS ที่บูดาเปสต์ ฮังการี 🇭🇺🇪🇺 One Semester in Budapest , HU True-ID : Whynottravel