เมื่อสามสิบกว่าปีก่อนโน้น มีวงดนตรีวงหนึ่งจากประเทศนอร์เวย์ได้นำเพลงชื่อ "Take On Me" ออกมาเขย่าวงการเพลงสากล ด้วยมิวสิควิดีโอที่เล่าเรื่องด้วยภาพซึ่งผสมผสานระหว่างการแสดงของคนจริง ๆ กับ ภาพที่วาดด้วยลายเส้นดินสอ เพลงนี้ทำให้โลกรู้จักกับ A-ha วงดนตรีในแนวที่สมัยนั้นเรียกกันว่า "เทคโนป็อป" มีสมาชิกเป็น 3 หนุ่ม หน้าตาดีแบบแปลกๆตา ได้รับความสำเร็จอย่างงดงาม ทั้งในยุโรปและอเมริกา โดยเฉพาะที่อเมริกา A-ha เป็นวงที่มาจากนอร์เวย์วงแรกในประวัติศาสตร์ ที่มีเพลงขึ้นถึงอันดับหนึ่งได้ที่นั่นในสมัยที่การเข้ามาเป็นศิลปินเพลงป็อป ไม่ได้มีเวทีประกวดมากมายให้เป็นทางลัดก้าวเดินมากนัก ด้วยที่ความฝันของตัวเอง มันใหญ่เกินกว่าจะทำได้ในบ้านเกิดเมืองนอนของตัวเองขอบคุณภาพ "สมาชิกทั้งสามของวง A-ha" จาก: amesbond raul | Commons.wikimedia.org ภายใต้ CC BY-SA 4.0สามหนุ่มวัยยี่สิบต้น ๆ วง A-ha จึงต้องเดินทางไปสานฝันกันที่ประเทศอังกฤษ หนึ่งในเมืองหลวงของวงการเพลงป็อบโลกในยามนั้น อยู่กันอย่างยากลำบากในอพาร์ตเม้นท์ราคาถูก ที่ต้องหยอดเหรียญเพื่อใช้ไฟฟ้า ยังชีพด้วยเงินเก็บจากการทำงานพิเศษที่นำติดตัวมาจากบ้านพยายามแต่งเพลง บันทึกเสียงเป็นเดโมเทป เพื่อนำไปเสนอกับค่ายเพลงต่าง ๆ คาดหวังจะได้เซ็นสัญญาเป็นศิลปินเพื่อออกอัลบั้มเพลงของตัวเองแต่โชคอาจยังไม่เข้าข้าง จนเงินทุนหมดแล้วก็ยังไม่ได้เซ็นสัญญา จึงต้องเดินทางกลับไปทำงานหาเงินที่บ้านเกิด ด้วยการเดินเท้าข้ามประเทศกลับ เพราะไม่มีเงินค่ารถ เมื่อได้ทุนก้อนใหม่ ก็เดินทางกลับมาที่อังกฤษอีกครั้งเพื่อพยายามกันใหม่อีกรอบขอบคุณภาพ "มือคีย์บอร์ดของวง A-ha" จาก: Andrew Hurley | flickr ภายใต้ CC BY-SA 2.0จนสุดท้าย ได้มาเจอกับ Terry Slater ผู้ที่ต่อมาได้กลายเป็นผู้จัดการวงที่เสมือนเป็น 'พ่อทูนหัว' ของสมาชิกทั้งสามคน ช่วยผลักดันจนทั้งวงและงานเพลงของพวกเขาไปเข้าตาเข้าหู จนได้เซ็นสัญญากับค่ายเพลงยักษ์ใหญ่อย่าง Warner Brothers ที่ให้การสนับสนุนเป็นอย่างดีโดยดึงตัว Steve Barron ผู้กำกับมือดีที่เคยกำกับให้มิวสิควิดีโอของศิลปินชั้นนำอย่าง Michael Jackson และวง Culture Club มากำกับให้ และได้ออกมาเป็นมิวสิควิดีโอที่กลายเป็นปรากฏการณ์แห่งยุค 80s ที่ผู้คนมากมายยังคงจดจำได้มาจนถึงทุกวันนี้ด้วยแรงส่งจากความนิยมอย่างล้นหลามในมิวสิควิดีโอที่เผยแพร่ผ่านทาง MTV ทำให้เพลง "Take On Me" ทะยานขึ้นอย่างรวดเร็วบนชาร์ต Billboard Hot 100 ของอเมริกา และสามารถขึ้นไปถึงอันดับหนึ่งได้ในวันที่ 19 ตุลาคม ของปี 1985 ซึ่งก็เป็นอันดับหนึ่งครั้งแรกและครั้งสุดท้ายบนชาร์ตนี้ของวงมาจนถึงปัจจุบันในปี 2018 ที่ผ่านมา เว็บไซต์ข่าว Quartz พบว่า "Take On Me" เพลงซินธ์ป๊อปสุดฮิตจากยุค 80s ของวงสัญชาตินอร์เวย์นาม A-ha เป็นหนึ่งในเพลงโปรดของบรรดาเหล่าผู้สร้างภาพยนตร์ในฮอลลีวู้ดจะเห็นได้ชัดจากการปรากฏของเพลงนี้ในหนังดังอย่าง Deadpool 2, Ready Player One, Riverdale และล่าสุดในภาคแยกของหนังตระกูล Transformers อย่าง Bumblebee ก็เช่นเดียวกันภาพข่าวจาก Quartz.com โดย: ยุคคาสเซ็ทอันที่จริงตลอดหนึ่งทศวรรษที่ผ่านมา เพลงนี้ก็ได้ถูกนำมาใช้ในภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดอยู่ตลอด แต่พบว่าในช่วง 2-3 ปีหลังมานี้ จะพบเจอได้มากขึ้นเป็นพิเศษ โดยเฉพาะเมื่อมีการนำไปใช้ในฉากสำคัญของหนังดังระดับรางวัลออสการ์อย่าง La La Land ในปี 2016 ด้วยแล้วก็ยิ่งแสดงให้เห็นถึงอิทธิพลอย่างมากของเพลงนี้ที่มีต่อวัฒนธรรมป๊อปของอเมริกา ถึงแม้ว่าว่าเวลาจะผ่านมาแล้วกว่า 30 ปีแล้วก็ตามตลอดระยะเวลากว่า 3 ทศวรรษที่ผ่านมา วง A-ha ได้สร้างสรรค์ผลงานเพลงมากมายจนสร้างชื่อเสียงให้ประเทศนอร์เวย์ได้เป็นที่รู้จักในทั่วโลกในปี 2012 สมาชิกทั้งสามของ A-ha คือ Magne Furuholmen(มือคีย์บอร์ด), Morten Harket(นักร้องนำ) และ Paul Waaktaar Savoy(มือกีต้าร์) จึงได้รับการแต่งตั้งให้เป็นอัศวินแห่งราชวงศ์นอร์เวย์ ซึ่งก็ถือว่าเป็นเกียรติยศสูงสุดอันน่าภาคภูมิใจที่นักดนตรีพึ่งได้รับจากอาชีพของพวกเขาและเพลงนี้คือ จุดเริ่มต้นของเรื่องราวความสำเร็จของอัศวินทั้งสาม เพลงซินธ์ป็อปสนุกสนาน หนึ่งในเสียงแห่งยุค 80s ที่ชื่อ "Take On Me"คลิกที่นี่เพื่อชมมิวสิควิดีโอเพลงนี้บน Youtubeเครดิตภาพหน้าปก: ยุคคาสเซ็ทอ้างอิง:https://qz.com/quartzy/1494804/the-indelible-beauty-of-take-on-me-hollywoods-favorite-song-of-2018/https://en.wikipedia.org/wiki/A-hahttps://en.wikipedia.org/wiki/Take_On_Me