ตอนวางแผนเที่ยวยังคิดกันอยู่ว่าจะไปดีไหม คนจะเยอะไหม ไม่ชอบความวุ่นวาย สตาร์บัคไหนๆ ก็น่าจะเหมือนกัน ออกจากที่พักวันนั้นก็สายแล้ว สิบโมงกว่า เดินไปประมาณกม.กว่า เดินไปถึงแล้วก็ยังไม่เข้าเลยทันที ยังเดินข้ามถนนไปถ่ายรูปก่อนรอบหนึ่ง พอเข้าไปถึงกับตะลึง คนไม่เยอะอย่างที่คิด แต่ที่สะดุดตามากเมื่อเข้ามาถึง คือ โรงคั่วกาแฟที่อยู่ตรงหน้า เข้าไปน่าจะเป็นล็อตแรกกำลังคั่วด้วย ที่ประทับใจก็เป็นเพราะหากคนที่ทำงานในสายโรงงานการผลิตมาจะมีความสนใจไลน์การผลิตต่างๆ เป็นการส่วนตัว และอีกอย่างการที่โรงงานจะอยู่ด่านหน้าฝ่ายขายจะต้องมีความสะอาด เรียบร้อยมากๆ ถึงจะกล้าโชว์ได้ นี่ถือได้ว่ามีครบถ้วน เครื่องจักรทันสมัย สะอาด เรียบร้อย น่าประทับใจจริงๆ ถังเก็บกาแฟที่คั่วแล้ว เดินขึ้นไปชั้น 2 ก็จะเป็นส่วนชา และคอกเทล ที่สร้างสรรค์เมนูกาแฟ กับแอลกอฮอล์ได้อย่างลงตัว แต่ก็ไม่สามารถลองได้ครบทุกเมนู ไม่งั้นคงไปไหนต่อไม่ได้แน่ๆ Nitro Coffee Martini Kenya Grapffruit IPA ความโชคดีต่อมาคือวันที่ไปเป็นวันครบรอบสาขานี้ปีที่ 2 พอดี ถ้าทานครบ 199 RMB จะได้ของที่ระลึกด้วย เราก็จัดไปได้มา 2 อัน ด้วยการผันงบประมาณอาหารของวันก่อนๆ ที่ทานน้อย มาทานในมื้อนี้ แทน ฮาาาา นั่งคุยกะพนักงานเพลินเกี่ยวกับเมืองไทย เลยได้รู้ว่าพนักงานคนนี้เคยไปเมืองไทยครั้งหนึ่ง เค้าบอกว่าไปบางคล้า ฉันก็เดาได้เลยว่าต้องเป็นโรงงานเอทานอลแน่ๆ เค้ากลับชอบเมืองไทยเพราะรู้สึกว่าเมืองไทยนั้นก็เหมือนเซี่ยงไฮ้ในเรื่องของความเจริญ และคนไทยก็จะให้ความเป็นมิตรกับคนแปลกหน้าพร้อมให้ความช่วยเหลือได้เสมอ นั่งคุยกันเพลินๆ ประมาณบ่ายสาม คนก็เริ่มแน่นขึ้นเรื่อยๆ เราคงต้องไปแล้วสินะ ความคิดที่ว่าคนน้อยนั้นไม่ใช่เลย มันไม่ใช่เวลาของเค้ามากกว่า จากที่สังเกตวิถึชีวิตคนจีนอย่างหนึ่ง ไม่รู้ว่าถูกหรือผิด คือเค้าจะเริ่มงานช้า และเลิกงานเร็ว เมื่อเทียบกับบ้านเรา โดยดูจากเวลาเปิดปิดของรถไฟฟ้าที่เปิดหกโมงเป็นต้นไป ไม่ถึงเที่ยงคืนก็ปิดแล้ว ใครมีโอกาสได้ไปเซี่ยงไฮ้ และไม่รีบจนเกินไป น่าไปลองกันนะคะ เพราะ มันหาไม่ได้ในเมืองไทยจริงๆ ในเรื่องของความหลากหลาย คอกาแฟ และคอแอลกอฮอล์ ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง