เป็นอีกครั้งที่ความผันผวนของสภาพอากาศโลกทำให้หลายฝ่ายต้องเตรียมตัวรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น ที่ผ่านมาในแวดวงสิ่งแวดล้อม มีความพยายามจะบรรเทาภาวะโลกร้อนโดยการรณรงค์ให้ประชากรโลกร่วมมือกับการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต รวมทั้งการออกนโยบายลดใช้พลังงานเชื้อเพลิง ควบคุมกิจกรรมหลายประเภทที่เป็นต้นเหตุในการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศ แต่จากรายงานล่าสุดทำให้เราต้องเตรียมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศครั้งใหม่ เพราะจากโลกร้อนจะกลายเป็นโลกเย็น ภาวะอากาศหนาวขั้นรุนแรงจนกระทบต่อวิถีชีวิต อันเป็นผลจากภาวะการเย็นตัวลงของดวงอาทิตย์ (Solar Minimum) ต้องทำความเข้าใจถึงภาวะ Solar Minimum กันก่อนว่าเป็นอย่างไร ถ้าจะพูดให้เข้าใจกันง่าย ๆ อยากให้ลองเทียบกับการใช้งานคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟนที่จะมีโหมด Sleep หรือ Hibernate ที่จะเป็นการพักการทำงานชั่วคราว ดวงอาทิตย์ก็เช่นเดียวกัน เมื่อถึงระยะเวลาหนึ่งก็จะพักการทำงาน แผ่ความร้อนน้อยลง ส่งผลให้โลกของเรามีอุณหภูมิต่ำลง เรื่องนี้หากจะขยายความเจาะลึกลงไปในรายละเอียด จากการสำรวจของ NASA และ SpaceX พบว่าจุดมืด (Sunspot) ซึ่งเป็นสนามแม่เหล็กไฟฟ้าที่ปั่นป่วนอยู่บนดวงอาทิตย์นั้นลงลดเป็นจำนวนมาก จุดมืดแต่ละจุดมีอุณหภูมิกว่า 4,000 องศาเซลเซียส คราวนี้พอดวงอาทิตย์เข้าสู่โหมดจำศีล จุดมืดเหล่านี้ก็ไม่เกิดขึ้นเพราะดวงอาทิตย์ไม่ทำงาน จึงทำให้อุณหภูมิสูงสุดของจุดมืดแต่ละจุดหายไปด้วยนั่นเอง แล้วภาวะพักการทำงานของดวงอาทิตย์จะส่งผลให้เกิดอะไรต่อโลกของเรา แน่นอนว่าเมื่อดวงอาทิตย์แผ่ความร้อนน้อยลง อุณหภูมิของโลกก็จะลดลงไปด้วย มาถึงตรงนี้ผู้คนที่อาศัยอยู่ในประเทศเขตร้อนอาจจะรู้สึกดีใจ แต่หากมองประเทศที่อยู่ในเขตอากาศหนาว พวกเขาจะต้องเผชิญกับอากาศหนาวที่รุนแรงมากขึ้นไปอีก ไม่สามารถทำการประมงและเพาะปลูกได้ และที่สำคัญการที่โลกเย็นตัวลง ยังเป็นสาเหตุสำคัญให้ภูเขาไฟระเบิดได้อีกเช่นกัน นี่จึงอาจเป็นชะตากรรมที่เราต้องเผชิญในปี 2020-2031 หลายคนเคยดูภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่อง Ice Age ในแวดวงภูมิศาสตร์พยากรณ์ว่า หากภาวะ Solar Minimum มีความรุนแรง อาจทำให้หลายพื้นที่กลายเป็น Little Ice Age ก็เป็นได้ ความจริงแล้วการที่โลกต้องเผชิญกับภาวะหนาวสุดขั้วเคยเกิดมาแล้วในช่วงปลายศตวรรษที่ 18 จนถึงต้นศตวรรษที่ 19 เพราะการพักทำงานของดวงอาทิตย์เป็นภาวะปกติที่เกิดขึ้นได้ เรียกว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงรอบวัฏจักร (Solar Cycle) เพียงแต่วัฏจักรครั้งใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้จะมีความรุนแรงมากที่สุดในรอบหลายสิบปี ซึ่งครั้งก่อนหน้านี้ผู้คนทั่วโลกต้องเผชิญกับภาวะดังกล่าวยาวนานถึง 40 ปี ปรากฏการณ์ครั้งนั้นเรียกว่า Dalton Minimum ประเทศเขตเมืองหนาวไม่มีฤดูร้อน ไม่มีแสงแดด มีหิมะตกในฤดูร้อน ซึ่งถ้าใครได้ติดตามข่าว ช่วงก่อนหน้านี้ไม่นานที่ประเทศญี่ปุ่นได้เกิดเหตุการณ์ทำนองนี้มาแล้วครั้งหนึ่ง และที่สำคัญคือในช่วง Dalton Minimum ภูเขาไฟตัมโบรา (Mount Tambora) ในประเทศอินโดนีเซียยังระเบิดอย่างรุนแรง ผู้คนล้มตายกว่าแสนราย ยังไม่รวมอีกหลายเมืองที่ประชากรต้องเสียชีวิตจากภาวะอดอยากเป็นจำนวนมหาศาล ภาวะ Solar Minimum ไม่มีทางรับมือ เนื่องจากเป็นปรากฏการณ์ตามธรรมชาติที่เกิดขึ้นได้ แต่สิ่งที่เราสามารถทำได้คือการเตรียมตัวให้พร้อมเพื่อเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นได้ ในบ้านเราร้ายแรงมากที่สุดน่าจะเป็นอุณหภูมิที่ลดต่ำลงที่สุดในรอบหลายปี จากการพยากรณ์ภาวะดังกล่าวอาจกินเวลานานกว่า 10 ปี เริ่มตั้งแต่ปี 2020 เป็นต้นไป ประชากรที่อาศัยอยู่ทางภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จึงต้องติดตามข่าวสารเรื่องราวเหล่านี้อย่างใกล้ชิดเป็นพิเศษ ภาคส่วนอื่นจะต้องเริ่มวางแผนรับมือกับภัยหนาวที่อาจรุนแรงมากกว่าหลายปีที่ผ่านมา และที่สำคัญยังคงต้องดำเนินชีวิตให้ส่งผลกระทบด้านลบต่อสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติให้น้อยที่สุดไปพร้อมกันอีกด้วย รูปภาพหน้าปก โดย Galina N : Unsplash ภาพประกอบที่ 1 โดย TomaszProzek : Pixabay ภาพประกอบที่ 2 โดย Petahmayer : Pixabay ภาพประกอบที่ 3 โดย Marc Szeglat : Unsplash วิดีโอแสดงการทำงานของดวงอาทิตย์และภาวะ Solar Minimum : ScienceAtNASA