ภาพถ่ายโดยผู้เขียน สวัสดีครับผู้อ่านทุกท่านที่เข้ามาอ่านบทความนี้ ผู้อ่านหลายท่านคงจะรู้จัก “ สเก็ต ” กันนะครับ เพราะกีฬาชนิดนี้มีมานานมากแล้วก่อนที่ผู้เขียนจะเกิดอีก มันคือรองเท้าที่มีล้อ คู่หนึ่งมี 8 ล้อ หรือ 6 ล้อแล้วแต่ประเภทของ สเก็ต ชนิดนั้น โดยรองเท้าสเก็ตจะแบ่งออกเป็น 5 ประเภทได้แก่ ประเภทและวิธีเล่น ขอบคุณภาพจาก : https://bit.ly/39ymSPl 1. สปีดสเก็ต เป็นรองเท้าที่คู่หนึ่งจะมี 8 หรือ 6 ล้อ รองเท้าประเภทนี้จะใช้แข่งขันในเรื่องความเร็ว คือ ใครวิ่งได้เร็วกว่าเข้าเส้นชัยได้ก่อน คนนั้นก็จะเป็นผู้ชนะ แต่เวลาเล่นสปีดสเก็ตต้องสวมหมวก กันเวลาล้มแล้วศีรษะกระแทกพื้นอาจได้รับบาดเจ็บได้ ใครที่อยากเล่นกีฬาสปีดสเก็ตต้องใจกล้าหน่อยนะครับ เพราะช่วงฝึกแรกๆจะล้มบ่อยมาก 2. รองเท้าสเก็ตผาดโผน เป็นรองเท้าที่จะมีข้างละ 4 ล้อแต่ทั้ง 4 ล้อนั้นจะไม่ติดกันคือ จะมี 2 ล้อที่อยู่ติดกันและเว้นช่องว่างตรงกลางไว้ ที่เว้นไว้ก็เพราะจะได้ไต่ไปตามราวเหล็กได้ รองเท้าชนิดนี้เวลาเล่นก็ต้องใส่หมวกกันกระแทกหรืออุปกรณ์ป้องกัน 3. ฟิตเนสสเก็ต ใครที่อยากจะใช้ใส่วิ่งชิว ๆ ออกกำลังกายไม่ควรพลาดเพราะรองเท้าชนิดนี้จะมีข้างละ 4 ล้อและทุกล้อจะมีขนาดที่เท่ากันเหมือนกับ 2 ชนิดที่ผ่านมา ผู้คนส่วนใหญ่ ที่ผู้เขียนเห็น พบว่าจะใส่รองเท้าฟิตเนส เหตุผลง่าย ๆ ที่มีคนใส่เล่นเยอะก็เพราะมีราคาถูกหาซื้อได้ง่ายแต่รองเท้าชนิดนี้ไม่สามารถเล่นท่าต่าง ๆ ได้ 4. Hockey skate รองเท้าจะใช้เล่นฮอกกี้บนพื้นราบ รองเท้า 1 ข้างจะมี 3 ล้อการเล่นจะมีโกล 2 ฝั่ง ให้ตีลูกฮอกกี้ให้เข้าโกลของฝั่งตรงข้ามโดยจะใช้ไม้ และสวมใส่อุปกรณ์ป้องกัน ภาพถ่ายโดยผู้เขียน 5. สลาลมสเก็ต ผู้เขียนขอบอกก่อนว่าเป็นกีฬาที่ผู้เขียนถนัดที่สุด เป็นรองเท้าที่มีข้างละ 4 ล้อโดยทั้ง 4 ล้อมีขนาดไม่เท่ากันคือ จะมี 2 ล้อกลางจะมีขนาดใหญ่กว่า 2 ล้อหน้าและหน้าหลัง ที่ผู้ผลิตทำออกมาแบบนี้ก็เพราะจะได้ใช้ในการเล่นท่าต่าง ๆ ได้โดยรองเท้าสลาลมสเก็ตจะแบ่งเป็น 2 เกรด คือ แบบตัวรองเท้าเป็นพลาสติกกับแบบเป็นคาร์บอน การแข่งจะมี 4 ประเภท ได้แก่ ภาพถ่ายโดยผู้เขียน Classic slalom เป็นการเล่นท่าให้พริ้วไหวไปตามโคนต่าง ๆ ประกอบกับเพลงที่มีความยาวห้ามเกิน 2 นาที เพลงที่เลือกใช้จะเป็นเพลงไทยหรือเพลงต่างชาติก็ได้ การให้คะแนนถ้าชนโคน เสียหลักหรือล้มก็จะโดนหักคะแนน แต่ถ้าเล่นได้สมบูรณ์ ทำท่ายากทุกท่าได้ ท่า 8 ล้อและ 4 ล้อสมบูรณ์ต่อเนื่องเข้ากับจังหวะเพลงก็จะได้คะแนนมาก ( ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความชอบของกรรมการทั้ง 3 ท่าน ) ภาพถ่ายโดยผู้เขียน Battle slalom เป็นการเล่นท่ายากที่เราทำได้ มาประกอบกันเป็นคอมโบ การตัดสินวัดจาก ความยากของท่าความต่อเนื่องของท่า ถ้าโคนล้มจะไม่นับคะแนน (นักกีฬาล้มจะไม่ถูกหักคะแนน) Battle slalom จะเล่นทั้งหมด 2 รอบ ในเวลา 30 วินาที คัดคนออกไปในแต่ละรอบแต่ถ้ารอบตัดสินจะแข่ง 3 รอบ รวมรอบที่ต้องเล่นท่าเดี่ยวอีก 1 รอบ Speed slalom ต้องเล่นเลี้ยวตามโคน 20 จะมีการจับเวลา ใครทำเวลาเร็วสุดจะถูกคัดเข้ารอบตัดสิน ในรอบตัดสินจะเอา 8 คนมาแข่งกันโดยจัดเป็นคู่ ๆ ออกตัวพร้อมกันใครถึงก่อนโคนล้มน้อยกว่าคนนั้นชนะ ( โคนล้ม 1 โคนจะโดนเพิ่มเวลา แต่ถ้าล้มเกิน 4 โคนจะฟาล์วทันที ) Battle slide เป็นการแข่งกันสไลด์ใครสไลด์ได้ยาวที่สุดคนนั้นก็จะชนะ การแข่งจะจัดเป็นกลุ่ม ๆ การแข่งจะตัดสินจากความยากของท่า การต่อท่า ( ถ้าล้มจะไม่นับท่า ) เป็นอย่างไรบ้างครับผู้อ่าน ใครอยากเล่นรองเท้าประเภทไหนบ้าง ? ถ้าอยากเล่นชิว ๆ แนะนำ ฟิตเนสสเก็ต ชอบความท้าทายแนะนำ สปีดสเก็ต สเก็ตผาดโผน Hockey skate แต่ถ้าใครชอบเล่นท่าหลากหลายมีความพริ้วก็แนะนำ สลามลมสเก็ต เลยครับ ภาพถ่ายโดยผู้เขียน ผู้เขียนขอบอกเลยนะครับ ผู้อ่านคนไหนที่ยังหากีฬาเล่นไม่ได้ ผู้เขียนแนะนำให้มาลองเล่น สลาลมสเก็ต ดูนะครับเพราะในไทยมีคนสอนมีการจัดแข่ง ทั้งในประเทศและนอกประเทศ อีกทั้งในจังหวัดต่าง ๆ ยังมีนักกีฬาประเภทนี้ยังไม่มากทำให้ผู้อ่านเป็นนักกีฬาได้ง่ายขอแค่ขยันฝึกฝนอย่างเดียว สำหรับวันนี้ขอตัวลาไปก่อน “ สวัสดีครับ ”