Burnova Gel Plus ว่านหางจระเข้ขวัญใจสาว ๆ หลายคน ของดีบอกกันปากต่อปาก ส่วนผสมหลักเป็นสารสกัดจากธรรมชาติ ได้แก่ ว่านหางจระเข้ ใบบัวบก และแตงกวา ซึ่งมีสรรพคุณครอบจักรวาล ตัวครีมเป็นเจลใส ๆ ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ทาลงใบหน้าและลำคอให้ทั่ววันละสองครั้งเช้าเย็น ดิฉันแนะนำให้คนในครอบครัวใช้ก็ประทับใจกันทุกคน ช่วยลดรอยไหม้ บำรุงผิวหน้าให้ชุ่มชื้น เนียนนุ่ม ไม่หยาบกร้าน ลดการอักเสบ และต้านริ้วรอย เป็นว่านหางจระเข้หนึ่งตัวที่ได้รับความนิยมมาก ด้วยราคาที่ไม่แพงจนเกินไป (ขนาด 70 กรัม ราคา 180 บาท) คนงบน้อยก็สามารถซื้อได้ง่าย มีจำหน่ายตามร้านขายยาทั่วไปและห้างสรรพสินค้าชั้นนำ Etude House Soon Jung PH5.5 Relief Toner โทนเนอร์ปรับสภาพผิวตัวดังจากประเทศเกาหลี ได้ยินเสียงลือเสียงเล่าอ้างมานาน เมื่อมีโอกาสดิฉันจึงสอยมาใช้โดยไม่ลังเล การใช้ก็ง่ายแสนง่าย เทลงฝ่ามือแล้วตบเบา ๆ หรือหยดบนสำลีแล้วเช็ดหน้า หลีกเลี่ยงรอบดวงตา ตัวผลิตภัณฑ์เป็นน้ำใส ๆ เหมือนน้ำเปล่า หลังจากใช้ประมาณสองสัปดาห์ก็เห็นผล ผิวชุ่มชื้นขึ้น ข้างจมูกที่มีรอยแดงก็ลดลง จึงเป็นโทนเนอร์ตัวแรก ๆ ที่เลือกใช้ก่อนบำรุงผิวขั้นต่อไป เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว โดยเฉพาะผิวบอบบางแพ้ง่าย ปราศจากสีสังเคราะห์ ซิลิโคน และพาราเบน มีส่วนผสมของ Panthenol ช่วยลดการอักเสบของผิว บรรเทาอาการคันและระคายเคือง (ราคาแต่ละร้านก็จะแตกต่างกันออกไป แต่เท่าที่เช็กจากแอป KONVY 80 ml. ราคา 350 บาท , 180 ml. ราคา 620 บาท) Etude House Soon Jung 10-Free Moist Emulsion อิมัลชันจากไลน์ Soon Jung ที่น่าประทับใจอีกหนึ่งตัว (จริง ๆ เซตนี้ดีทั้งหมด เลือกซื้อได้ตามงบและปัญหาผิว) เนื้อครีมบางเบา ลื่น เกลี่ยง่าย ซึมซาบเร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะ ไม่ทำให้สิวเห่อกว่าเดิม ทาแล้วกลืนไปกับผิวไม่ทิ้งความมันบนใบหน้า สำหรับผิวของดิฉันที่เป็นผิวผสม ทาแค่ตอนกลางคืนเท่านั้น ช่วงเช้าจะเยิ้มนิดหน่อยหากไม่ได้นอนในห้องแอร์ ถือเป็นมอยส์เจอร์ไรเซอร์เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวอีกหนึ่งสเตปหลังจากลงโทนเนอร์ ดูอิ่มน้ำ เหมาะกับการใช้ในช่วงหน้าหนาวที่ผิวแห้งคันและลอกง่ายมาก ๆ ไม่มีส่วนผสมที่เป็นอันตรายและไม่ได้แต่งกลิ่นสังเคราะห์ เรียกได้ว่าอ่อนโยนมาก ๆ ราคาเหมาะสมกับคุณภาพ ยกขึ้นหิ้งอีกหนึ่งตัว