เครดิตภาพปกหลายๆคนคงเคยสงสัยว่า ทำไมบัลเลต์ถึงต้องมีการขึ้นปลายเท้า ถ้าไม่มีรองเท้าบัลเลต์หัวตัด นักบัลเลต์จะสามารถยืนปลายเท้าได้ไหม กลไกของรองเท้าเป็นอย่างไรถึงสามารถทำให้คนไปยืนบนปลายเท้าได้ มีส่วนประกอบอะไรบ้าง ต้องฝึกฝนอย่างไรบ้าง หากเกิดการพลิกหรือแพลงของข้อเท้า นักบัลเลต์จะยังสามารถเต้นได้อยู่หรือไม่ คำตอบอยู่ย่อหน้าถัดไปค่ะpointe shoe (พ้อยชู) เป็นรองเท้าบัลเลต์สำหรับนักบัลเลต์หญิง มีไว้สำหรับขึ้นปลายเท้า หากไม่มีรองเท้านี้นักบัลเลต์จะไม่สามารถเต้นบนปลายเท้าได้ แต่ก็ไม่ใช่ว่าทุกคนที่สวมรองเท้านี้จะสามารถยืนบนปลายเท้าได้การจะยืนบนปลายเท้าได้นั้น เท้าและข้อเท้าของเราจะต้องมีความแข็งเเรงเป็นอย่างมาก เพราะปลายเท้าของเราต้องรับน้ำหนักตัวทั้งหมดของเรา จำเป็นต้องอาศัยการฝึกฝนต้ังเเต่เด็กต่อเนื่องไปจนโตเครดิตภาพจาก ผู้เขียนบทความpointe shoe เป็นรองเท้าผ้าที่ทำจากผ้า ส่วนหัวทำจากผ้าแข็งต่อด้วยกาว ปั้นเป็นหัวตัด ทำให้ pointe shoe มีรูปที่คงทนพื้นของรองเท้าทำมาจากหนัง (ยกเว้นยี่ห้อ Gaynor maiden ที่ทำจากพลาสติก เพื่อไม่ให้รองเท้าหัก) ซึ่งพื้นรองเท้าจะไม่มีส่วนส้นเท้า เพื่อให้นักบัลเลต์สามารถกดปลายเท้าได้สุดถ้าหากพื้นรองเท้าพ้อยชูหัก จะทำให้ไม่สามารถขึ้นปลายเท้าได้ แต่ยังสามารถนำมาทำเป็น demi-pointe shoe ได้ ซึ่งเป็นรองเท้าบัลเลต์สำหรับฝึกทั่วไปก่อนจะเต้นด้วยรองเท้าคู่ใหม่ นักบัลเลต์จะต้องทำการ break รองเท้าทุกครั้งก่อนเต้น เพื่อให้รองเท้าไม่เเข็งจนเกินไป และทำให้รองเท้าเข้ากับรูปเท้าของเราด้วยนักบัลเลต์บางคนจะทำการขูดพื้นรองเท้าให้บางก่อนการเต้น เพราะจะทำให้พวกเขาเต้นได้สบายขึ้น แต่สำหรับนักบัลเลต์ที่ยังไม่เเข็งแรงก็ไม่ควรที่จะใข้รองเท้าพื้นบาง เพราะจะทำให้ยืนบนปลายเท้าได้ยากเครดิตภาพจาก ผู้เขียนบทความรองเท้าบัลเลต์จำเป็นจะต้องเย็บริบบิ้นสีชมพูอ่อนสองเส้นที่รองเท้า เพื่อไม่ให้รองเท้าหลุดระหว่างเต้น ริบบิ้นนี้จะต้องเย็บเอง เพื่อให้เข้ากับรูปเท้าของเรา โดยต้องทำการวัดริบบิ้นให้เห็นสามเหลี่ยมบนริบบิ้นที่ไขว้กันจึงจะถูกต้องเครดิตภาพจาก ผู้เขียนบทความแต่ถึงบางคนเย็บริบบิ้นแล้ว รองเท้าก็ยังคงหลุด ก็จะต้องเย็บยางยืดเพิ่มในลักษณะไหนก็ได้ที่ทำให้รองเท้าไม่หลุดนอกจากรองเท้าบัลเลต์เเล้ว อุปกรณ์ในการเต้นบนปลายเท้ายังมีอีกอย่าง คือ toe pad มีลักษณะเป็นซิลิโคน ใช้สำหรับครอบเท้าเพื่อบรรเทาความเจ็บจากการยืนบนปลายเท้า toe pad มีหลายยี่ห้อและรูปแบบ ขึ้นอยู่กับความถนัดและสะดวกของแต่ละคนในการเลือกใช้เครดิตภาพจาก ผู้เขียนบทความpointe shoe ถูกประดิษฐ์ในคริสตศักราช 1832 เมื่อ Marie Taglioni เต้นบนปลายเท้า รองเท้าของเธอเป็นรองเท้าผ้าซาติน ที่พื้นทำจากหนัง หัวรองเท้าเย็บให้เข้ากับเท้าของเธอ (แหล่งที่มา)หลายคนอาจสงสัยว่า โตแล้ว สามารถเรียนบัลเลต์ได้ไหม คำตอบคือ ได้ค่ะ เราสามารถเรียนบัลเลต์ตอนโตแล้วได้ แต่จะได้ขึ้นปลายเท้าไหมขึ้นอยู่กับความแข็งเเรงของกล้ามเนื้อของเราค่ะ โดยครูผู้สอนจะเป็นคนอนุญาตให้ขึ้นปลายเท้า ถ้าครูผู้สอนยังไม่อนุญาตให้ขึ้นปลายเท้าแต่ผู้เรียนแอบไปขึ้นมาใส่ก่อนอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้นักบัลเลต์ต้องตัดเล็บสม่ำเสมอเพื่อไม่ให้เล็บแตก เล็บขบ หรือ เลือดคั่ง รวมถึงต้องทำให้เท้าเเละข้อเท้าอุ่นตลอดเวลาเต้น เพื่อป้องกันเท้าพลิก แพลง เอ็กฉีก หรืออื่นๆเท้าและข้อเท้าสำคัญมากต่อนักบัลเลต์ หากเกิดอุบัติเหตุกับเท้าและข้อเท้าของพวกเขา พวกเขาจะไม่สามารถเต้นต่อได้บัลเลต์ต้องฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ ไม่สามารถทิ้งไว้นานได้ เพราะจะไม่สามารถกลับไปเต้นแบบเดิมได้ นักบัลเลต์จึงจะต้องระวังข้อเท้ามากๆ ถึงขนาดว่ามีนักบัลเลต์บางคนทำประกันสำหรับเท้าและข้อเท้าไว้ด้วย