ปัจจุบันคำว่า Move on วัยรุ่นนิยมใช้คำนี้กันอย่างแพร่หลาย กลายเป็นวลีคำพูดที่ติดปากเวลาเจอเรื่องแย่ ๆ รวมไปถึงใช้ในสถานการณ์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นกระแสในโลกโซเชียลที่ตัวเองไม่เห็นด้วย หรือคิดว่าไม่ควรเก็บเรื่องราวนั้น ๆ เอามาใส่ใจให้ปวดสมอง เพราะว่าความหมายของคำว่า Move on จริง ๆ ควรใช้กับสิ่งที่เกิดขึ้นมาสักพัก พูดง่าย ๆ ว่าเราทำใจยอมรับสิ่งนั้นได้แล้วพร้อมที่จะเดินหน้าต่อไป อย่างไม่ลังเลและหันหลังกลับมาทางเดิมอีกแล้วสิ่งที่ซ่อนในความหมายคำว่า Move on อย่างแรกคือ ตัดใจได้แล้ว ใช้ในกรณีคนที่ผิดหวังกับความรัก ไม่ว่าความรักนั้นจะอยู่ในรูปแบบไหน เมื่อคนสองคนไปต่อกันไม่ได้ ย่อมเลิกลากันเป็นเรื่องปกติของมนุษย์ แต่สิ่งที่จะทำให้จิตใจเข้มแข็งขึ้น คือยอมรับผลความรักที่เกิดขึ้น แม้ว่าจะเสียใจร้องไห้ฟูมฟาย จงรู้ไว้ว่าครั้งหนึ่งเราเคยทุ่มเทให้กับความรัก โดยการดูแลเอาใจใส่ซึ่งกันและกันมากแค่ไหน เราเคยมีความสุข เราเคยยิ้ม เราเคยมีช่วงเวลาที่ดีที่สุด แม้ว่าความรักจะต้องจบลงแล้ว แต่ขอเวลาทำใจสักพัก เมื่อสภาพจิตใจดีขึ้น แล้วค่อย Move on กับจากความรักครั้งนี้ สิ่งที่ซ่อนในความหมายคำว่า Move on อย่างที่สองคือ เรียนรู้ข้อผิดพลาดแล้วลุกขึ้นสู้ ใช้ในกรณีคนที่ผิดหวังจากงานหรืองานที่ทำอยู่ ในโลกนี้มีการแข่งขันที่เรียกว่า การคัดเลือกคนเข้าไปทำงาน เมื่อมีการแข่งขันย่อมมีคนถูกเลือกและถูกปฏิเสธ ดังนั้นคนที่ได้งานย่อมรู้สึกดี แต่คนที่ไม่ได้งานต้องรู้สึกเศร้าคอตกไหล่ห่อกลับบ้านเป็นแน่ เมื่อทุกอย่างเกิดขึ้นแล้ว ทำให้คนที่ตกงานยังคงรู้สึกแย่ กับผลการคัดเลือก แต่วันพรุ่งนี้บอกตัวเองว่า จงเรียนรู้ข้อผิดพลาดที่ทำให้ไม่ได้งานในครั้งนี้ หรือส่งงานแล้วไม่ผ่าน ท่องจำเอาไว้เป็นประสบการณ์ แล้ว Move on สู้ใหม่กับงานอีกสักตั้งสิ สิ่งที่ซ่อนในความหมายคำว่า Move on อย่างที่สามคือ ชีวิตมีขึ้นมีลง ใช้ในกรณีคนที่ผิดหวังจากการใช้ชีวิตที่ผ่านมา ทำไมคนอื่นถึงมีชีวิตที่ดีกว่า ทำไมตัวเราตั้งใจพยายามอยู่เสมอ ไม่สำเร็จเป็นชิ้นเป็นอันสักที เหมือนโชคชะตาไม่นำพาไปเจอสิ่งดี ๆ บ้าง เมื่อมันเกิดขึ้นแล้วต้องหยุดความคิดที่แย่เสียก่อน แล้วคิดพิจารณาทบทวนดู เราพลาดไปจังหวะไหนมองข้ามบันไดขั้นใดไป เมื่อเห็นจุดด่อยของตัวเองต้องรีบพัฒนาให้ดีขึ้น นำจุดนี้ไปใช้ควบคู่กับจุดเด่นของตัวเอง แล้ว Move on ใช้ชีวิตไปให้สุด ไม่จำเป็นต้องแกร่งหมือนใคร แค่ชื่นชมตัวเองให้มาก ๆ ฉันทำดีแล้ว ถ้ายังไม่ดีก็ต้องทำซ้ำ ๆ จนกว่าจะดีขึ้น เมื่อผ่านจุดนี้ไปทุกอย่างจะงดงามเอง นี่แหล่ะครับ "ความหมายบางส่วนที่แฝงอยู่ในคำว่า Move on ยิ่งยอมรับได้เร็ว ยิ่งดีต่อการเรียนรู้ในชีวิตจริง" ขอบคุณรูปภาพทั้งหมดจากเว็บ Unspash / รูปภาพหน้าปกโดย Chase Clarkรูปภาพที่ 1 โดย Kelly Sikkema, รูปภาพที่ 2 โดย Marten Bjork, รูปภาพที่ 3 โดย Mathias Jensen