ไลฟ์แฮ็ก

Most Important Task เรียงความสำคัญเพื่อความง่ายในการทำงาน

264
คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
Most Important Task เรียงความสำคัญเพื่อความง่ายในการทำงาน

ในชีวิตประจำวันของคนเรา ต่างก็มีสิ่งที่ต้องทำหลายสิ่งหลายอย่างเป็นจำนวนมาก เรื่องการจัดสรรเวลา การเลือกทำอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือทำทั้งหมด ไปจนถึงกระทั่งไม่เลือกทำสิ่งใด ๆ เลย มักวนเวียนเกิดขึ้นในชีวิตที่ต้องทำงานอยู่เสมอ โดยเฉพาะเรื่องของการทำงานในสถานการณ์ปี 2020 ที่เชื่อว่าหลาย ๆ คน คงจะต้องปรับตัวในเรื่องการทำงานกันอย่างมากมาย สาเหตุมาจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่ทำให้การทำงานแบบ Work from Home เป็นที่แพร่หลายในองค์กรต่าง ๆ และปฏิเสธไม่ได้เลยว่า การทำงานแบบ Work from Home ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานลดลงอย่างมากเลยทีเดียว ดังนั้นเพื่อการเอาตัวรอดในสถานการณ์ที่ยากลำบากต่อการทำงาน เรามาหาวิธีการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับตัวเรากันเถอะ!

MIT

รู้จักการทำงานแบบ MIT!

มาทำความรู้จักกับการทำงานแบบ MIT หรือ Most Important Task กล่าวคือ การเลือกทำสิ่งที่สำคัญที่สุดเป็นลำดับแรก ๆ และการทำ To-do-list จัดเรียงความสำคัญงานที่ต้องทำให้ไม่เกิน 5 สิ่ง ซึ่งเป็นจำนวนที่ไม่มากไม่น้อยเพื่อเพิ่มกำลังใจในการทำงานให้ไม่รู้สึกตึงเครียดหรือเกิดความกดดันจนเกินไป การทำงานแบบ MIT นั้น เรียกได้ว่าเหมาะสำหรับคนที่มีงานล้นเหลือ แต่ยิ่งทำกลับมีความคืบหน้าในงานที่น้อยมาก แม้จะพยายามจัดเรียงสิ่งที่ต้องทำในแต่ละวันเป็นข้อ ๆ ไปแล้วก็ตาม การทำงานแบบ MIT เป็นวิธีคิดการทำงานแบบการเลือกทำสิ่งสำคัญที่สุด มุ่งเน้นไปที่ภารกิจงานที่พิเศษและต้องทำแล้วเสร็จให้ได้ เมื่องานที่ยากที่สุดและมีความสำคัญที่สุดใน List ที่เราจัดลำดับไว้ถูกจำกัดออกไป งานสำคัญอื่น ๆ จากนั้นก็จะง่ายในการทำมากยิ่งขึ้น ง่ายในที่นี้หมายถึงสภาวะจิตใจที่ผ่อนคลายมากขึ้นในการทำงานชิ้นต่อ ๆ ไปอันเนื่องมาจากงานสำคัญและยากที่สุดสำหรับเราได้ถูกจัดการไปก่อนหน้าแล้วนั่นเอง

Advertisement

Advertisement

การทำงานแบบ MIT นอกจากจะเสนอแนะวิธีการจัดการกับงานที่ต้องทำมากมายแล้ว ยังเสนอแนะเกี่ยวกับความพร้อมของจิตใจในการทำงาน คนเรามักเกิดความวิตกกังวลไปต่าง ๆ นานาเมื่อรู้ว่ามีสิ่งที่ต้องทำมากมายหลายอย่าง สิ่งที่ส่งผลต่อมาคือความกลัวที่จะเริ่มลงมือทำ ฉะนั้นหากจะเลือกวิธีการทำงานแบบ MIT เราจะได้ทั้งการปรับสมดุลทางด้านจิตใจให้ดีไปพร้อม ๆ กับการทำงานที่มีประสิทธิภาพ List งานที่ต้องทำให้เหมาะสม จดจ่อกับงานอย่างน้อยเป็นเวลา 10-15 นาที  ระหว่างการทำงานอาจเดินเล่น พักผ่อน พาตัวเองไปอยู่ในบรรยากาศที่ปลอดโปร่งเพื่อผ่อนคลายความเครียด พร้อมกลับมาทำงานได้อีกครั้งด้วยความสบายใจ (ขอบคุณข้อมูลจาก zenhabits)

MITข้อดีของการทำงานแบบ MIT คือเป็นการทำงานที่เหมาะสำหรับคนที่ทำงานประจำภายในองค์กร เนื่องมาจากมีการกำหนดบทบาทและเวลาที่แน่นอนโดยมีองค์กรเป็นผู้ควบคุมและเป็นเงื่อนไขที่บังคับให้ผู้ทำงานไม่เกิดการบ่ายเบี่ยงที่จะต้องทำสิ่งที่รับผิดชอบได้ การมีกำหนดเวลาหรือระยะเวลาการทำงานที่แน่นอนทำให้สามารถจัดรายการสิ่งที่ต้องทำก่อนหลังได้อย่างแน่นอนมากยิ่งขึ้น การทำงานแบบ MIT ซึ่งปรับเข้ากับการทำงานแบบจำกัดเวลาทั้งช่วยเรื่องการจัดลำดับการทำงานโดยเริ่มจากงานที่สำคัญก่อน และช่วยทำงานสำเร็จลงไปได้อันเนื่องมาจากเงื่อนไขเป็นเวลาที่จำกัด แม้เราจะขี้เกียจ หรือเสียสมาธิแค่ไหน การทำงานแบบ MIT ที่ผนวกเข้ากับการจำกัดเวลาในการทำงานจะเป็นตัวบังคับให้งานของเราลุล่วงไปได้นั่นเอง นอกจากเรื่องของการทำงานแล้ว วิธีแบบ MIT ยังใช้ได้ผลในระบบการศึกษาหรือการจัดการเรียนการสอน บางสถาบันการศึกษามักจัดแบ่งวิชาประเภทต่าง ๆ ซึ่งคัดเลือกแล้วว่ามีความสำคัญและมีความจำเป็นในบรรดาความรู้ทั้งหมดหรือจากเนื้อหาทั้งหมดมาเฉพาะส่วนสำคัญ ๆ ให้แก่ผู้เรียน เมื่อผู้เรียนรู้หลักใหญ่ใจความสำคัญจึงสามารถจัดการและทำความเข้าใจกับรายละเอียดปลีกย่อยได้โดยง่าย นับเป็นวิธีการทำงานแบบ MIT วิธีหนึ่งที่นับได้ว่าประสบความสำเร็จไม่น้อยเลยทีเดียว

Advertisement

Advertisement

แต่สำหรับข้อเสียในวิธีการทำงานเช่นนี้ก็ยังคงมีอยู่ สำหรับฟรีแลนซ์หรือผู้ประกอบอาชีพอิสระ รวมไปถึงนักเรียนนักศึกษาที่ต้องจัดสรรเวลาการทำงานและรับผิดชอบสิ่งต่าง ๆ ด้วยตัวเองในสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 การวางแผนการทำงานแบบ MIT จึงเป็นสิ่งที่ยากและเกิดอาการผัดวันประกันพรุ่งอยู่เสมอ ดังนั้น การตามหาสิ่งสำคัญที่จะสามารถบังคับให้เราวางแผนการทำงานอย่างมีระบบภายในเวลาที่ไม่จำกัด จึงเป็นสิ่งที่ท้าทายสำหรับกลุ่มผู้ประกอบอาชีพอิสระหรือผู้ที่มีเวลาการทำงานไม่จำกัดที่ต้องค้นหาให้เจอ

การลอกเลียนแบบการทำงานแบบภายในองค์กร หรือ ภายในสถาบันการศึกษา เป็นวิธีหนึ่งที่น่าสนใจในการทำงานสำหรับผู้ประกอบอาชีพอิสระ ที่สำคัญคือการเลือกเพิ่มเงื่อนไขและข้อตกลงที่ชัดเจนกับคู่ค้าในเรื่องของกำหนดส่งงานหรือสินค้าที่แน่ชัด ข้อบังคับเป็นสิ่งสำคัญและมีความจำเป็นในความน่าเชื่อถือสำหรับผู้ประกอบอาชีพอิสระ หากไม่เคยผิดต่อข้อบังคับในการทำงาน จะทำให้เกิดความเชื่อมั่นระหว่างคู่ค้าเป็นอย่างสูง และการเลือกการทำงานแบบ MIT จัดเรียงลำดับความสำคัญของชิ้นงานที่ต้องทำก่อนหลัง จะทำให้ชีวิตการทำงานไม่เคร่งเครียดจนเกินไป และสามารถมุ่งจุดสนใจไปที่งานได้มากขึ้นโดยอาศัยการจัดสรรเวลา ทำ To-do-list ตามวิธี MIT และไม่ลืมสร้างข้อบังคับที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เป็นสิ่งที่ Force เราให้ไม่อาจบิดพริ้วได้นั่นเอง

Advertisement

Advertisement

MIT

การทำงานแบบ MIT จะได้ผลหรือไม่นั้น จำต้องอาศัยตัวแปรต่าง ๆ เป็นสิ่งสำคัญ เรื่องเวลาที่จำกัดในการทำงานและหน้าที่ต่าง ๆ ถือเป็นเงื่อนไขที่ดีที่จะทำให้เราทำงานลุล่วงได้ ยกตัวอย่างสำหรับอาชีพที่ยากลำบากต่อการทำงานแบบ MIT เช่น อาชีพนักเขียนอิสระที่ไม่มีกำหนดเวลาตายตัวสำหรับเขียนหนังสือให้เป็นรูปเล่ม ด้วยระยะเวลาการทำงานแบบไร้ข้อผูกมัดและข้อบังคับ ทำให้งานเขียนนั้นถูกดองทิ้งไว้ข้ามปีได้เลยทีเดียว ฉะนั้นหากจะทำงานแบบ MIT การหากฎเกณฑ์ข้อบังคับให้กับตนเองนั้นถือเป็นสิ่งจำเป็น ที่สำคัญยังเป็นวิธีที่ช่วยพัฒนาตนเอง เพิ่มประสิทธิภาพ และเพิ่มหนทางแห่งความสำเร็จให้ดียิ่งขึ้น ทั้งนี้รูปแบบการทำงานให้มีประสิทธิภาพนั้นมีหลากหลาย เราอาจเลือกวิธีที่เหมาะกับตนเองเพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพและมีความสุขไปพร้อม ๆ กัน

ภาพ 1 : STIL/ภาพ 2 : Patrick Perkins/ภาพ 3 : Thought Catalog

on Unsplash

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์