Minimalism เป็นไปได้แค่ไหน ในโลกความจริง

เครดิจรูปภาพ https://media-public.canva.com/MADGyCdA6g4/5/thumbnail_large.jpg

minimalism เป็นไปได้แค่ไหน ในโลกความจริง

คุณเคยสำรวจตัวเองไหมคะ ทุกครั้งที่ซื้อของใหม่ ๆ ไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้า รองเท้า เครื่องสำอาง หรือของใช้อื่น ๆ เราจะรู้สึกตื่นเต้น ในขณะที่เราซื้อ และมีความสุขเป็นอย่างมาก เมื่อได้ครอบครองสิ่งของนั้น ๆ แต่พอเวลาผ่านไปไม่นานความสุขที่เกิดจากการครอบครองสิ่งของใหม่ ๆ เหล่านั้น ก็หายไป และกลับคืนสู่สภาวะปกติ  พอผ่านช่วงระยะเวลาหนึ่ง ความต้องการครอบครองสิ่งของเพื่อเติมความสุขให้แก่ตัวเอง ก็กลับมาวนเวียน ซ้ำ ๆ ให้เราต้องออกไปซื้อข้าวของอย่างที่เราเคยทำมา โดยที่เราไม่เคยถามตัวเองเลยสักครั้งเลยว่า เรามีความจำเป็นต้องมี ต้องใช้ สิ่งของพวกนั้นจริงหรือ

ดิฉันก็เคยเป็นเหมือนกันค่ะ รู้สึกชีวิตวนลูป อยู่กับการซื้อข้าวของ ที่ใช้แค่ครั้งเดียว หรือบางชิ้นก็ไม่มีโอกาสได้ใช้มันเลย รู้ตัวอีกที ข้าวของ ก็เต็มบ้านหาอะไรไม่ค่อยเจอ จำไม่ได้ว่าเก็บมันไว้ที่ไหน  เสื้อผ้าก็เต็มตู้ แต่ก็ยัง คิดเสมอว่า ไม่มีอะไรจะใส่ ไม่ถูกใจ และชีวิตดูจะไม่มีความสุขเอาเสียเลย เชื่อว่าหลายคนก็คงเป็นแบบนั้น

เครดิตรูปภาพ s://pixabay.com/get/55e1d1454357af14f6d1867dda6d49214b6ac3e45659724a74297bd696/paper-3146953_1920.jpg

หลังจากที่ได้ทดลองทำ ตามวิธีข้างต้นแล้ว และถึงแม้จะไม่ประสบความสำเร็จ แต่มันก็ทำให้ดิฉันก็ได้ตกผลึกความคิดตัวเองได้ว่า การเป็นมินิมอลลิสต์ อาจไม่ใช่การใช้ชีวิตในบ้านที่มีผนังสีขาวโพลน หรือ การใช้ชีวิตด้วยจำนวนข้าวของที่จำกัดจำนวน  การอยู่ในบ้านโล่ง ๆ เฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้น หรือการ Back pack ออกเดินทางแบบคนไร้บ้าน แต่มินิมอลลิส ที่แท้จริง คือ การดำเนินชีวิตด้วยการตั้งคำถาม การตั้งคำถามต่อการครอบครองสิ่งของ การตั้งคำถามกับการเริ่มต้นทำสิ่งต่าง ๆ  ในชีวิต โดยในทุก ๆ ครั้งที่ ดิฉันจะซื้อสิ่งของใด ๆ ก็ตาม ดิฉันก็จะตั้งคำถามกับตัวเองเสมอว่า สิ่งของนี้ จำเป็น ต่อฉันจริง ๆ หรือ สิ่งของชิ้นนี้ ให้ประโยชน์กับฉันจริงใช่ไหม ฉันเคยมีสิ่งของพวกนี้อยู่ที่บ้านแล้วหรือเปล่า หรือแม้กระทั่งการตั้งคำถามต่อ ทุกสิ่ง ทุกเรื่องในชีวิต ว่า สิ่งที่กำลังจะลงมือทำมัน สมเหตุสมผล และได้ประโยชน์จริง ๆ เรียกได้ว่าเป็นการโฟกัส กับสิ่งที่เราต้องการจริง ๆ  โดยมองถึงประโยชน์จากการใช้งาน และหน้าที่ ที่แท้จริงของสิ่งของเหล่านั้น  แต่ในขณะเดียวกัน ดิฉันก็ยินยอมให้ตัวเองซื้อสิ่งของที่ไม่มีประโยชน์ในด้านการใช้งานแต่มีผลต่อความสุขของฉันด้วยเช่นกัน

มินิมอลลิสต์ ทำให้ดิฉัน สามารถตัดเรื่องที่ไม่จำเป็นต้องทำในชีวิตได้ดีขึ้น การมีสิ่งของในชีวิตน้อยลง เพื่อให้มีพื้นที่สำหรับสิ่งของที่ต้องการใช้ประโยชน์จริง มีเวลาให้กับตัวเองมากขึ้น เพราะไม่ต้องเสียเวลาไปกับการดูแลข้าวของ ดิฉันมีเพื่อนน้อยลง แต่เป็นความสัมพันธ์ที่มีคุณภาพ ในเรื่องการทำงาน คุณภาพการทำงานของดิฉันดีขึ้น ใช้เวลาในการทำงานสั้นลง เพราะสามารถจัดลำดับความสำคัญของงานที่ทำได้ดี   มีเงินเหลือสำหรับเก็บออมมากขึ้น และที่สำคัญคือ การได้ค้นพบตัวตนของตัวเอง ค้นพบสิ่งที่ตัวเองชอบ และพัฒนาต่อยอดความชื่นชอบเหล่านั้น ทำให้ความฝันใกล้ประสบความสำเร็จ และแน่นอน  มันทำให้ดิฉันมีความสุขได้ง่ายขึ้น

เครดิตรูปภาพ https://www.freepik.com/free-photo/happy-young-woman-sitting-carton-box_5375593.htm#page=3&query=moving&position=8

และนี่คือบทความที่อยากเชิญชวนคนอ่านมาลอง ดำเนินชีวิตในวิถีของ มินิมอลลิสต์  ดูสักครั้ง วิถีของคนมักน้อย ไม่ยึดติดกับสิ่งของ แต่ให้ความสำคัญกับประสบการณ์ บางทีสิ่งที่เราคิดว่ายากไป แต่หากได้ลองลงมือทำอย่างจริงจังแล้ว เราอาจพบผลลัพธ์ที่เกินคาด และเราอาจได้พบตัวตนใหม่ของตัวเองที่ซ่อนอยู่ข้างใน อย่างที่ดิฉันเจอก็เป็นได้

และที่สำคัญคุณจะรู้ว่า ความสุข มันเกิดขึ้นได้ง่ายกว่าคุณที่คิด..