แต่ละวันมีสถานการณ์ต่างๆ เกิดขึ้นมากมายในชีวิตเรา คนหนึ่งมองว่าเป็นแบบนี้อีกคนบอกต้องเป็นอย่างนั้น ทำไมคนสองคนกลับมองต่างกันทั้งๆ ที่เป็นสถานการณ์เดียวกัน กรอบความคิดที่มีต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่งเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่งจากคนหนึ่งคน ในภาษาอังกฤษใช้คำว่า Mindsetเบื้องหลังของการมี mindset แบบใดแบบหนึ่งไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญในระยะเวลาอันสั้น แต่เกิดการจากหล่อหลวมรวมกันทุกด้านในชีวิตของคนนั้นตลอดช่วงชีวิตจนได้ mindset นั้นออกมา ในทำนองคล้ายๆ กับมีเกิดขึ้นของต้นไม้หนึ่งต้นจะต้องประกอบไปด้วยเมล็ด น้ำที่ใช้รด ดินที่ใช้ปลูก ปุ๋ยที่ใส่ให้กับต้นไม้ แถมยังประกอบไปด้วยรากแต่ละชนิด ลำต้น กิ่งก้าน ใบ ดอกและผล เป็นต้น ต้นไม้ของความคิดก็ไม่ต่างมากนัก กรอบความคิดหนึ่งผุดขึ้นมาได้ โดยมีเบื้องหลังเกิดมาจากความเชื่อ ความรู้ความสามารถ ทักษะ การมองโลกในแง่ต่างๆ ประสบการณ์ในชีวิต สิ่งแวดล้อม การเลี้ยงดู หนังสือที่อ่าน เพลงที่ฟัง หนังที่ดู รายการที่ดู เพื่อนที่คบหา ภาษาที่พูด วัฒนธรรม ประเพณี เชื้อชาติ ศาสนา เพศ อายุ การศึกษาและอื่นๆ อีกมากมาย เหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นตัวกำหนดทิศทางของ mindset อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ มีคนอยู่กลุ่มหนึ่งมี mindset ที่ยึดติด ไม่ยืดหยุ่น ไม่ยอมเปลี่ยนแปลงกับเรื่องบางเรื่อง ยึดติดวิธีการเดิมๆ แนวทางเดิมๆ ไม่เปิดใจรับฟังแนวคิดใหม่ๆ ไม่ยอมเปลี่ยนเพื่อให้ดีขึ้น เลือกใช้ข้อมูลเดิมตัวเลือกเดิม จำกัดขอบเขตในการตัดสินใจ ในลักษณะแบบนี้ คือ Fixed mindset สำหรับใครที่สามารถปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ที่อยู่ตรงหน้าได้ไม่ว่าจะมาไม้ไหน มองเห็นแนวทางอื่นเพื่อพัฒนาให้ดีขึ้น ยืดหยุ่น ปรับเปรียบได้ มองวิกฤตเป็นโอกาส สร้างตัวเลือกได้มากจากสถานการณ์ที่ประสบเพื่อแก้ไขให้แล้วเสร็จ ไม่ตีกรอบยึดมั่นถือมั่น มองเห็นความเป็นไปได้ เปิดรับความรู้ใหม่ทักษะใหม่แนวทางแนวคิดอันใหม่ เราเรียกว่า growth mindset ความฉลาดมีสติปัญญาไหวพริบ เกิดได้จากการที่เราเป็นคนประเภท growth mindset เท่านั้น ซึ่งเราสามารถฝึกที่จะมีลักษณะเช่นนี้ได้ทุกๆ วัน ในชีวิตประจำวันของเรา ขอบคุณภาพประกอบจาก: pixabayภาพปก:mindset/ภาพเนื้อหา:1,2,3,4,5