ถ้าพูดถึง"มัลดีฟส์" คนไทยส่วนใหญ่คงรู้จักกันดีกับประเทศที่มีน้ำทะเลสวยใสราวกับกระจก รีสอร์ทส่วนตัว หาดทรายสีขาว พร้อมกับ Pool Villa สุดหรู ยื่นลงไปในทะเล มีอาหารเครื่องดื่ม และกิจกรรม Entertainment & Water Sports บริการกันอย่างครบครัน จนทำให้ค่าใช้จ่ายนั้นสูงปรี๊ด!!! แบบว่านักท่องเที่ยวธรรมดาอย่างเราๆ นั้น เอื้อมไม่ถึง ต่อมาเป็นโอกาสดีของชาวมัลดีฟส์ ในปี ค.ศ. 2009 ที่ได้ลืมตาอ้าปาก เมื่อรัฐบาลของประเทศประกาศ อนุญาตให้คนท้องถิ่น เปิดกิจการ Guest House หรือ Homestay และร้านอาหารต่างๆ สามารถให้บริการต่อนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกได้อย่างถูกกฎหมาย ส่งผลต่อค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปมัลดีฟส์นั้นถูกลงอย่างมีนัยสำคัญ และแล้วเราก็ได้ฉวยโอกาสนี้ ไปนอกลู่นอกทาง กันบน เกาะ Mahibadhoo ซึ่งเป็น Local Island ตั้งอยู่บน South Ari Atoll ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ระยะทางประมาณ 75 กิโลเมตร จากเมืองหลวง Male’ บนพื้นที่เกาะเพียง 3 ตารางกิโลเมตร แต่มีประชากรอยู่ถึง 2,000 คน Bird's-eye view of Mahibadhoo Mahibadhoo ได้สะท้อนวัฒนธรรม รวมไปถึงวิถีชีวิตที่แท้จริงของชาวมัลดีฟส์ ได้เป็นอย่างดี การใช้ชีวิตของชาวมุสลิม อันแสนเรียบง่าย การทำประมงชายฝั่ง ที่จับสัตว์น้ำในปริมาณที่เพียงพอต่อหนึ่งครอบครัวเท่านั้น ผสมผสานกับการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ มี Guest house เพียงไม่กี่แห่ง ที่เปิดให้บริการบนเกาะแห่งนี้ The way of Maldive Islanders ด้วยทรัพยากรธรรมชาติที่ยังสมบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็น แนวปะการัง ฉลามครีบดำ โลมา กระเบนราหู เต่าทะเล ฉลามวาฬ ล้วนเป็นส่วนประกอบที่สำคัญอย่างยิ่งในการดึงดูด นักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบ การเรียนรู้วัฒนธรรมท้องถิ่นและการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ให้มาเยี่ยมเยือน กิจกรรมที่สามารถทำได้บนเกาะแห่งนี้ ก็มีให้เลือกหลากหลายตั้งแต่ พายเรือคายัค Clear Bottom Kayak ขับเจ็ทสกี ตกปลากับชาวประมงพื้นบ้าน ดำน้ำดูปะการัง ว่ายน้ำกับปลากระเบนราหู Manta Rays ปิคนิคบน Sand Bank กางเต๊นท์บนเกาะส่วนตัว เตะฟุตบอลกับเด็กๆบนเกาะ เดินสำรวจรอบเกาะ ลิ้มลองอาหารท้องถิ่น อีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจของเกาะ ก็คือสนามฟุตบอลขนาดใหญ่ ที่สามารถมองเห็นได้จากบนเครื่องบิน และ Jibillee Sports Club ก็คือชื่อสโมสร ประจำเกาะ ประสานงานกับแฟนบอล กว่า 2,000 ชีวิต ไม่ง่ายเลยที่ทีมเยือนจะมาขโมย 3 แต้ม จาก เกาะนี้ไปได้ ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจนัก ที่นักฟุตบอลถึง 5 คน จาก Mahibadhoo ติดทีมชาติมัลดีฟส์ โดยเกาะเล็กๆ แห่งนี้ ก็ยังมีโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็น อย่างโรงไฟฟ้า และระบบกรองน้ำทะเล สำหรับใช้ในการอุปโภคบริโภค จึงทำให้ชาวบ้านอยู่กันอย่างสะดวกสบายมากขึ้น มีเพียงการกำจัดขยะเท่านั้นที่ยังเป็นปัญหาของเกาะนี้ ชาวบ้านยังต้องทำการเผาในที่โล่งแจ้ง ไม่ได้มีการจัดการที่เป็นมาตรฐาน จึงเป็นสิ่งสำคัญที่นักท่องเที่ยวอย่างเราทุกคน ควรมีส่วนร่วมในการลดปริมาณขยะที่เกิดขึ้นบนเกาะ เพื่อให้ เพชรเม็ดงาม แห่งหมู่เกาะ "มัลดีฟส์" คงอยู่ตลอดไป Be Part Of The Solution, Not The Problem ภาพประกอบทั้งหมดโดย - ผู้เขียน Paiboon Chooklin Shutterstock Contributor https://www.shutterstock.com/g/PaiboonChooklin