ต้นปี 2021 iPad รุ่นไหนดี ??? ในยุคโควิดแบบนี้ ในด้านการทำงานหรือการเรียนก็ตาม หลีกเลี่ยงไม่ได้เลยว่าทุกอย่างต้องเปลี่ยนไปเป็นรูปแบบออนไลน์ จึงส่งผลให้สื่อต่างๆ ทั้งการเรียน การประชุมต้องเปลี่ยนไปเป็นรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้สะดวกต่อการส่งต่อ ไม่ว่าจะเป็นการกระจายเอกสารต่างๆ คลิปวิดีโอการสอน ทำให้เมื่อเราได้รับไฟล์มาในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ วิธีทั่วๆไปในสมัยก่อนเลยก็คือเมื่อเราได้รับเอกสารมา เราก็ต้องนำไปพิมพ์ลงกระดาษ เพื่อนำมาประกอบการเรียนหรือการประชุมต่างๆ แต่อมาถึงช่วงเดือนมิถุนายน 2560 ทางแอปเปิ้ลได้มีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ ไอแพด โปร โดยมีฟังก์ชันที่เรียกเสียงฮือฮาได้เป็นอย่างมากคือ การรองรับ “แอปเปิ้ล เพนซิล” เพื่อใช้ในการสัมผัส ขีดเขียน วาดภาพ ลงบนหน้าจอไอแพดนั่นเอง ซึ่งหลังจากนั้นเป็นต้นมา ไอแพดก็ขายดีมากในวงการการศึกษา เนื่องจากในรั้วมหาวิทยาลัยส่วยใหญ่แล้ว อาจารย์มักจะแจกชีทสอนโดยการส่งทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้ง่ายต่อการแจกจ่าย ใครสะดวกที่จะไปพิมพ์ที่ร้านไหนก็ได้ตามสะดวก แต่สำหรับผู้ที่มีไอแพดอยู่แล้ว ก็สามารถนำเข้าไปยังแอปพลิเคชั่นที่ใช้ขีดเขียน แล้วสามารถนำเข้าไปยังชั้นเรียนเพื่อใช้ประกอบการเรียนได้เลย ข้อดีของการใช้ไอแพดในการใช้ประกอบการเรียน ไม่ใช่แค่ความสะดวกจากการที่ไม่ต้องพิมพ์ชีทเรียนแล้วแบกเข้าห้องเรียนแบบหนักๆเท่านั้น แต่ด้วยความที่ไฟล์บนไอแพดนั้นเป็นแบบอิเล็กทรอนิกส์ เมื่อเรานำเอกสารเข้าไปยังแอปพลิเคชั่นสำหรับจดบันทึกแล้ว เรายังสามารถบันทึกเสียงขณะเรียนหรือประชุมไปด้วย เพื่อให้สะดวกต่อการทบทวนทีหลัง การแทรกภาพต่างๆ เพื่อให้เกิดความเข้าใจมากขึ้นและเมื่อเราจดบันทึกต่างๆเสร็จแล้ว เรายังสามารถส่งต่อได้อย่างง่ายดายเพียงแค่ส่งผ่าน อีเมลล์ หรือแอร์ดรอป ไม่ต้องเสียเวลาไปถ่ายเอกสารเหมือนเมื่อก่อน นับตั้งแต่การเปิดตัวไอแพดโปรรุ่นแรกจนมาถึงปัจจุบันนี้ ไอแพดก็ได้รับการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง จนในปัจจุบัน ไอแพดได้แตกรุ่นย่อยออกมาถึง 4 รุ่นคือ ไอแพด มินิ , ไอแพด , ไอแพด แอร์ และไอแพด โปร( 2 ขนาดคือ 11” และ 12.9” ) โดยเมื่อคุณผู้อ่านตัดสินใจว่าจะซื่อไอแพดสักรุ่น แต่ยังไม่รู้ว่าจะเลือกรุ่นไหนดี ในบทความนี้ ผมก็จะมาเขียนถึงการเปรียบเทียบไอแพดรุ่นต่างๆว่า รุ่นไหนมีความเหมาะสมกับคุณผู้อ่านมากที่สุด สรุปแล้ว ไอแพดรุ่นไหน เหมาะกับใคร ไอแพด มินิ รุ่นที่ 5 ตามชื่อรุ่นของมันเลยคือ มินิ คือขนาดเล็ก พกพาง่าย เหมาะกับคนที่ต้องการแท็ปเลตเล็กๆ น้ำหนักเบาเพื่อพกพาเป็นหลัก แต่เมื่อมันมีขนาดเล็ก พื้นที่หน้าจอก็เล็กตามไปด้วย ทำให้อาจจะไม่เหมาะสำหรับผู้ที่จะนำมาวาดรูป จดบันทึกและเพื่อความบันเทิงเป็นหลัก แต่ก็มีหลายๆคนบอกว่า ขนาดของไอแพดมินิ เหมาะกับการเล่นเกมมาก เนี่องจากขนาดที่ไม่เล็กเหมือนสมาร์ทโฟน แต่ก็ไม่ใหญ่เทอะทะเหมือนแทปเลตรุ่นอื่นๆ แถมยังมีแบตที่อึดตามสไตล์ไอแพดอีกด้วย ไอแพด รุ่นที่ 8 สำหรับรุ่นนี้ เป็นรุ่นพื้นฐาน ที่ทำทุกอย่างได้อย่างรอบด้าน ด้วยขนาดที่ใหญ่กว่าไอแพด มินิ ทำให้มีความเหมาะกับการวาดรูป จดบันทึก และด้านความบันเทิงมากขึ้น ซึ่งก็แลกมากับน้ำหนักที่มากขึ้น แต่ด้วยความที่จอยังไม่เป็นแบบ Full Lamination ทำให้มีระยะจากผิวกระจกถึงจอแสดงผลมาก ส่งผลให้การวาดรูปที่ต้องใช้ความละเอียดสูงไม่ค่อยสะดวก แต่ถ้าพูดถึงการทำงาน การจดบันทึกทั่วๆไปถือว่าทำได้ดี เนื่องจากมีการรองรับ Smart Connector ที่สามารถต่อกับเคสคีย์บอร์ดได้ หลักๆแล้ว ไอแพดรุ่นนี้จึงเหมาะกับนักเรียนนักศึกษาที่ใช้จดเนื้อหาทั่วๆไป ไม่ได้เน้นด้านกราฟิกมากนัก ไอแพด แอร์ รุ่นที่ 4 ซีรีส์ไอแพด แอร์ ฟังจากชื่อแล้วเหมือนว่าจะเน้นเพียงเรื่องน้ำหนักตัวเครื่องที่เบา แต่ไม่ใช่แบบนั้นเลย เนื่องจากในรุ่นที่ 4 นี้ได้เปลี่ยนทั้งดีไซน์ ที่คล้ายกับไอแพดโปรทำให้มีขนาดจอที่เต็มตามากขึ้นในขนาดเท่าเดิม ทำให้ได้การชาร์จ แอปเปิ้ล เพนซิลที่สะดวกขึ้นโดยการแปะที่ข้างตัวเครื่อง จอชนิด Full Lamination ที่แสดงผลได้สวยงามและวาดเขียนได้แม่นยำขึ้น หน่วยประมวลผลตัวล่าสุดอย่าง ชิป A14 ที่เร็วและแรงมากๆ แถมยังได้พอร์ตแห่งอนาคตอย่าง type-c ที่สามารถชาร์จได้อย่างรวดเร็วและถ่ายโอนข้อมูลได้อย่างยืดหยุ่นกว่า ในน้ำหนักตัวที่เบากว่าไอแพด รุ่นที่ 8 เสียอีก ไอแพดรุ่นนี้ จึงเหมาะกับคนที่มีงบมากขึ้น ใช้ไอแพดอย่างจริงจังมากขึ้น ประมวลผลกราฟิกต่างๆได้เร็วขึ้น และใช้งานในระยะยาวได้นานขึ้น ไอแพด โปร เดินทางมาถึงรุ่นสุดท้าย ไอแพด โปร คือซีรีส์ที่แพงที่สุด ด้วยคุณสมบัติที่ครบเครื่องสุดๆ เริ่มจากจอที่มีให้เลือกถึง 2 ขนาด พร้อมกับเทคโนโลยี ProMotion ที่มีความถี่ถึง 120 Hz ที่ทำให้ดูลื่นเนี่ยนตาและขีดเขียนได้อย่างเป็นธรรมชาติ กล้องที่ให้มาถึง 2 ตัวพร้อมแฟรช แล้วยังมีเซ็นเซอร์ LIDAR มาช่วยจับระยะ วัดพื้นที่ต่างๆ ที่ใช้ในเทคโนโลยี AR เพื่อประยุกต์เข้ากับการใช้งานด้านต่างๆ ในเรื่องความบันเทิงก็โดดเด่นด้วยลำโพงที่ให้มาถึง 4 ตัว ที่ให้เสียงที่ดังและมิติสมจริง ส่วนหน่วยประมวลผลถึงแม้จะเป็นซีรีส์ A12 แต่ก็เป็นชิปที่ถูกปรับปรุงให้แรงมากๆ ยังสามารถรองรับการประมวลผลกราฟิกต่างๆได้อย่างลื่นไหล และแน่นอนว่าใช้พอร์ตที่มีความยืดหยุ่นสุงอย่าง type-c อย่างแน่นอน ไอแพด โปร จึงเหมาะกับสายกราฟิกมากๆ เนื่องจากหน่วยประมวลผลที่เร็ว แรง ชนิดหน้าจอที่ดีและเที่ยงตรง และยังให้ประสบการณ์ด้านความบันเทินที่ดีสุดๆอีกด้วย อื่น ๆ สำหรับเรื่องที่ต้องพิจารณาในการซื้อไอแพดสักเครื่องนั้น จะมีการรองรับ 4G และการเลือกความจุ เป็นอีกสิ่งหลักๆที่ต้องพิจารณา โดยสำหรับใครที่ใช้งานอยู่ในพื้นที่ ที่มีไวไฟอยู่แล้ว ไม่ได้นำไปใช้นอกสถานที่บ่อยๆ หรือสะดวกที่จะแชร์อินเทอร์เนตจากสมาร์ทโฟนได้ ก็สามารถเลือกไอแพดรุ่น wifi ได้ แต่ใครที่ใช้นอกสถานที่บ่อยๆ ไม่สะดวกแชร์จากสมาร์ทโฟน ก็ควรจะเลือกเป็นรุ่น Cellular ในส่วนของความจุนั้น ก็ขึ้นอยู่กับการใช้งาน โดยใครที่ใช้แค่พื้นฐาน พิมพ์งานหรือจดงานทั่วๆไป ในยุคปัจจุบันนี้ ทางผู้เขียนคิดว่าน่าจะมีความจุมากกว่า 64 GB ขึ้นไป แต่ใครที่ใช้ในการตัดต่อต่างๆ เก็บรูปภาพเยอะๆ ก็ดูตามความจุที่มากขึ้นไป แล้วก็อย่าลืมเลือกซื้อแอปเปิ้ลเพนซิลที่ใช้กับไอแพดที่เราเลือกซื้อให้ถูกต้องตามแต่ละรุ่นที่ไอแพดรองรับด้วยครับ สุดท้ายนี้ ฝากร้านเคสน่ารักๆ > https://www.instagram.com/twining.case/ ขอบคุณผู้อ่านทุกท่านที่เข้ามาอ่านบทความนี้ครับ อยากให้ผมเปรียบเทียบสมาร์ทโฟน หรือแทปเลตรุ่นไหน คอมเม้นไว้ที่ด้านล่างได้เลย ติดต่อ > twiningck@gmail.com ขอบคุณรูปภาพจาก : https://www.apple.com/th/ipad/ เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !