ไลฟ์แฮ็ก

"HENRYs" ชีวิตติดหรู นิยามความแพงของคนรุ่นใหม่

134
คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
"HENRYs" ชีวิตติดหรู นิยามความแพงของคนรุ่นใหม่

เรียกว่ากาลเวลาเปลี่ยน คนก็ย่อมเปลี่ยน ซึ่งนั้นรวมไปถึงค่านิยมในสังคม ที่อาจจะส่งผลไปถึงวิถีชีวิตในรูปแบบใหม่ ที่แตกต่างจากเดิม อาทิเช่น คนรุ่นใหม่นี้มักจะให้คุณค่าของวัตถุนิยมในระดับที่มากกว่าความคุ้มค่าในการใช้งานเมื่อเทียบกับคนในยุคก่อน ๆ อย่างคนรุ่นพ่อรุ่นแม่ของเรายังไงล่ะคะ และนั้นก็ได้ส่งผลให้เกิดคำนิยามของคนรุ่นใหม่ที่เราอาจจะเคยได้ยินกันมาบ้างแล้ว เช่นประโยคที่ว่า อยู่เมืองดัดจริต ชีวิตต้องป๊อปนั้นเองค่ะ

และเมื่อไม่นานมานี้ New York Post ก็ได้มีการออกมาอธิบายเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมของคนรุ่นใหม่เช่นนี้ว่าเป็น "HENRYs" นั้นเองค่ะ ซึ่งคำนี้มาจาก high earner not rich yet ที่หมายถึง ผู้ที่สามารถทำงานหาเงินได้ในจำนวนที่สูงแต่ก็ยังไม่ร่ำรวยสักที นั้นเองค่ะ

1ซึ่งในที่นี่นั้นทาง New York Post ก็ได้มีการระบุตัวเลขของรายได้ของคนกลุ่มนี้อยู่ที่ 100,000 ดอลลาห์สหรัฐ หรือราว ๆ 3 ล้านกว่าบาทไทยเลยทีเดียว อีกทั้งยังมีพฤติกรรมที่ชื่นชอบในการจับจ่ายใช้สอยไปกับการบริการที่มีราคาค่อนข้างสูง หรือที่เราเข้าใจกันว่า ระดับ luxury นั้นเองค่ะ อาทิเช่น การเลือกเดินทางพักผ่อนต่างประเทศทุกครั้งที่มีวันหยุด หรือการเลือกใช้บริการโรงแรมที่มีระดับ อีกทั้งคนกลุ่มนี้จะมีความต้องการซื้อสินค้าจากการพิจารณาจากแบรนด์เป็นหลักมากกว่าคุณภาพตัวสินค้าอีกด้วยนะคะ และแน่นอนว่าสินค้าตามท้องตลาดทั่ว ๆ ไปนั้นแทบจะไม่ได้อยู่ในสายตาของคนกลุ่มนี้มากเท่าไหร่นัก ซึ่งยังได้มีการรายงานอีกว่าส่วนใหญ่นั้นกลุ่มคนประเภทนี้จะทำงานในสายงานวิศวกรรม หรือเทคโนโลยี ที่สามารถทำเงินได้ในอัตราที่สูง แต่จะมีเงินออมในปริมาณที่น้อย จนถึงไม่มีเงินออมอยู่เลย เรียกว่ากลุ่ม HENRYs นั้นรวยเพราะทำงาน เนื่องมาจากว่าถ้าหากเมื่อไหร่ที่งานเกิดมีปัญหา จนไม่สามารถทำงานต่อไปได้ ก็เรียกได้ว่าสถานการณ์อาจจะพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือเลยก็ว่าได้ค่ะ

Advertisement

Advertisement

2แต่ถึงอย่างไรนั้นจะเหมาว่าคนที่มีพฤติกรรมการใช้จ่ายเช่นเดียวกันนี้เป็นกลุ่ม HENRYs ไปซะทั้งหมดก็เห็นทีจะไม่ได้ เพราะจริง ๆ แล้วนั้นก็ยังมีกลุ่มคนที่มีพฤติกรรมเช่นนี้ที่มีการวางแผนทางการเงินในระดับที่รัดกุมอยู่ด้วยเช่นเดียวกัน ถึงแม้จะเป็นเปอร์เซนต์ที่น้อยกว่ามากก็ตาม ซึ่งเราสามารถสรุปใจความสำคัญของกลุ่มคนประเภทนี้ได้ว่า ชีวิตติดหรู แต่ไม่มีเงินออมนั้นเองค่ะ บอกเลยว่าใครที่สงสัยว่าตัวเองจะเป็นมนุษย์ในกลุ่ม HENRYs หรือไม่นั้น ลองพิจารณากันดูนะคะ >///<

แต่ถ้าหากใครที่กำลังสงสัยว่าตัวเองน่าจะเป็นกลุ่มคนประเภทนี้ อย่าเพิ่งรู้สึกไม่ดีไปค่ะ เพราะทุกการกระทำเริ่มต้นมาจากตัวเราเอง เราสามารถเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของเราได้เสมอ ตัวอย่างเช่น เราเองค่ะ เราเป็นหนึ่งคนที่มั่นใจมากว่าตัวเองเคยอยู่ในกลุ่ม HENRYs เนื่องมาจากพฤติกรรมแพง ๆ ของเราเองที่ได้แสดงออกผ่านทางความสนใจ และการใช้จ่ายในแต่ละวัน โดยเรามักจะเลือกซื้อสินค้าโดยอิงจากแบรนด์เป็นหลัก เนื่องมาจากความเป็นสังคมนิยมนี้แหละค่ะ เรียกว่าคอลเลคชั่นใหม่ออกเมื่อไหร่ เมื่อนั้นเราต้องมี เราจึงมักจะใช้จ่ายเงินออกไปโดยไม่ทันระมัดระวัง ถึงเรื่องของสภาพทางการเงินในอนาคตมากเท่าไหร่ ประมาณว่าเน้นมี ไม่เน้นใช้เลยก็ว่าได้ และเรามักจะเป็นเช่นนี้อยู่เสมอ ไม่ว่าจะกับเรื่องของใช้ส่วนตัว หรือแม้แต่รสนิยมในการท่องเที่ยว เรียกว่าใช้เงินยิ่งกว่าน้ำไหลเสียอีกค่ะ จนเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินทางด้านสุขภาพที่บอกเลยว่าเรื่องเงินกลายเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมาทันทีเลยทีเดียวค่ะ เราไม่มีเงินเก็บมากพอที่จะใช้จ่ายการรักษาในครั้งนั้น จนทำให้ต้องเดือดร้อนคนอื่น ๆ และนี้คือบทเรียนครั้งสำคัญที่เราจะจำมันไปตลอดเลยทีเดียวค่ะ

Advertisement

Advertisement

3หลังจากนั้นมาเราเลือกที่จะขายสิ่งของที่เราเพียงแค่ซื้อมาเก็บออกทีละชิ้น จนเหลือแต่ชิ้นที่จำเป็นต้องใช้ในชีวิต และนำเงินจำนวนนั้นเข้าบัญชีเพื่อเก็บออมทันที และแน่นอนว่านิสัยเดิมของเรามันก็มักจะทำให้เกิดกิเลสอยู่เสมอ สิ่งเดียวที่ทำได้ในตอนนั้นก็คือ การใช้ความอดทน ซึ่งเราหันมาเลือกที่จะมองเหตุผลในการซื้อ มากกว่าการซื้อเพราะ ของมันต้องมี และนั้นก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้พฤติกรรมการใช้เงินของเราเปลี่ยนไปค่ะ แต่ไม่ใช่ว่าเราจะไม่สามารถซื้อสินค้าแบรนด์ได้แล้วนะคะ เพียงแต่ว่าการซื้อในครั้งนี้ มันจะเป็นการซื้อเพื่อการใช้งานจริง และคุ้มค่ากับเงินที่ต้องจ่ายจริง ๆ นั้นเองค่ะ

สิ่งหนึ่งที่เรา และใครหลายคนก็สัมผัสได้เช่นเดียวกัน นั้นก็คือ ค่านิยมของคนในสังคมส่วนใหญ่ที่ให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์ที่มองเห็น มากกว่าการได้สัมผัสตัวตนจริง ๆ ของกันและกัน ซึ่งนั้นจึงเป็นสาเหตุหลักที่สำคัญสาเหตุหนึ่งเลยล่ะค่ะ ที่ส่งผลให้กลุ่มคนยุคใหม่นั้นกลายเป็น HENRYs โดยที่บางทีก็อาจจะไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ เพราะคิดว่ามันคือสิ่งที่ถูกต้องในสังคมนั้นเองค่ะ แต่ถึงอย่างไรนั้น การกระทำทุกอย่างย่อมมีผลตามมาเสมอ ถ้าหากว่าเราเลือกใช้ชีวิตกันอย่างระมัดระวัง มันก็จะเป็นสิ่งหนึ่งที่ช่วยสร้างเส้นทางชีวิตในอนาคตให้เราได้เช่นกันนะคะ

Advertisement

Advertisement

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์