Don't scared to be Lonely การอยู่คนเดียวไม่ใช่เรื่องที่น่ากลัว

เช้าวันหนึ่ง ฉันเตรียมของทั้งหมดเพื่อที่จะตักบาตร ถวายสังฆทานแด่พระสงฆ์ 9 รูป

ฉันจะต้องถือสังฆทานทั้ง 9 ชุดนี้ ที่ห่อด้วยผ้าแก้วไหมสีเหลืองทอง พร้อมเหล่าของที่ถูกจัดใส่ถุงอย่างแน่น

ฉันหิ้วมันไปคนเดียว  เมื่อไปถึงหน้าพระสงฆ์ ฉันก็ฉุกคิดขึ้นได้ว่า เมื่อเราวางของลงบนผ้าสีเหลืองที่พระสงฆ์ท่านรับ

ฉันก็รู้สึกว่า "เบาลง" นับจากพระสงฆ์จากทางด้านขวาไปจนครบ 9 รูป เมื่อถวายของครบแล้ว

ของในมือฉันนั้นก็ "ว่างเปล่า" เพราะฉันได้ "วางลง" ทั้งหมด 9 ถุงนั้นแล้ว

ไม่ได้หนัก เหมือนตอนที่ฉัน "ถือไว้" ก็หนัก เปรียบเสมือนกับการ ยึดถือ ยึดติดอยู่กับความคิดและเรื่องราวที่ผ่านมา

ทุกคนคงจะเคยสูญเสียอะไรอันเป็นที่รักไปสักอย่างหนึ่ง คนรัก ความรัก สุนัขที่รัก หรือแม้กระทั่งสิ่งของอันเป็นที่รัก

หากเรายังยึดติด ยึดถือ และวนเวียน อยู่กับเรื่องราว ภาพความทรงจำเดิม และใช้ชีวิตในรูปแบบเดิม

วันที่ 4 จะไม่ไปในที่ๆ ที่เคยไปด้วยกันอีก ถึงจะเคยผ่านทางนั้น ก็อย่าไปคิดถึง (ห้ามไม่ให้คิดถึงคงจะยาก แต่สร้างความทรงจำดีๆใหม่ได้นะคะ)

วันที่ 5 หากิจกรรมอื่นๆ ทำ เช่น การออกกำลังกาย ไปฟิตเนส อ่านหนังสือ เขียนบล็อค ปลูกต้นไม้ เลี้ยงสัตว์ หาเพื่อนเม้ามอย

วันที่ 6 เปลี่ยนลุค ให้สวย หล่อ เป๊ะ เช้งกะเด๊ะ กันไปเลย (การช้อปปิ้งและเสริมสวยจะเยียวยานะ)

วันที่ 7 ออกเดินทางไปท่องเที่ยวในสถานที่ใหม่ๆ ที่เราไม่เคยไป หรือเราอยากไป ลองไปคนเดียว อาจจะเหงาบ้าง แต่แน่นอนเราจะได้ความรู้สึกที่อยู่กับตัวเอง และกลับมารักตัวเองเพิ่มมากขึ้นในทุกๆวัน

วันที่ 8 ทำในสิ่งที่อยากทำ ที่ไม่เคยได้ทำเวลาอยู่กับแฟน เช่น ไม่แต่งตัว sexy เพราะเกรงใจเค้าอยู่ตลอดเวลา ไม่นอกใจเพราะให้เกียรติเขา (ตอนนี้อยากคุยกับใคร ก็คุยเลยค่ะ แชทไปเลย เปิด Tinder ขึ้นมาคุยเลยค่ะ 5555+)

วันที่ 9 เป็นตัวของตัวเอง ไปปาร์ตี้เลยค่ะ

วันที่ 10 ให้บอกกับตัวเอง เราลืมเขาได้แล้ว และเราก็สามารถที่จะอยู่คนเดียวได้แล้ว (อย่าลืมที่จะยิ้มให้กำลังใจกับตัวเองในทุกเช้า)

จะเรียกว่าสูตร "Reset Reboot Restart" ตัวเองภายใน 10 วัน ฉันทำได้ก็ได้นะคะ เราทำมาแล้วและได้ผลจริง เจ็บจริง ไม่ใช้สแตนอินค่ะ

"การอยู่คนเดียวไม่ใช่เรื่องที่น่ากลัวอีกต่อไป หากเราเพียงแค่ได้จัดสรรเวลาที่จะรักตัวเองได้มากขึ้นก็เท่านั้นเองค่ะ"

เข้าใจอยู่ว่าทุกอย่างมันคงจะไม่ง่ายภายในคลิกเดียว เหมือนกับกดปุ่ม Delete บางทีก็ยังจะแอบกลับไป Recycle Bin กลับมาอีก 555

เป็นคนรักษ์สิ่งแวดล้อมจังเลยนะคะ ถึงได้จะนำกลับมาใช้ใหม่อยู่เรื่อยเลย

หากเราเปิดใจ ลองคุย ให้เวลาที่จะได้เรียนรู้ซึ่งกันและกัน ได้สร้างเรื่องราวใหม่ๆ ไปพร้อมกัน

Who knows what it gonna be, ใครจะไปคาดการณ์อนาคตได้จริงไหมคะ

The future no ours to see "Que sera sera" ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร ก็ปล่อยให้มันเป็นไป

เหมือนเวลาเราขับรถเวลากลางคืน เราอาจจะไม่เคยสังเกตเห็นดวงจันทร์ที่ส่องสว่างไปกับเราตลอดทาง

และในเวลากลางวัน เราอาจะไม่ได้สังเกตเห็นพระอาทิตย์ แต่ได้รับรู้สึกถึงความอบอุ่นเมื่อแสงแดดส่องมา

พระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออก แต่ไม่ได้ตกทางทิศนั้นเสมอไปนะคะ

อย่าลืมที่จะมองไปรอบๆ และใส่ใจคนที่เขาแอบส่งกำลังใจให้คุณในทุกๆวันนะคะ

หวังว่าเราคงจะได้ลองคุยกันในสักวัน และวันนั้นอาจจะเป็นวันที่ฉันหรือคุณ ก็พร้อมที่จะกุมมือและสร้างเรื่องราวใหม่ไปพร้อมกันค่ะ

เครดิตภาพ:

ภาพที่ 1 - pixabay / ภาพที่ 2 - pexels / ภาพที่ 3 - pexels