"Digital Detox" บำบัดพฤติกรรมติด Social

nowadaysgirl

12 มิ.ย. 2020|3 min read

อ่านบทความอื่นจาก nowadaysgirl

คัดลอกลิงค์

แจ้งตรวจสอบ

“สังคมก้มหน้า” คงเป็นคำที่คุ้นตาและคงเคยได้ยินกันจนบ่อย ซึ่งเราจะพบเจอบ่อยในที่สาธารณะซึ่งการที่ติดโทรศัพท์มือถือหรือการติดอยู่ในโลกที่เสมือนจริงนี้เป็นสิ่งที่น่ากังวลทำให้เสียสุขภาพกายรวมถึงสุขภาพจิตใจโดยอาจจะไม่รู้ตัว ดังนั้นวันนี้เราเลยอยากจะมาแนะนำนำวิธีการ ‘Digital Detox’ ง่าย ๆ และเรียนรู้กันว่ามันเป็นอย่างไร หากพร้อมแล้วก็ไปลุยกันเลยจ้า

หากพูดกันให้เข้าใจกันแบบง่าย ๆ ก็คือ ‘เป็นช่วงเวลาหนึ่งที่มีการหลีกเลี่ยงการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หรืออุปกรณ์ใด ๆ ก็ตามที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี อาทิ คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ หรือแท็บเล็ต เป็นต้น’

หากเพื่อน ๆ ยัง งง ๆ มันก็เหมือนการล้างสารพิษออกจากทางร่างกายแต่การทำ Digital Detox มันเกี่ยวกับทางด้านจิตใจของเรา ทำให้เกิดการหมกหมุ่น ความเครียด ทุกข์ใจและรวมถึงสุขภาพร่างกายที่ตามมาต่าง ๆ นา เช่น พักผ่อนไม่เพียงพอ สายตาเสียแน่นอนค่ะว่ามันสามารถส่งผลไปยัง ‘การใช้ชีวิตประจำวัน’ ของเราได้อีกด้วย

และก่อนที่เพื่อน ๆ กำลังจะตัดสินใจว่า”การ Digital Detox มันเหมาะกับคุณหรือไม่” ก็ลองพิจารณาว่าเรามีความรู้สึกเสพติด Social Media หรือไม่ คือ รู้สึกถึงความกระวนกระวายไหมหากไม่ได้เช็คโทรศัพท์/สิ่งแรกที่คุณหยิบก่อนนอนตื่นนอนคือโทรศัพท์เพื่อเช็ค Social Media ใช่หรือไม่ หรือเวลาไปเที่ยว เราจะต้องเช็คอิน ถ่ายรูปก่อนไหมว่าเราไปมาหากไม่ทำจะรู้สึกกังวลใจ ซึ่งหากเพื่อน ๆ เป็นดังที่เรากล่าวมา เพื่อน ๆ ก็เข้าข่ายสำหรับคนที่ควรใช้ “Digital Detox” แล้วละค่ะ

เหตุผลในการ Digital Detox Social Media สำหรับหลาย ๆ คนคือการที่ Social Media นั้นมีแต่ ‘Hate Speech’ นั้นก็คือความคำพูดที่เป็นลบ อาทิ การคอมเม้นต์ด่าตอบโต้ วิพากษ์วิจารณ์แรง ๆ ซึ่งโลกจริง ๆ หรือต่อหน้าจะไม่ค่อยเกิดเหตุการณ์แบบนี้แน่นอนค่ะ ดังนั้น Social Media ก็เปรียบเสมือนหลุมดำ ถังขยะที่มีแต่อะไรแย่ ๆ ลบ ๆ ตลอดทำให้เมื่อเราอ่านหรือเสพสารอะไรแย่ ๆ แบบนี้อยู่ตลอดจนกลายเป็นอะไรที่มันสะสมจะ ทำให้จิตใจเราหม่นหมอและเกิดความคิดแย่ ๆ ตามไปด้วย

เริ่มต้นการทำ Digital Detox แบบง่าย ๆ

ตั้งเป้าหมายตั้งเป้าหมาย แน่นอนว่าในทุกเรื่องเราจะต้องมี ‘เป้าหมาย’ ก่อนแล้วอย่างอื่นก็จะตามมา ซึ่งเราอาจจะตั้งเป้าหมายว่าหนึ่งวันเราจะเฉลี่ยการเล่นอยู่ที่กี่ชั่วโมง สมมุติช่วงนี้เล่นไปแล้ว 12 ชั่วโมง (ครึ่งวัน) เราก็อาจจะลดชั่วโมงการเล่นลงเรื่อย ๆ จาก 12 ไป 10 / จาก 10 ไป 8 อย่าหักดิบจนเกินไปค่ะ ค่อย ๆ เป็นค่อยไป

ต่อมาหลังจากการตั้งเป้าหมายแล้วเราก็เริ่มการจัดการกับเวลา Reset ใหม่ทั้งหมดและเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมเดิม ๆ โดยเริ่มจากก่อนนอนและตื่นนอนห้ามจับหรือเล่นโทรศัพท์ อาจจะเปลี่ยนเป็นเริ่มยืดเส้นยืดสาย ดื่มน้ำ ออกไปสูดอากาศนอกบ้านแทน และหลังจากนั้นก็จึงจะค่อยเล่น ทั้งนี้ทั้งนั้นจะต้องดู Lifestyle การใช้ชีวิตของแต่ละคนด้วยนะคะ

หากิจกรรมอื่นๆทดแทน คนเรามักจะชอบบ่นว่าไม่มีอะไรทำเลยเล่นโทรศัพท์ทั้ง ๆ ที่จริง ๆ แล้วกิจกรรมนอกเหนือจากการเล่น Social Media นั้นมีเยอะมาก อาทิ กิจกรรมเบสิค ๆ เลยคือ การปลูกต้นไม้ ทำสวน ทำขนมอบขนม ทำอาหารทานเอง การออกกำลังกาย หรือแม้กระทั้งการใช้เวลากับครอบครัว สัตว์เลี้ยงก็ถือว่าเป็นกิจกรรมอย่างหนึ่งและยังช่วยกระชับความสัมพันธ์ในครอบครัวอีกด้วย

Digital Detox Social Media มีผลกระทบกับจิตใจ ความคิด ร่างกาย เราอย่างไรบ้างในปัจจุบัน

อันดับแรกจะเกี่ยวข้องกับ Part ของสภาพจิตใจ เพื่อน ๆ เคยเป็นไหมคะอยู่ ๆ เราก็รู้สึกไม่ดี ทุกข์ใจทั้ง ๆ ที่ในใจของเราไม่ได้มีเรื่องกังวลใจอะไร เพราะครั้งเราโฟกัสและแคร์ในโลกเสมือนจริงมากเกินไป เรายกตัวอย่างนะคะ สมมุติไปเที่ยวในที่หนึ่ง แต่เราอาจจะเอาแต่คิดว่าจะถ่ายภาพอย่างไรดีให้สวย ดูดี เพื่อจะแชร์ลงบน Social Media ของตน หรือบางครั้งถ่ายรูปออกมาแล้วไม่สวยไม่ถูกใจหรือบางครั้งไม่ได้ถ่ายรูปยืนยันว่าเราได้มาเที่ยวที่นี่นะ ก็อาจจะเกิดอาการโมโห กังวลเกิดขึ้นได้ ซึ่งเราเชื่อว่าหลาย ๆ คนคงต้องเคยเป็นอย่างแน่นอน

และหนึ่งในสิ่งที่น่ากลัวอีกอย่างนั้นคือ ‘ความคิด’ เพราะ Social Media ในปัจจุบันเราขอบอกเลยว่าเหมือนดาบสองคม หากนำไปเสพแต่อะไรที่ไม่ดี อาทิ การคอมเม้นต์ด่ากัน การจับผิด หรืออะไรในด้าน negative บอกเลยว่ามันจะซึมซับไปเรื่อย ๆ ซึ่งจะส่งผลกระทบด้านลบในระยะยาวอย่างแน่นอนค่ะ

การเปรียบเทียบชีวิต ในโลกเสมือนจริงใคร ๆ ก็มักจะชอบโชว์อะไรที่ดี ๆ ชีวิตดีกินหรูอยู่แพง บางคนก็อาจจะเกิดคำถามว่าทำไมฉันไม่เป็นเหมือนเขาบางนะทำให้ก่อความรู้สึก ‘เปรียบเทียบ’ และเกิดอาการน้อยใจและต่ำต่อยกว่าคนอื่น ซึ่งความรู้สึกแบบนี้มัน toxics สุด ๆ เลยละค่ะ

ส่งผลเสียต่อร่างกาย มาใน Part ของร่างกาย แน่นอนค่ะว่าหากเราใช้คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ หรือแท็บเล็ตมากจนเกินไป ซึ่งอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์พวกนี้จะมีแสงสีฟ้าออกมา ซึ่งจะทำให้จอประสาทตาของเราถูกทำลายลง ยิ่งมีการเพ่งนาน ๆ ทำให้สายตาสั้นลงแน่นอนค่ะ ต่อมาคือปวดหลัง ปวดไหล่ ปวดนิ้ว เพราะในการเล่นสมาร์ทโฟนเราจะต้องใช้มือโดยตรง หรือหากเล่นคอมพิวเตอร์หรือโน๊ตบุ๊กก็ต้องมีการนั่งบนเก้าอี้นาน ๆ จะทำให้กระดูกหลังคดงอได้หากทำกิจวัตรแบบนี้เป็นประจำ ซึ่งบอกเลยค่ะว่าอันตรายสุด ๆ

ก็จบลงไปแล้วนะคะสำหรับ “Digital Detox บำบัดพฤติกรรมติด Social“ จริง ๆ หากเพื่อนอยากทำการ Social Detox หรือ Digital Detox ก็ทำได้ไม่ยากค่ะ เพียงแค่ลองลดการเล่นลงให้เหลือน้อยลงหรือบางครั้งลองออกไปเที่ยวแล้วไม่จับโทรศัพท์และไม่เล่น Social Media โฟกัสกับสิ่งตรงหน้าดู ลองเป็นวิธีการง่าย ๆ ก่อนเลยค่ะซึ่งทั้งนี้ทั้งนั้นเรื่องแบบนี้มันก็สองแง่สองง่ามค่ะ เพราะในขณะที่บางคนใช้ Social Media เพื่อเป็นเสมือนการ ‘Detox’ หรือ ‘Improve’ ตนเองมันก็เกิดผลลัพธ์ที่ดีมาก ๆ เช่นกัน เพราะฉะนั้นการเลือก ‘ใช้ Social Media’ ในทางที่ดีจึงเป็นเรื่องที่ต้องตระหนักค่ะ