ในช่วงสุดท้ายของการเรียนมหาวิทยาลัยหลายๆท่านอาจมีความรู้สึกวิตกกังวลว่าหลังจากที่เรียนจบไปแล้วเราจะมีงานทำกันไหม โปรไฟล์ของเราจะตอบโจทย์สายงานที่เราอยากจะเข้าไปทำหรือเปล่า ซึ่งผู้เขียนเองก็เป็นหนึ่งคนที่มีความรู้สึกแบบดังกล่าว จึงเป็นที่มาของความคิดที่จะต้องหาทักษะติดตัว ด้วยความที่เรียนคณะวิศวกรรม ทักษะหนึ่งที่สำคัญและควรมีนั่นก็คือทักษะการเขียนแบบโดยคอมพิวเตอร์ เด็กวิศวะจะทราบกันดีว่ามีไม่กี่โปรแกรมที่เราใช้เขียนแบบกัน ซึ่งโปรแกรมที่ได้รับความนิยมอย่างมากทั้งในสถาบันการศึกษา(มีการเรียนการสอน) และในสถานประกอบการต่างๆนั่นก็คือ โปรแกรม Soidworks นั่นเอง ซึ่งเป็นโปรแกรมที่สามารถเขียนแบบได้ทั้ง 2 มิติ และสร้างโมเดลในรูป 3 มิติได้อย่างง่ายดาย หลายๆองค์กรจึงมีการซื้อ License สำหรับใช้งานภายใน และค้นหาบุคลากรที่สามารถใช้งานโปรแกรมดังกล่าวได้ แต่ผู้อ่านหลายท่านคงทราบดีว่าในทุกวันนี้การรับพนักงานใหม่เข้าทำงานในหลายองค์กรในปัจจุบันนี้ เริ่มเปลี่ยนไปจากเมื่อก่อน ที่นอกจากจะดูแค่เกรดเฉลี่ยที่จบการศึกษาของผู้สมัครเป็นเกณฑ์แล้วในกรณีที่ยังไม่เคยมีประสบการณ์ทำงานตรง ก็จะมีอีกสิ่งหนึ่งที่ HR จะมองหาด้วยนั่นก็คือ ใบรับรองความสามารถ หรือ Certificate นั่นเอง ซึ่งจะเป็นเครื่องมือที่จะช่วยรับรองว่าเรานั้นสามารถทำงานได้จริง และจะดีแค่ไหนหาก Certificate ดังกล่าวถูกรับรองภายใต้ Product นั้นๆรูปภาพโดย: ผู้เขียน ใบรับรองที่ผู้เขียนกำลังกล่าวถึงอยู่นั้นมีชื่อว่า CSWA ที่่ย่อมาจากคำว่า Certified SOLIDWORKS Associate ซึ่งเป็นใบรับรองพื้นฐานที่สุดสำหรับผู้ใช้งานโปรแกรม Solidworks และเหมาะสำหรับบุคคลทั่วไปต้องการใบรับรองคุณวุฒิจากทาง Solidworks เพื่อใช่ในการแข่งขันสมัครงาน ให้มีความโดดเด่นมากกว่าผู้สมัครท่านอื่น ในฐานะที่ผู้เขียนเคยผ่านการสอบดังกล่าวมาแล้วนั้นจึงอยากแบ่งปันประสบการณ์และแนวข้อสอบให้กับผู้อ่านทุกท่านได้อ่านกัน โดยอ้างอิงข้อมูลจากเว็บไซต์ของ Solidworks นั่นเองรายละเอียดและวิธีการการสมัครสอบสามารถกดที่ลิงค์นี้ https://www.solidworks.com/sw/support/796_ENU_HTML.htm และทำตามขั้นตอนที่ขึ้นแนะนำได้เลยโดยจะมีค่าธรรมเนียมการสอบที่ประมาณ 3,415.12 บาท นะครับโดยแนวข้อสอบจะเป็นดังนี้ส่วนที่ 1 จะเป็นข้อสอบพื้นฐานการเขียนแบบ( 3 ข้อ 5 คะแนน) ในส่วนนี้จะเป็นคำถามพื้นฐานในงานเขียนแบบโดยโจทย์จะมาในรูปของ Drawing และถามในเรื่องพื้นฐานทั่วไป เช่น การมองภาพ ภาพตัดรูปแบบต่างๆ ภาพฉายเป็นต้น ผู้เขียนอยากจะเน้นย้ำให้ศึกษาเนื้อหาพื้นฐานต่างๆโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของ ภาพตัดในแบบต่างต่างๆ เช่น1.Full section 2.Half section3.Offset section4.Broken-Out section5.Revolved section6.Remove sectionรูปภาพโดย : ผู้เขียนผู้อ่านควรศึกษาประเภทและตัวอย่างการนำไปใช้งานด้วยจะยิ่งดีเพราะจะทำให้ง่ายและเร็วต่อการมองภาพ ส่วนที่ 2 เป็นการสร้าง ชิ้นส่วนอย่างง่ายและการแก้ไขขนาด(2 ข้อ 15 คะแนน) 2.1.การใช้คำสั่ง Sketch 2.2.การใช้คำสั่ง Extrude Boss 2.3.การใช้คำสั่ง Extrude Cut 2.4.การแก้ไขขนาดรูปภาพโดย : ผู้เขียนในส่วนที่ 2 จะเป็นภาพง่ายๆ โจทย์จะให้เราวาดแล้วขึ้นรูปโมเดลขึ้นมาแล้วจากนั้น ใส่ material เข้าไป จากนั้นให้หาน้ำหนักของชิ้นงานว่ามีตรงกับใน Choice หรือไม่ จากนั้นนำรูปเดิม มาเปลี่ยนขนาดของ Dimension ที่บางจุดบนชิ้นงาน แล้วหาน้ำหนักใหม่ นำน้ำหนักที่ได้ไปตอบในในช่องว่างโดยการพิมพ์ตัวเลขที่เป็นคำตอบลงไป ซึ่งจะทำให้เราเดา Choice เหมือนข้อก่อนหน้านี้ไม่ได้แล้ว ส่วนที่ 3 เป็นการสร้าง ชิ้นส่วนทางกล ความยากระดับกลาง (2 ข้อ 15 คะแนน) 3.1.การใช้คำสั่ง Sketching 3.2.การใช้คำสั่ง Revolve Boss 3.3.การใช้คำสั่ง Extrude Cut 3.4.การใช้คำสั่ง Circular Pattern รูปภาพโดย : ผู้เขียนในส่วนที่ 3 จะเป็นภาพที่มีระดับความยากที่เพิ่มขึ้นมาจากในส่วนที่ 2 ขึ้นมาหน่อย โจทย์จะให้เราวาดแล้วขึ้นรูปโมเดลขึ้นมาเช่นเดิม แต่จะมีความซับซ้อนขึ้นมา เช่น โจท์จะให้เจาะรูตาม Drawing อาจเป็นรูแบบเดี่ยว หรือรูแบบเรียงแถวขึ้นอยู่กับชุดข้อสอบที่ได้รับ ขั้นตอนต่อไปก็ทำการใส่ material เข้าไป จากนั้นให้หาน้ำหนักของชิ้นงานว่ามีตรงกับใน Choice หรือไม่ จากนั้นนำรูปเดิม มาเปลี่ยนขนาดของ Dimension ที่บางจุดบนชิ้นงาน แล้วหาน้ำหนักใหม่ นำไปตอบโดยการกรอกในช่องว่าง ส่วนที่ 4 เป็นการสร้าง ชิ้นส่วนทางกล ความยากระดับสูง (3 ข้อ 15 คะแนน) 4.1.การใช้คำสั่ง Sketching 4.2.การใช้คำสั่ง Sketch Offset 4.3.การใช้คำสั่ง Extrude Boss 4.4.การใช้คำสั่ง Extrude Cut 4.5.การแก้ไขขนาด 4.6.การแก้ไขขนาดท่ี่จุดแก้ไขยากรูปภาพโดย : ผู้เขียนในส่วนที่ 4 จะเป็นภาพที่มีระดับความยากที่เพิ่มขึ้นมาจากในส่วนที่3 ขึ้นมาหน่อย สำหรับผู้เขียนแล้วถือว่ายากมากเลยทีเดียว โจทย์จะให้เราวาดรูป 2D แล้วขึ้นรูปโมเดลขึ้นมาเช่นเดียวกับโจทย์สองส่วนที่ผ่านมา ขั้นตอนต่อไปก็ทำการใส่ material เข้าไป จากนั้นให้หาน้ำหนักของชิ้นงานว่ามีตรงกับใน Choice หรือไม่ จากนั้นนำรูปเดิม มาเปลี่ยนขนาดของ Dimension แล้วหาน้ำหนักใหม่ นำไปตอบโดยการกรอกในช่องวางแต่การเปลี่ยนขนาดในข้อนี้เป็นการเปลี่ยนขนาดที่จุดที่มีวามซับซ้อน พูดง่ายๆคือเมื่อมีการเปลี่ยน ขนาด Dimension แล้วจะทำให้ชิ้นงานมีรูปร่างเพี้ยนไปทั้งหมดต้องใช้เวลาและสมาธิอย่างมากในการทำให้ภาพชิ้นงานเกิดความสมดุลอีกครั้งหลังเปลี่ยนขนาด ส่วนที่ 5 การประกอบชิ้นส่วนทางกลในโหมด Assembly (4 ข้อ 30 คะแนน) 5.1.Placing of base Part 5.2.การใช้คำสั่ง Mates 5.3.แก้ไขระยะ และ มุม ในการ Mates ชิ้นงาน ในส่วนสุดท้ายนี้โจทย์จะให้ชิ้นส่วนต่างๆของชิ้นงานสำหรับทำการประกอบ ในส่วนนี้ผู้สอบจะต้องเข้าอยู่ในโหมด Assembly และดึงชิ้นงานส่วนต่างมาวางในโปรแกรม ผู้สอบจะต้องเข้าใจถึง ความสัมพันธ์ของการใช้คำสั่ง mate ให้ดีเพื่อให้ไม่ต้องเสียเวลาในการเลือกใช้คำสั่งในการประกอบชิ้นงาน ในส่วนนี้โจทย์ให้เรา mate ชิ้นส่วนของชิ้นงานที่ลิ้งค์ถึงกัน ซึ่งอยู่ในรูป Mechanism ว่าจะต้องมีความห่างหรือทำมุมกันกันเท่าใด ตัวอย่างที่สามารถดูได้จากรูปด้านล่างจะสังเกตได้ว่า ชิ้นส่วนสีแดงที่เป็นแท่งสองแท่งถูกวางอยู่ในรูปกากบาทโดยถูกควบคุมการหุบเข้าและกางออกโดยอุปกรณ์สีเขียวและสีม่วง เรียกว่า Cylinder รูปแบบการทำงานของ Cylinder นี้ก็คือชิ้นส่วนที่เป็นชิ้นสีม่วงจะสามารถเคลื่อนที่เข้าออกในอุปกรณ์ชิ้นสีเขียวได้และหน้าที่ของผู้สอบที่จะต้องทำนั่นก็คือ เมื่อมีการ mate กันของตัว Cylinder ชิ้นส่วนสีเขียวกับสีม่วงแล้วเราจะต้องกำหนดระยะตามที่โจทย์ระบุไว้ ว่าแท่งของชิ้นส่วนสีม่วงจะต้องออกกระบอกชิ้นส่วนสีเขียวกี่ mm. จากนั้นผู้สอบจะเข้าไปในคำสั่ง mass property เพื่อดูว่า mass Volume และ Center of mass ทั้งสามแกน เป็นเท่าไหร่ เช่น mass = 2324g. volume=2324297 m3 x=1.12,y=-173,z=1.87 เป็นต้น และนำค่าเหล่านี้ไปเลือกตอบใน Choice บนข้อสอบได้เลย ผู้เขียนคิดว่าโจทย์ในส่วนี้ค่อนข้างง่ายแต่ต้องใช้ระยะเวลาที่ค่อนข้างนานสักนิดเพราะมีชิ้นงานหลายๆชิ้นที่จะต้องประกอบกัน และผู้เขียนอยากแนะนำแนะนำให้ผู้ที่จะสอบลองศึกษาความสัมพันธ์ต่างๆในคำสั่ง mate ให้ดีเพื่อที่จะได้ประกอบชิ้นงานได้อย่างรวดเร็ว รูปภาพจาก : grabcad.comข้อสอบจะมีทั้งหมด 14 ข้อ โดยมีคะแนนเต็ม 240 คะแนน ซึ่งผู้สอบจะต้องทำคะแนนให้ได้ 165 คะเเนนขึ้นไป ภายในเวลาระยะเวลา 3 ชั่วโมงสิ่งสำคัญคือจะต้องมีการเตรียมตัวที่ดี ฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ ผู้เขียนเชื่อว่าผู้อ่านจะสามารถสอบผ่านได้อย่างง่ายดายและรับใบรับรองมาครอบครองได้อย่างแน่นอนครับภาพปก: โดยผู้เขียน