อันยองฮาเซโย~ ค่า เพื่อนๆนักอ่านชาวทรูไอดีที่น่ารักทุกท่าน บทความนี้เราจะมาแนะนำ ซีรีส์เกาหลี เรื่องดังจาก Netflix เมื่อปี 2019 ที่ผ่านมานี้เอง เชื่อว่าหลายๆ คนคงจะเคยดูกันไปบ้างแล้ว และสำหรับใครที่ยังไม่เคยดู มาตามอ่านรีวิวด้านล่างที่ Mmayy14 นำมาแนะนำในบทความนี้กันดีกว่าค่ะ รับรองว่า ทุกคนต้องไม่ผิดหวังกับการไปตามหาซีรีส์เรื่อง CLASH LANDING ON YOU ดูแน่ๆจ้าา เพราะต้องบอกว่า ซีรีส์เกาหลีเรื่องนี้ทำออกมาได้ดีแบบถ้าจะให้คะแนนเต็ม 10 เราให้ 100 ไปเล๊ยยยย สนุกครบรสมากๆๆๆ และเป็นซีรีส์ที่ได้รับความนิยมจนทุกอาทิตย์ที่ออนแอร์ #Clashlandingonyou ติดเทรนด์ทวิตเตอร์ด้วยนะคุณ!!! ฮ็อตขนาดนี้ ใครยังไม่ได้ดู ถือว่าพลาดมากนะจ๊ะ >_______<&nbsp; ข้อมูลทั่วไปของ Clash Landing On Youเป็นซีรีส์ออริจินัลบน : Netflix ออกอากาศเมื่อ : 14 ธันวาคม 2562 จำนวนตอนทั้งหมด : 16 ตอนนำแสดงโดย : ฮยอนบิน, ซนเยจิน, ซอจีฮเย, คิมจงฮยอนนักแสดงสมทบ(ที่ถือว่ามีบทบาทมากในเรื่อง คือเหล่าแก๊งเพื่อนพระเอกค่ะ) : ยังคยองวอน, อีชินยอง, ยูซูบิน, ทังจุนซัง ผู้กำกับ : อีจองฮโย (เคยกำกับเรื่อง Romance is a Bonus Book ด้วยนะคะ ใครเคยดูบ้างเอ่ย?)เขียนบท : พัคจีอึน (เจ้าของผลงานเรื่อง The Legend of the Blue Sea ที่ดังเป็นพลุแตกมาแล้ว) เค้าโครงเรื่อง : เป็นเรื่องเกี่ยวกับความรักระหว่างหนุ่มทหารชาวเกาหลีเหนือ และทายาทนักธุรกิจสาวผู้ร่ำรวยชาวเกาหลีใต้ จะออกแนวโรแมนติกคอมเมดี้ค่ะ มีปมดราม่าด้านการเมืองและสัญชาติเข้ามาเกี่ยวข้อง ทำให้เรื่องนี้สนุกครบรสเลยหล่ะ!! เรื่องย่อ พร้อมรีวิว : ตัวซีรีส์เปิดเรื่องมาด้วยชีวิตที่แตกต่างกันอย่างสุดขั้วของ 2 พระนาง ทางฟากนางเอกยุนเซรี(รับบทโดย ซนฮเยจิน) นางเป็นเจ้าของกิจการด้านความสวยงามมีแบรนด์สินค้าที่เรียกได้ว่าเป็นกลุ่มบริษัทยักษ์ใหญ่ในเกาหลีใต้ แต่ไม่ค่อยลงรอยกับครอบครัวพี่น้องเท่าไหร่นัก เพราะในบรรดาพี่ชายของเธอ เธอเก่งที่สุด และพ่อต้องการยกตำแหน่งประธานธุรกิจครอบครัวให้เซรี ส่วนฝั่งพี่ชายก็ต้องการแก่งแย่งตำแหน่งนั่นมา ซึ่งเซรีเองก็ไม่ได้สนใจอะไรนัก เพราะเธอก็แยกตัวออกมาทำธุรกิจของตนเอง ส่วนทางฝั่งพระเอก ผู้กองรีจองฮยอก(รับบทโดยฮยอนบิน) ก็ใช้ชีวิตเป็นผู้กองในหน่วยทหารของเกาหลีเหนือ ซึ่งตรงนี้คนดูจะได้เห็นถึงการใช้ชีวิตที่ค่อนข้างลำบากไม่ได้สะดวกสบายเหมือนทางฝั่งเกาหลีใต้ ทั้งเรื่องของใช้ ของกิน การดำเนินชีวิตประจำวัน การเคารพผู้นำ ทัศนคติ หน้าที่การงาน เรียกได้ว่าต่างกันแบบสุดขั้วมากๆ เพราะทางฝั่งของเกาหลีเหนือค่อนข้างจะปิดกั้นทางการแสดงออกด้านความคิด เอาแค่ว่า ถ้าเป็นคนธรรมดาระหว่างคนเกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้จะมาคบกันก็ยากแล้ว แต่ในเรื่องพระเอกดันเป็นถึง ผู้กองในกองทัพทหารเกาหลีเหนือ ส่วนนางเอกเป็นคนดังในเกาหลีใต้ โอ้โหหห แค่คิดภาพตามก็สนุกแล้วใช่ไหมหล่ะคะ? จุดเริ่มต้นของเรื่องราวก็มาจากการที่ ยุนเซรี ได้ไปเล่นร่มร่อน แล้วเกิดอุบัติเหตุถูกลมพายุพัดจากฝั่งเกาหลีใต้ พาเธอไปตกยังฝั่งเขตชายแดนเกาหลีเหนือ ซึ่งในเวลานั้นหน่วยกองทัพของผู้กองรีจองฮยอกกำลังจะปลดประจำการจากเขตชายแดนเข้าไปประจำการในเมือง ผู้กองได้มาพบกับเซรี และได้ตัดสินใจร่วมมือกับเหล่าสหายลูกน้องทั้ง 4 คนว่าจะพาเซรีหลบหนี (ซึ่งในตอนแรกๆ พระเอกนางก็ไม่ได้เต็มใจที่จะช่วยเท่าไหร่นะคะ แต่มันมีเหตุทำให้พระเอกต้องตัดสินใจพานางเอกหลบซ่อน อยากให้ไปติดตามกันค่ะ) การพาเซรีหลบซ่อนในหมู่บ้านทหารของเกาหลีเหนือ ไม่ใช่การใช้ชีวิตที่ง่ายเลยสำหรับคุณหนูอย่างยุนเซรี เรื่องราววุ่นๆ รวมทั้งความรู้สึกผูกพันธ์ของพระนางก็ได้เริ่มต้นขึ้น อย่างช้าๆ.... ความฮา ความตลก ขอยกซีนให้กับแก๊งเหล่าสหายลูกน้องของผู้กองเขาเลยค่ะ...ออกมากี่ซีนเป็นต้องขำน้ำตาไหลกันเลยทีเดียว เริ่มต้นกันที่สหายพโยจีซู(รับบทโดย ยังคยองวอน) สหายทหารที่เป็นคู่กัดกับยุนเซรีมากที่สุด เพราะไม่ว่ายุนเซรีจะพูดอะไร เขาจะต้องคอยขัดตลอด และจะชอบจิกกัดกับนางเอกมากที่สุด แต่ในความปากจัดของนาง ก็แฝงไปด้วยความตลกและเรียกเสียงฮาได้ไม่น้อย ต่อกันที่สหายพัคควังบอม(รับบทโดย อีชินยอง) คนนี้เรียกเสียงกรี๊ดจากคนดูได้รองจากพระเอกเลยจ้า หล่อ และน่ารักมากกกก พลทหารมาดนิ่ง ผู้เป็นที่พึ่งของผู้กองรีจองฮยอกได้มากที่สุดในกลุ่ม และกลางๆเรื่องนางมีส่วนช่วยนางเอกของเราได้ไม่น้อยเลยหล่ะคะ ตามมาที่สหายคิมจูม็อก(รับบทโดย ยูซูบิน) สหายทหารชาวเกาหลีเหนือผู้ที่คลั้งไคล้การดูซีรีส์เกาหลีใต้อย่างมาก เมื่อได้พบกับเซรี จึงได้รับหน้าที่เป็นทูตสันทวไมตรี ผู้ถ่ายทอดให้เพื่อนในกลุ่มเข้าใจเกี่ยวกับคำพูด ภาษา การใช้ชีวิตของทั้ง 2 ฝั่ง ปิดท้ายที่สหายกึมอึนดง(รับบทโดย ทังจุนซัง) สหายทหารที่มีอายุน้อยที่สุดในกลุ่ม ทำให้ยุนเซรีรู้สึกเอ็นดูเขามากๆ ที่เราใช้คำว่า "สหาย" เพราะในเรื่องทางฝั่งเกาหลีเหนือจะเรียกทุกคนขึ้นต้นด้วย สหาย ค่ะ มารีวิวเรื่อง ความฟิน กันต่อดีกว่า ถ้าความฮาว่าฮาแล้ว ความฟินนี่ 10/10 ไม่หักสักแต้มจ้าา ไม่ใช่แค่พล็อตเรื่องหรือตัวบทที่ดีเท่านั้น ฝีมือด้านการแสดงของ 2 พระนางยังเล่นได้ดีมากๆๆๆ เรียกได้ว่า เคมีเข้ากันสุดๆ พระเอกมีความแมน รักเดียวใจเดียว ใสซื่อบริสุทธิ์ แต่มีความเป็นผู้นำ อยู่ด้วยแล้วอบอุ่นมากกกก ยิ่งอยู่ในเครื่องแบบทหาร ยิ่งโอ้โหหห เอาใจไปเลยค่ะ ฉากเลิฟซีนมีมาให้คนดูได้จิกหมอนอยู่เรื่อยๆ ซีรีส์เรื่องนี้ ไม่ใช่ว่าเขาจะมีแค่ความฮา ความฟินนะจ๊ะ ปมดราม่าก็หนักหน่วงอยู่ไม่น้อย....พอเรื่องดำเนินไปถึงจุดที่ พระเอกกับนางเอก เริ่มจะรักกันแล้ว ก็ต้องมาแยกจากกันด้วยเรื่องของ เส้นกั้นแดนเกาหลีเหนือ-เกาหลีใต้ แต่ก็จะมีฉากที่พระเอกผู้กองของเรายอมแหกกฏแอบข้ามแดนไปหานางเอกยุนเซรี แต่เป็นการไปอย่างผิดกฏหมาย ซึ่งจะสามารถไปเจอกันได้ไหม ต้องไปติดตามกันต่อเอาเองนะคะ และหลายฉากของเรื่องก็ทำเอาคนดูน้ำตาร่วงได้เลยทีเดียว!! ความรู้สึกหลังดูจบ : คือมันดี ดีมากจริงๆ ฉากก่อนจบ ผู้กำกับเขาทำออกมาได้ดี ด้วยตัวฉาก สถานที่ และอารมณ์ของนักแสดง ทำเอาคนดูน้ำตาร่วงกันเลยทีเดียว ดูจบแล้วรู้สึกอิ่ม คือไม่รู้จะบอกยังไง มันครบรสมากๆค่ะ ทั้งสนุก เฮฮา หัวเราะน้ำตาร่วง ฟินจิกหมอนกับเคมีคู่พระนาง น้ำตาร่วมแหมะๆ กับความดราม่าสงสารตัวละครเหลือเกิน นอกจากนี้เนื้อหาในซีรีส์ทำให้เรารู้สึกรักชาติขึ้นมาด้วยนะเออ 55555 คุณค่าแก่การดูจริงๆค่ะ คอนเฟิร์ม!! เพื่อนๆนักอ่านสามารถไปติดตามหาซีรีส์เรื่องนี้ดูได้ที่ NetFlix เลยจ้าาา สำหรับบทความนี้เราคงต้องขอตัวลาไปก่อน แล้วกลับมาพบกันใหม่ในบทความหน้า เราจะมารีวิวซีรีส์อะไรอีกนั้น รอติดตามรับชมกันนะคะ ^_______^ ขอขอบคุณภาพประกอบทุกภาพจาก : Netflix ค่ะ