"ดูคนนั้นสิ่ ดูดีจังเลย....." "พี่คนนั้นเก่งจัง...ปลื้ม~" "แก~ ชอบน้องคนนั้นจัง......." เชื่อนะคะว่าหลายคนเคยพูดประโยคนี้กับคนคนนึงที่ไม่ได้รู้จักมักจี่กันมาก่อน เราอาจเดินสวนกันหรือเห็นหน้ากันเพียงแค่ผิวเผิน แม้กระทั่งได้พูดคุยกันไม่กี่คำ ก็ทำให้ปลื้มคนๆนั้นไปหลายวัน เคยคิดไหมคะว่าอะไรในตัวของอีกฝ่ายทำให้เราคิดแบบนั้นและพูดมันออกมา ใช่เลยค่ะ! มันคือเสนห์บางอย่างที่คนนั้นมีนั่นเอง นิยามของคำว่า "มีเสน่ห์" ง่ายๆก็คือ ลักษณะที่ทำให้ชวนหลงรัก หลงไหล หรือประกายความสุขบางอย่างที่อยู่ในตัวคนๆนั้น ลองมาเช็คดูนะคะว่าคุณมีเสน่ห์ภายในตัวบ้างหรือเปล่า? 1. กล้าเป็นตัวของตัวเอง สิ่งแรกและคิดว่าเป็นสิ่งสำคัญในการดึงเสน่ห์ในตัวเองออกมา นั่นก็คือ การกล้าที่จะเปิดเผยความเป็นตัวเอง กล้าพูดในสิ่งที่ตัวเองคิดและกล้าที่จะปฏิเสธในสิ่งที่ตัวเองไม่ต้องการ ไม่เลียนแบบหรือต้องการอยากจะเป็นเหมือนคนอื่น สิ่งนี้มักจะแสดงออกมาในลักษณะ การแต่งกายที่เป็นเอกลักษณ์ ท่าทางการแสดงออก รูปร่างหน้าตาที่มีเอกลักษณ์ประจำตัว เป็นต้น2. มีเสน่ห์จากการพูดการจา สุภาษิตที่ว่า " พูดดีเป็นศรีแก่ตัว พูดชั่วพาตัวตกต่ำ " และ "สำเนียงส่อภาษา กิริยาส่อสกุล " สองสำนวนนี้ยังใช้ได้ในทุกสังคม ทุกยุค ทุกสมัยจริงๆนะคะ การสื่อสารเป็นสิ่งสำคัญมากเพราะเราอยู่กันเป็นสังคมกลุ่มก้อน ลักษณะของคนที่มีเสน่ห์ทางวาจามักจะเข้ากับคนอื่นได้ง่าย มีเพื่อนเยอะ มีแต่คนรักคนเอ็นดู และมักจะมีนิสัยดังนี้มักพูดในสิ่งที่ฝ่ายตรงข้ามอยากฟังด้วย ไม่ใช่จ้อจะพูดแต่เรื่องของตัวเองจนน่าเบื่อ ใช้ภาษาพูดที่เข้าใจง่ายตรงไปตรงมา ไม่พูดยกตนข่มท่าน ...ฉันดีอยู่คนเดียว ฉันรวย ฉันบลาๆๆเป็นคนมีอารมณ์ขัน มีศิลปะในการเล่าเรื่อง คนที่เป็นผู้ฟังที่ดีและสนใจในสิ่งที่ฝ่ายตรงข้ามกำลังพูด3. อ่อนน้อม และให้เกียรติผู้อื่น สังคมไทยเป็นสังคมที่เคารพผู้ที่อายุมากกว่ามาแต่ไหนแต่ไร เด็กที่เป็นคนมือไม้อ่อนมักจะดูน่ารักจริงไหมหล่ะคะ และนอกจากนั้นต้องมีมารยาทและรู้จักกาละเทศะ ให้เกียรติซึ่งกันและกัน ยกมือไหว้สวัสดีไม่ว่าจะเป็นการทักทายหรือกล่าวลาก็เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งในทุกวัฒนธรรม4. ท่าทางสง่า บุคลิกภาพเยี่ยม เคยสังเกตไหมคะ นักเรียนนายร้อยที่ใส่ชุดรัดติ้ว เดินตัวตรงท่าทางสง่างาม เดินผ่านทีไรมองเหลียวหลังทุกที 5555+ แหม ก็มันดูดีนี่คะ ดังนั้น ทุกอิริยาบท การเดิน การยืน การนั่ง การนอน และการพูดจา สามารถบ่งบอกอะไรในตัวเรามากกว่าที่คิด เช่นว่าคนที่มีเสนห์มักจะไม่เคลื่อนไหวรวดเร็วเกินไปจนดูลุกลี้ลุกลน การพูดการจาชัดท่อยชัดคำ นั่งตัวตรง ยืนเหมาะอยุ่ในท่าทรงตัวไม่เอียงไปข้างใดข้างหนึ่ง มีแต่งหน้าทำผมให้ดูดี ถูกกาละเทศะ ไม่ปล่อยตัวให้โทรม กระเซอะกระเซิง 5. คนที่มีเสน่ห์จากภายใน ข้อนี้ไม่พูดถึงไม่ได้เลย นอกจากบุคลิกภาพภายนอกที่ดูดีแล้ว ที่สำคัญก็คือความคิดภายในใจ ถ้าคุณเป็นคนมีน้ำใจ คิดบวก ไม่ใช่บวกแบบพุ่งเข้าใส่นะคะ :D แต่เป็นการยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้นได้ ยอมปล่อยวาง ให้อภัย และมองแต่ข้อดีมากกว่าข้อเสีย ทัศนคติดีกว้างไกล แค่นี้ก็มีเสน่ห์มากพอแล้ว6. เสน่ห์ดึงดูดจากความสามารถพิเศษ ความสามารถพิเศษในที่นี้ไม่ได้แค่เรื่อง ร้องเพลง การเต้น เล่นกีฬาเก่งเพียงอย่างเดียว เราอาจใช้สิ่งที่เราสนใจและทำบ่อยที่สุดออกมาเป็นความสามารถพิเศษของเราก็ได้ เช่น เราเป็นคนชอบเล่านิทานเล่นได้ถึงอารมณ์ พูดภาษาจีนได้ เป่าขลุ่ยเพราะ เล่นเครื่องดนตรีเป็น วาดรูปสวย และยิ่งเป็นในเรื่องเฉพาะของเพศตรงข้ามยิ่งเป็นที่น่าสนใจ เช่น ผู้หญิงที่เล่นเกมเก่ง ผู้หญิงชอบดูบอล ผู้หญิงเก่งงานช่าง ผู้ชายเก่งงานบ้าน ผู้ชายทำอาหารเก่ง ผู้ชายเขียนหนังสือสวย มักเป็นเสน่ห์ดึงดูดต่อเพศตรงข้ามเสมอ 7. รอยยิ้มพิมพ์ใจและสายตาที่ดึงดูด การยิ้มแย้มแจ่มใสให้กับผู้อื่นถือเป็นเสน่ห์ดึงดูดที่ทำให้ผู้คนรอบข้างอยากเข้าหา รู้สึกเป็นมิตร และเป็นกันเอง ไม่หยิ่งถือตัว เป็นบุคคลที่สามารถพูดคุยได้ทุกเรื่อง มักจะเป็นที่รักของเพื่อนๆ และแน่นอนมักจะมีเพื่อนใหม่ๆเข้ามาหาเสมอ ลองเช็คดูนะคะว่าคุณเป็นคนยิ้มเก่งหรือเปล่า หรือว่าเอาแต่นั่งหน้าบูดไม่สบอารมณ์อย่างเดียว เคยได้ยินอีกไหมคะว่า ดวงตาคือหน้าต่างของดวงใจ ฉะนั้น คนมีเสน่ห์เขาจะสบตาเวลาพูดคุยกับผู้อื่น สิ่งที่พูดจะดูน่าเชื่อถือขึ้น การพูดคุยจะมีอรรถรส และดูจริงใจต่อกัน เช็คลิสทั้งหมดนี้ทุกๆคนไม่จำเป็นจะต้องมีครบหมดทุกข้อนะคะ เพราะเราต่างก็มีเสน่ห์อยู่ในตัวอยู่แล้ว ลองมองหาดูนะคะว่าคุณมีข้อไหนบ้าง และสามารถนำข้ออื่นมาช่วยเสริมกันได้ มีประโยคนึงที่รู้สึกชอบมากๆก็คือ คนที่สมบูรณ์แบบมักไม่มีเสน่ห์ แต่คนมีเสน่ห์มักจะไม่สมบูรณ์แบบ ฉะนั้น เราไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์แบบซะทุกเรื่อง เพียงแค่มั่นใจในตัวเอง รู้ว่าเรามีดีอะไร ทำในสิ่งที่ถูกต้อง แค่นี้ก็มีเสน่ห์แล้ว