ฮาโหลทุกคน วันนี้เรามีประโยคภาษาอังกฤษที่จำเป็นสำหรับสายเที่ยวทั้งหลายมาฝาก บอกได้เลยว่าเป็นสิ่งสำคัญมาก ๆ เพราะวันนี้เราจะมาพูดถึงประโยคที่ต้องใช้ในการสื่อสารกับพนักงานต้อนรับที่โรงแรมนั่นเอง เราเชื่อว่าเพื่อน ๆ หลาย ๆ คนเคยอยากที่จะไปเที่ยวต่างประเทศแต่ก็ไม่กล้าไปเพราะติดปัญหาเรื่องภาษาอังกฤษ ไม่สามารถสื่อสารโดยใช้ภาษาอังกฤษได้ จึงทำให้ไม่มีโอกาสที่จะออกไปเที่ยวต่างประเทศเลยสักครั้ง วันนี้เราจะมาช่วยคลายความกังวลให้เพื่อน ๆ เองจ้า เพราะอย่างน้อยถ้าเพื่อน ๆ ไปแล้วสามารถสื่อสารกับทางโรงแรมได้ ก็สามารถอยู่รอดอย่างแน่นอน ถ้าพร้อมแล้วก็ไปดูกันเลยก่อนอื่นเลยเมื่อเราก้าวเข้าไปในโรงแรม พนักงานต้อนรับก็จะกล่าวต้อนรับด้วยประโยคที่ว่า" Good morning / afternoon / evening. How can I help you ? " สวัสดีค่ะ มีอะไรให้ช่วยมั้ยคะถ้าเราจองห้องพักไว้แล้ว เราก็สามารถตอบกลับไปว่า" I have a reservation under . . . " ฉันจองห้องพักไว้ภายใต้ชื่อ . . .และพนักงานก็จะขอหนังสือเดินทางโดยการกล่าวว่า" Can I have your passport, please ? " ขอหนังสือเดินทางได้ไหมคะขอขอบคุณ : unsplash.com แต่ถ้าเรายังไม่ได้จองห้องพักไว้ เราสามารถถามพนักงานได้ว่า" Do you have any room available tonight ? " คืนนี้มีห้องว่างมั้ยคะถ้าบังเอิญว่าห้องเต็ม พนักงานก็จะตอบกลับมาว่า" Sorry, the hotel is fully booked today. " ขอโทษด้วยนะคะ วันนี้ห้องเต็มหมดเลยค่ะแต่ถ้ามีห้องว่าง พนักงานก็จะถามต่อว่า" What kind of room would you like ? " คุณต้องการห้องแบบไหนคะและเนื่องจากบางคนต้องการห้องที่สามารถสูบบุหรี่ได้ พนักงานจึงจะถามต่อว่า" Do you want a smoking or non-smoking room ? " คุณต้องการห้องที่สามารถสูบบุหรี่ได้หรือไม่คะหลังจากนั้นพนักงานก็จะถามต่อว่า" How long will you be staying ? " คุณจะพักกี่วันคะและอาจจะมีเอกสารให้กรอกข้อมูลการเข้าพัก ซึ่งพนักงานจะพูดว่า" Could you fill in this registration form, please ? " รบกวนกรอกแบบฟอร์มนี้หน่อยนะคะขอขอบคุณ : unsplash.com และถ้าหากต้องมีการเซนชื่อ พนักงานก็จะพูดว่า" Could you sing your name please ? " รบกวนเซนชื่อหน่อยนะคะหลังจากนั้นก็จะถึงขั้นตอนการชำระเงิน ซึ่งอาจจะสามารถชำระได้หลายวิธี พนักงานจึงต้องถามคุณว่า" How will you be paying for this ? " คุณจะชำระเงินอย่างไรคะถ้าเราต้องการชำระด้วยเงินสด ก็ตอบกลับไปว่า " I'll pay in cash. "แต่ถ้าต้องการชำระด้วยบัตรเครดิต ก็ตอบกลับไปว่า " I'll pay by credit card. "ขอขอบคุณ : unsplash.com เมื่อชำระเงินเรียบร้อยแล้ว หลังจากนั้นพนักงานก็จะอธิบายรายละเอียดต่าง ๆ ให้เราฟัง อย่างเช่น" Complimentary breakfast is served in the lobby between 08:00 - 12:00 am. " อาหารเช้าฟรีเสิร์ฟในล็อบบี้ตั้งแต่ 8-12 โมงเช้า นะคะขอขอบคุณ : unsplash.com " You may leave your bags with us after you check out. " ท่านสามารถฝากกระเป๋าไว้กับเราได้ หากท่านเช็คเอ้าท์แล้ว" Please call the front desk if you need anything. " โทรหาเราได้เลยนะคะ หากคุณต้องการอะไรเพิ่มเติมหรือเราอาจจะมีคำถามที่ต้องการจะถามเขา อย่างเช่นกรณีที่คุณอยากจะว่ายน้ำ แต่ไม่รู้ว่าเขาเปิดจนถึงกี่โมง ก็ถามพนักงานด้วยประโยคที่ว่า" What time is the pool open until ? " สระว่ายน้ำเปิดจนถึงกี่โมงคะหรือกรณีที่พนักงานไม่ได้แจ้งไว้ว่าเริ่มเสิร์ฟอาหารเช้าตอนกี่โมง เราสามารถถามพนักงานได้ว่า" What time is the breakfast served at ? " อาหารเช้าที่นี่เริ่มเสิร์ฟตอนกี่โมงคะกรณีที่เพื่อน ๆ ต้องการใช้อินเตอร์เน็ตของทางโรงแรม ก็สามารถถามพนักงานได้ว่า" Can I use the internet in my room ? " ฉันใช้อินเตอร์เน็ตในห้องได้ไหมคะขอขอบคุณ : unsplash.comสุดท้าย เราอาจจะไม่ทราบว่าที่โรงแรมนี้จะต้องเช็คเอ้าท์ออกตอนไหน ก็สามารถถามพนักงานได้ว่า" What time do we have to check out ? " เราต้องเช็คเอ้าท์ออกกี่โมงคะ ทั้งหมดนี้ก็จะเป็นประโยคที่มักจะต้องใช้เวลาที่เราไปเที่ยวต่างประเทศ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมาก ๆ นะคะทุกเพราะ เราถ้าหากเราสื่อสารกับพนักงานไม่เข้าใจ อย่างเช่น เช็คเอ้าท์เกินเวลา เราก็อาจจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม หรือเราไม่ทราบว่าพนักงานเริ่มเสิร์ฟอาหารเช้าตั้งแต่กี่โมง พอเราไปถึงอาหารอาจจะหมดแล้วก็ได้นะ เพราะฉะนั้นการสื่อสารภาษาอังกฤษเป็นสิ่งสำคัญในการไปพักโรงแรมในต่างประเทศ ฝึกบ่อย ๆ รับรองว่าเพื่อน ๆ จะพูดได้แน่นอนค่ะ ที่มาภาพหน้าปก : nichi application