อากาศร้อน ๆ แบบนี้เราต้องไปที่ไหนกันน้าาาาาา . . ทะเลไง! แต่เดี๋ยวก่อนค่ะทุกคน ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของ Covid-19 ตอนนี้ เห็นว่าจะไม่สมควรนักที่เราจะออกไปเที่ยวและเพิ่มความเสี่ยงให้ตัวเอง ด้วยเหตุนี้ วันนี้เราจึงจะพาทุกคนไปเที่ยวกับ blog นี้ของเรา ซึ่งทะเลที่จะพาไปไม่ได้อยู่ที่ไทยด้วยนะ และนอกจากทะเลแล้วก็ยังมีสถานที่ที่น่าใจอื่น ๆ อีกด้วย ว่าแต่เราจะพาไปประเทศไหนน้าาา ประเทศอะไรเอ่ยที่มีขอบเขตติดกับสหรัฐอเมริกา ...สามวิผ่านไป หมดเวลาจ้า และประเทศนั้นก็คือ แท่น แท้น แท๊นนนนนน เม็กซิโกค่ะทุกคนนนน Hola! และที่ที่เราจะไปนี้มีชื่อว่า Cancun เป็นเมืองท่องเที่ยวแถบทะเลแคริเบียนที่เป็นศูนย์รวมจากนักเดินทางจากทั่วโลก นอกจากหาดทรายที่สวยงามแล้ว ที่นี่ยังมีที่พักหลากหลายสไตล์และราคาให้เลือกสรรตามใจเราด้วย ไม่ว่าจะโรงแรมสุดหรูมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ โฮสเทลนอนรวมเปิดโอกาสในการหาเพื่อนใหม่ หรือจะ Airbnb สายประหยัดแบบพวกเราก็มีเช่นกัน โดยพวกเราเลือกไปที่นี่ช่วงเดือนเมษาซึ่งตั๋วไปกลับค่อนข้างถูก อาจจะเป็นเพราะอยู่ในช่วงปลาย high season ด้วย ลืมบอกไปฮะทุกคน เราบินไปจาก Washington dc จ้า ราคาตั๋วไปกลับอยู่ที่ประมาณ $275 และก็ไปรับรถเช่าที่นั่น พวกเราตัดสินใจเช่ารถขับเพราะขนส่งสาธารณะที่นั่นไม่ค่อยจะสะดวกมากนัก มีบัสพอสมควร แต่ก็ต้องใช้เวลานานหากจะไปในแต่ละที่ แท็กซี่ก็มีนะ แต่ก็จะคิดแพงนิดนึง และสภาพก็ค่อนข้างจะเก่า เพราะฉนั้นขับเองสบายกว่าเยอะเลย ประหยดเวลาด้วย อย่างที่บอกว่าพวกเรานอน Airbnb ซึ่งทำให้พวกเราเซฟการใช้เงินไปได้อีกนิดนึง สำหรับเพื่อน ๆ ที่ไม่รู้จัก การนอน Airbnb ซึ่งก็คือการไปเช่าบ้านคนอื่นนอนนั่นเอง แต่สิ่งที่เราไปเช่าสำหรับทริปนี้จะเป็นห้องบังกะโลติด ๆ กัน มีสองชั้น ละก็ยังติดทะเลด้วย บรรยากาศดีมาก ๆ เราไปกันสี่คนจึงเช่าสองห้อง และเมื่อหารรวมกันกันแล้วจึงประหยัดสุด ๆ ไปเลย เอาเงินไปเที่ยวกันดีกว่า วันนี้เราจะไปเล่าพร่ำเพรื่อ เพราะเราจะแนะนำแต่ที่เด็ด ๆ เท่านั้น ถ้าพร้อมจะไป Cancun กับพวกเราแล้วละก็ จะช้าอยู่ไย ตามมาเล้ยยยย Chichen Itza เป็นโบราณสถานขนาดใหญ่ของชาวมายัน และยังเป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ใหม่ของโลกด้วย ซึ่งลักษณะที่เรามองเห็นจะเป็นพีระมิดที่มีบันไดทั้งหมด 365 ขั้น โดยแบ่งเป็นด้านข้าง ๆ ละ 91 ขั้น ทั้งหมด 4 ด้าน รวมแล้วก็จะได้ 364 ขั้นและขั้นบนสุดอีก 1 ขั้น รวมเป็น 365 ขั้น สื่อถึงจำนวนวัน 365 วันใน 1 ปี เดิมทราบว่าจะยอมให้คนเดินขึ้นไปบนพีระมิดได้ แต่ภายหลังมีการปิดไว้ และบริเวณรอบ ๆ ตัวพีระมิดเองก็มีโบราณสถานย่อย ๆ ขนาดกลางและขนาดเล็กที่เล่าเรื่องราวในอดีตต่าง ๆ เดินพลินมาก ๆ ถึงแม้ว่าอากาศจะร้อนสุด ๆ ก็ตาม Tulum เมืองโบราณของชาวมายาริมทะเลที่กินพื้นที่มากพอสมควร ที่นี่เราซื้อทัวร์เข้าไปชมโดยราคาที่เรามาประมาณ $30 ซึ่งรวมทัวร์ดำน้ำส่วนตัวเข้าไปด้วย เมื่อเดินเข้าไปข้างในเราก็จะพบกับซากปรักหักพังของชาวมายาโบราณที่ทำให้หาดแห่งนี้ดูสวยงามแตกต่างและเป็นเอกลักษณ์จากที่อื่น อย่างที่บอก Tulum เป็นชายหาดที่ทอดตัวยาวขนานไปกับซากปราสาทอารยธรรมอันเก่าแก่ของชาวมายัน เรียกได้ว่านอกจากจะได้พักผ่อนท่ามกลางทะเลแสนสวย ยังได้ชื่นชมอารยธรรมโบราณไปในตัวอีกด้วย เมื่อเราเดินชมในส่วนของโบราณสถานเสร็จจึงไปที่หาดเพื่อเปลี่ยนชุดสำหรับ snorkeling ซึ่งก็คือชุดว่ายน้ำนั่นแหละฮะทุกคน ของพวกเราจะเป็นเพียงแค่การดำน้ำตื้น อุปกรณ์ก็จะมีแค่ แว่นกับอุกปกรณ์ช่วยหายใจใต้น้ำ และออกตัวก่อนเลยว่าเราว่ายน้ำไม่เป็นจ้าาาา แต่ก็ไม่มีอะไรต้องกลัวไปเพราะพี่ไกด์ของเรานั้นมีห่วงยางที่จะพาเราไปตลอดลอดฝั่งอย่าง เราไม่ได้เอาตัวเองเข้าไปในห่วงยางนะ แค่จับไม่ให้หลงฝูงแคนั้น ฮ่า ๆ เเพราะพวกเราทุกคนสวมชูชีพอยู่แล้ว ไม่จมแน่นอน เมื่อแล่นเรือไปถึงจุกดำน้ำพี่ไกด์ก็พาเราดิ่งลงทะเล เปิดประสบการณ์สุด ๆ เพราะนี่คือครั้งแรกของเรา ประทับใจที่สุดก็คือจังหวะที่พี่ไกด์บอก Tortugas!!! (ตอรตู้กาส) ภาษาสเปนแปลว่าเต่า ใช่แล้วฮะ พวกเราเจอเต่าตัวใหญ่มาก สองสามตัวเลย ใกล้มากกกก เสียดายที่เราไม่กล้องถ่ายใต้น้ำ แต่พวกเราแฮ้ปปี้สุด ๆ Isla mujeres ในภาษาสเปน หมายถึง เกาะผู้หญิงค่ะ เป็นเกาะที่เราต้องนั่งเรือข้ามฝั่งไปประมาณ 1 ชม. ซึ่งที่นี่เองเป็นที่ที่เราตั้งใจมาดำน้ำ ส่วน Tulum นั่นก็ไม่รู้เป็นไงมาไง ฮ่า ๆ และเมื่อเราเข้าไปซื้อทัวร์ก็เจอราคาเด็ดเลย ที่นี่ราคาถูกมาก ตกเป็นเงินไทย 600-700 เอง เมื่อเทียบกว่า Tulum ที่เราจ่ายไปเหยียบพัน นี่แหละความนักท่องเที่ยวอะเนอะ ซึ่งราคาที่นี่รวมอาหารเที่ยงด้วยนะ แต่เรือที่ไปจุดดำน้ำก็จะไม่ส่วนตัวเพราะเรานั่งไปกับหนุ่ม ๆ ละตินอีกราว 6 คน วิวมันดีจริง ๆ การดำน้ำที่นี่จะต่างไปจากที่แรกคือ เราจะเห็นปะการังที่สมบูรณ์และปลาการ์ตูนที่แหวกว่ายไม่กลัวมนุษย์อย่างเราเลย Cenote และนี่เป็นที่สุดท้ายที่เราอยากจะแนะนำ ซิโนเต้ เป็นอีกต้นกำเนิดของแหล่งอารยธรรมสำคัญของชาวมายา มีลักษณะเป็นหลุมตามธรรมชาติซึ่งเกิดมาจากการล่มสลายของหินปูนจากแหล่งน้ำใต้ดิน ซึ่งที่นี่ถูกทำให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีทั้งร้านอาหาร และจุดเช่าอุปกรณ์สำหรับลงน้ำต่าง ๆ เมื่อเดินลงไปตามแนวถ้ำจนสุดทาง เราก็จะพบกับหลุมน้ำธรรมชาติที่เรามองเห็นมาตั้งแต่ข้างบน เราชื่นชมความธรรมชาติสรรค์สร้างจริง ๆ บริเวณนั้นเองหลาย ๆ คนจะต่อแถวเพื่อโดดน้ำกัน ซึ่งไม่ใช่เราอะ เพราะอย่างบอกเราว่ายน้ำไม่เป็น จึงขอใส่ชูชีพลอยคอและแสร้งทำเป็นว่าว่ายเป็นอยู่รอเพื่อนละกัน ที่นี่เป็นอีกที่ที่เราชอบมาก ๆ มันแปลกตาและน่าสนใจอย่างบอกไม่ถูก นอกจากสถานที่เด็ด ๆ แล้ว เรายังมี Tips เล็ก ๆ น้อย ๆ สำหรับการไปเที่ยวที่นี่มาฝากด้วยนะ Basic Spanish การที่เราพูดภาษาสเปนพื้นฐานได้นิดหน่อยจะเป็นสิ่งที่ช่วยได้มากในการสื่อสาร เพราะถึงแม้ว่าที่นี่จะป็นเมืองท่องเที่ยวผู้คนส่วนมากจะยังจะยึดการพูดภาษาสเปนเป็นหลัก Stick to Pesos เงิน US dollar ก็ใช้ได้นะ แต่เราแนะนำแลกเป็นเงินเปโซจะใช้คุ้มและจ่ายง่ายกว่า Negotiation การต่อรองราคาของฝากเป็นเรื่องสำคัญ (สำหรับเรา) ยิ่งเราเป็นต่างชาติแล้ว ราคาอัพขึ้นมาอีกเท่าตัวเลยทีเดียว Don't walk alone at night ถึงแม้เขาจะบอกว่าปลอดภัย แต่การเดินคนเดียวในที่ที่ไม่มีคุนพลุกพล่านเราก็ไม่แนะนำนะทุกคน Sunscreen is a must ทาไปเลยจ้า โบกหนา ๆ ทาทุก ๆ 3-4 ชม. ไม่งั้นจะหาว่าเราไม่เตือนน้าาา เพื่อน ๆ ชอบกันไหมเอ่ยยย ถึงทริปนี้พวกเราโบกครีมกันแดดอย่างกับเขามาเป็น sponsor พวกเราก็ยังหลังไหม้กันเป็นแถบจ้า อย่างที่บอกแดดที่ Cancun มันร้อนสุด ๆ ไปเล้ย แต่แรกมาด้วยความสนุก ช่วงเวลาดี ๆ กับเพื่อน และประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่ชีวิตไม่เคยได้เจอ ก็เรียกได้ว่าทริปนี้คุ้มมากเลย ว่าแล้วก็ เมื่อสถานการณ์ Covid ดีขึ้นแล้ว อย่าลืมหาเวลาไปเที่ยวกันน้าทุกคนนน