หลายคนต้องใช้ชีวิตอยู่กับบ้านในช่วง โควิด-19 อยากไปไหนก็ไม่ได้ไป มีบ้างไหมที่รู้สึกตัวเองเริ่มหงุดหงิด , อึดอัด จนรู้สึกเบื่อตัวเท่าบ้าน นั่นแสดงว่าคุณเริ่มมีอาการ Cabin Fever เข้าให้แล้ว ว่าแต่มันคืออะไรล่ะ จะมีผลอันตรายกับร่างกายเราไหม เราจะพาไปทำความรู้จักศัพท์ใหม่คำนี้ที่เกี่ยวข้องกับชีวิตของใครหลายคน ในแบบฉบับเข้าใจง่าย ได้ความรู้พร้อมความสนุกไปด้วยกัน ก่อนอื่นเราต้องมาทำความเข้าใจความหมายของคำว่า Cabin Fever กันก่อน ถ้าแปลกันแบบตรงตัวเลย Cabin คือ กระท่อม ส่วน Fever คืออาการ ไข้ แต่รวมกันแล้วไม่ได้หมายถึงกระท่อมเป็นไข้นะ เป็นคำเปรียบเปรยในทำนองที่ว่าอยู่กับบ้านแล้วมันรู้สึกปวดหัว คล้ายมีอาการไข้ หลายคนสงสัยใช่ไหมว่าถ้าบอกว่าอยู่บ้าน ทำไมไม่ใช้คำว่า Home Fever ไปเลย เหตุผลคือในอีกความหมายของคำว่า Cabin เปรียบได้กับเราอยู่ในบ้านหลังเล็กแบบกระท่อม ให้ความหมายสื่อถึงคำว่า อึดอัด เป็นพื้นที่แคบ ๆ ต้องอยู่แบบซ้ำซากจำเจได้ชัดเจนกว่า เมื่อรวมกับคำว่า Fever มันจึงเป็นคำจำกัดความของคนที่เคยไปไหนมาไหน เมื่อต้องอยู่กับบ้านนาน ๆ มันมีอาการผิดปกติเช่นเบื่อ , เครียด , เห็นอะไรที่ซ้ำซากจำเจในบ้านแล้วหงุดหงิด ลองสำรวจตัวเองดูว่ามีอาการเหล่านี้เกิดขึ้นมากน้อยแค่ไหน ขอสารภาพว่าตัวผู้เขียนเองเป็นคนที่มีอาการของ Cabin Fever เช่นกัน เป็นคนที่มีเวลาว่างต้องหาเรื่องออกไปทำงาน ออกไปเที่ยวข้างนอก แทบจะไม่ค่อยมีเวลาอยู่ติดบ้านเลย ตั้งแต่มี โควิด-19 ต้องอยู่กับบ้าน ช่วงแรกจะมีอาการแบบที่กล่าวมาชัดเจน ก็คนมันเคยไปไหนมาไหนทุกวันนี่นา อยู่กับบ้านก็หงุดหงิดสิ แต่ไม่ต้องกลัวว่าผมจะไปอาละวาด ปีนเสาไฟฟ้า หรือเอามีดไปเที่ยวไล่จี้ชาวบ้านนะ เพราะอาการที่เป็นผลพวงมาจาก Cabin Fever นี่มันไม่ใช่โรค ไม่ใช่อาการโรคจิตซึมเศร้าที่ต้องมีการรักษา ขอให้ผู้ที่มีอาการแบบนี้สบายใจได้ อ่านมาถึงบรรทัดนี้ขอให้เอาอาการ เครียด ออกไป ผู้เขียนขอเอาวิธีแก้จากประสบการณ์ส่วนตัวมาให้ลองทำตามกัน รับรองว่าช่วยได้แน่นอน ขอข้ามคำว่าต้องหาอะไรทำ , ปลูกต้นไม้ , ทำงานบ้าน เพราะมันช่วยได้แค่แป๊บเดียว กวาดบ้านเสร็จกลับมานั่งเดี๋ยวเดียวเครียดอีกละ อยากออกไปนอกบ้านเหลือเกิน และเราก็คงไม่สามารถปลูกต้นไม้ หรือทำงานบ้านได้ 24 ชม. แต่วิธีที่ทดลองใช้แล้วมันได้ผล ถ้าเราอยากเที่ยว เราก็พาตัวเองไปอยู่ในขั้นตอนของการท่องเที่ยวสิ แต่ไม่ใช่หมายความว่าให้ขับรถออกไปเที่ยวกันจริง ๆ นะ ลองคิดสิครับว่าก่อนเราจะไปเที่ยวที่ไหนสักที่ต้องทำอะไร ใช่แล้วครับคือการ หาข้อมูล เช่นเมื่อหมดโควิด-19 เราอยากไปเที่ยวเวียดนาม ก็ใช้เวลานี้ในการหาข้อมูลว่าไปแล้วจะไปนอนที่ไหน , เดินออกสนามบินไปขึ้นรถยังไง , จะไปเที่ยวที่ไหนได้บ้างในเมืองที่เราไป ฯลฯ วิธีนี้มันมีผลทางจิตวิทยา ให้ความรู้สึกกับตัวเราว่า นี่ชั้นกำลังจะไปเที่ยวแล้วนะ ระหว่างหาข้อมูลใจเราล่องลอยไปอยู่ที่ร้านกาแฟวิวสวย ๆ ในดาลัด , จินตนาการถึงบรรยากาศของท้องถนนในนครโฮจิมินห์ , ความสวยยามราตรีของผู้คน คิดตามแล้วรู้สึกมันสบายใจขึ้น คนละอารมณ์กับก่อนอ่านบทความเลยใช่ไหมครับ ผมเองใช้วิธีนี้เมื่ออยู่ว่างกดหาข้อมูลของสถานที่ ที่อยากไป ใช้เวลาวางแผนการท่องเที่ยวว่าใช้เงินเท่าไหร่ ไปยังไง มันสร้างอารมณ์ให้เรารู้สึกว่ากำลังจะออกไปเที่ยว เดี๋ยวหมดโควิด-19 เราก็ได้ไป ลองทำกันดูครับรับรองว่าได้ผล บางคนสงสัยว่า เอ๊ะ..! ปกติเราไม่ชอบเที่ยวนะ แค่ต้อง Work from home ไม่ได้ออกจากบ้านเท่านั้นเอง จะให้วางแผนไปเที่ยวอาจไม่สะดวก ง่ายมากครับ ให้เปลี่ยนจากสถานที่ท่องเที่ยว เป็นสถานที่ตามเส้นทางในชีวิตประจำวันเมื่อต้องเดินทางไปทำงาน เช่นร้านเสื้อผ้าแถวสถานีรถไฟฟ้า , ของกินอร่อยรอบออฟฟิศ วางแผนหาข้อมูลว่า ถ้ากลับไปทำงานได้จะทำอะไร ใจเราจะลดการโฟกัสสิ่งต่าง ๆ ภายในบ้านลดลง แล้วใจไปอยู่ที่ตลาดละลายทรัพย์ ไปอยู่ที่สีลม เปลี่ยนความเบื่อเป็นความรู้สึกว่าตัวเรา กำลังจะได้ไปทำงาน จะกลับไปพบเจอชีวิตปกติ มีผลทางจิตใจช่วยได้อย่างแน่นอน เมื่อความเครียดลดลง เราจึงใช้เวลาว่างที่เหลือทำงานบ้าน , ดูละคร เล่นกับสัตว์เลี้ยงตามปกติ เพียงเท่านี้อาการ Cabin Fever จะหายไป กลายเป็นความสนุกเมื่ออยู่กับบ้านแทน ลองสำรวจเพื่อนฝูงหรือคนรอบตัว หากเห็นว่าเค้าเริ่มมีอาการตามที่เคยกล่าวมา เล่าวิธีแก้ หรือแชร์บทความนี้ไปให้เพื่อนได้อ่าน เพียงเท่านี้เราก็สามารถช่วยบำบัดความเครียดเมื่อต้องอยู่กับบ้านนาน ๆ ของคนรอบข้างได้แบบง่าย ๆ เมื่อทุกอย่างกลับมาเป็นปกติ ถึงเวลานั้นเราจะได้ออกไปเที่ยวกันอย่างเต็มที่ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นแค่ชั่วคราว จะเครียดกันทำไมใช่ไหมครับ ขอให้ทุกคนมีความสุขกับชีวิต เพราะชีวิตเป็นเรื่องสนุก จงมีความสุข และยิ้มไปกับมัน... ภาพหน้าปกโดย : ผู้เขียน