ใช้ "a" และ "the" อย่างไรเมื่อพูดถึงสถานที่พิเศษ ฮัลโหลทุกคน เป็นอย่างไรกันบ้างค่ะช่วงนี้ สบายดีกันไหม หลายคนที่กำลังกักตัวอยู่บ้าน เนื่องจากสถานการณ์โควิดที่กำลังระบาดอยู่ในช่วงนี้ น้องๆนักเรียนก็อาจเลื่อนการเปิดเทอมไป มีเวลาว่างแบบนี้แอดอยากเชิญชวนทุกคน มาเรียนรู้วิชาภาษาอังกฤษกันเยอะๆ หากใครที่กำลังเริ่มต้นทำความเข้าใจ ก็สามารถแวะเข้ามาอ่านได้ ภาษาอังกฤษ ไม่ใช่เรื่องยาก หากเราพยายามฝึกฝนทุกวัน โดยเริ่มเรียนรู้จากคำศัพท์ง่ายๆ ประโยคง่ายๆ แกรมมา ง่ายๆก่อน ยิ่งเราเรียนรู้มากเท่าไร เราก็จะเก่งขึ้นมากเท่านั้น หากเราฝึกบ่อยๆ เราก็จะทำความเข้าใจมันได้โดยอัตโนมัติ และสิ่งที่แอดมาให้ความรู้ในวันนี้ก็คือ การใช้ "a" และ "the" ในการพูดถึงสถานที่พิเศษต่างๆ ว่าใช้ต่างกันอย่างไร เผื่อว่าใครที่กำลังสับสนอยู่ แอดจะอธิบายให้เข้าใจง่ายๆค่ะ ซึ่ง "a" และ "the" นั้น มีกฏมากมายเกี่ยวกับการใช้ แต่วันนี้แอดจะพูดถึงเพียงข้อเดียวเท่านั้นค่ะ ที่เราใช้พูดถึงสถานที่พิเศษ เมื่อคุณพูดถึงสถานที่พิเศษ หรือสถานที่ ที่มีชื่อเสียง โดยปกติเราจะพูดว่า "the" นำหน้าชื่อสถานที่ แต่ในทางกลับกัน เราใช้ "a" นำหน้าชื่อสถานที่ หากสถานที่นั้นไม่ได้มีความพิเศษ หรือเมื่อมีสถานที่เหล่านั้นเป็นจำนวนมาก อยากแรกที่แอดจะพูดถึงก่อนเลยก็คือ"The"- The Eiffel Tower.(หอไอเฟล)- The Nile River.(แม่น้ำไนล์)- The Great Wall of China.(กำแพงเมืองจีน)- The Amazon Rainforest. (ป่าดงดิบอะเมซอน) หากเพื่อนๆดูดีๆ จะเห็นได้ว่าสถานที่เหล่านี้ ล้วนมีเอกลักษณ์และมีชื่อเสียงยกตัวอย่างสิ่งที่เราไม่สามารถพูด- I went to a Eiffel Tower. *เพราะหอไอเฟลไม่ได้มีหลายอันนะค่ะ หอไอเฟลของจริงนั้นมีเพียงแห่งเดียวเท่านั่นค่ะ* นั่นเป็นเหตุผลที่เราควรพูดว่า - The Eiffel Tower. ที่ถูกต้องค่ะต่อไปเราจะใช้ "a" กันเมื่อไรล่ะ?"a" เราสามารถใช้ "a" นำหน้าชื่อสถานที่ ถ้าสถานที่นั้นไม่ได้มีความพิเศษมาก หรือถ้ามีหลายสถานที่ ที่คล้ายกัน เราสามารถพูดได้ว่า- I went to a tower .(ฉันไปที่หอคอย)- I went to a river.(ฉันไปที่แม่น้ำ)- I went to a forest.(ฉันไปที่ป่า) สิ่งที่กล่าวมาข้างต้นนั้น มันหมายความว่า คุณไปที่ไหนสักแห่ง แม้เราจะไม่รู้ 100% ว่าคุณไปที่หอคอยไหน แม่น้ำไหน หรือ ป่าแห่งไหนกันแน่ เราสามารถพูดได้ว่า- I went to a museum in New York City.(ฉันไปพิพิธภัณฑ์ในเมืองนิวยอร์ก ) และนี่หมายความว่า ฉันไปที่พิพิธภัณฑ์แห่งหนึ่งในนิวยอร์ก แต่มันไม่ได้บอกชัดเจนว่า เราไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์แห่งไหน ถ้าหากต้องการพูดให้ชัดเจนเกี่ยวกับพิพิธภัณฑ์ที่ไปเยี่ยมชม จะต้องใช้ "the" ในชื่อสถานที่ยกตัวอย่างเช่น- I went to the MET in New York.(ฉันไปงาน MET ที่นิวยอร์ก) เห็นไหมค่ะทุกคน ว่ากฏนี้นั้นค่อนข้างยากเล็กน้อย แต่เรามาพยายามหลีกเลี่ยงความสับสนและเรียนรู้ที่จะใช้ "a" และ "the" ได้อย่างถูกต้องค่ะ เมื่อเราพูดถึงสถานที่ ที่พิเศษ แอดก็มีความฝันอยากไปเยี่ยมชมหอไอเฟลในฝรั่งเศษ ทันทีทันใดเหมือนกันนะ 55555 เอาละทุกคน เดี่ยวแอดจะยกตัวอย่างของประโยคการใช้ "a" และ "the" กันไปพร้อมกันแบบยาวๆไปเลยนะ ไปดูกันเลย● It's my dream to visit the Eiffel Tower in France.( ความฝันของฉันคือการไปเยี่ยมชมหอไอเฟลในฝรั่งเศษ)● The Great Wall of China is more than 2300 years old .(กำแพงเมืองจีนนั้นมีอายุมากกว่า 2300ปี)● I'm Reading about the pyramids in Egypt.(ฉันกำลังอ่านเกี่ยวกับปิรามิดในประเทศอียิปต์)● I'm trying to find a delicious seafood restaurant.(ฉันกำลังพยายามหาร้านอาหารทะเลอร่อยๆ)● Could you recommend a shop that will fix my computer?(คุณช่วยแนะนำร้านที่สามารถซ่อมคอมพิวเตอร์ของฉันได้ไหม?)● I want to go to beautiful park .(ฉันอยากไปสวนสาธารณะที่สวยงาม) สรุป "The" พูดถึงสถานที่พิเศษ หรือสถานที่ ที่มีชื่อเสียง"a" ใช้นำหน้าชื่อสถานที่ หากสถานที่นั้นไม่ได้มีความพิเศษ หรือเมื่อมีสถานที่เหล่านั้นเป็นจำนวนมาก เป็นอย่างไรกันบ้างค่ะทุกคน พอจะนึกภาพออกไหม ว่าการใช้แต่ละอย่างนั้นต่างกันแบบไหน เห็นไหมค่ะว่า ภาษาอังกฤษนั้นง่ายนิดเดียว ฝึกฝนกันบ่อยๆนะค่ะ แล้วเราจะเก่งขึ้น หากชื่นชอบบทความสาระดีๆแบบนี้ ฝากกดไลค์ กดแชร์ และกดติดตามไว้ด้วยนะค่ะ เพื่อไม่พลาดข้อมูลดีๆ สำหรับวันนี้บายๆรูปภาพโดยนักเขียน Inviting#English #Easy #A #The #Inviting