ประวัติศาสตร์ฟุตบอลอังกฤษนับจากเปลี่ยนชื่อมาเป็น พรีเมียร์ลีก มีเพียง 3 ทีมเท่านั้นที่สามารถป้องกันแชมป์ของตัวเองไว้ได้คือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด , เชลซี และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยิ่งในปัจจุบันทุกทีมแข่งขันกันสูง การรักษาแชมป์จึงนับว่ายากขึ้นเป็นทวีคูณ มันจึงเป็นเรื่องที่ท้าทายของ เจอร์เกน คล็อปป์ ที่จะพาพลพรรคหงส์แดง ลิเวอร์พูล เถลิงแชมป์เป็นคำรบที่ 2 นอกจากการได้นักเตะใหม่เสริมทัพในฤดูกาลนี้ ยังมีปัจจัยหลายสิ่งที่ทำให้พวกเค้าเชื่อว่าจะสามารถ ป้องกันแชมป์ ไว้ได้อีกสมัย ไปดูเหตุผลกันว่าฤดูกาลนี้ลิเวอร์พูลมีดีอะไร และทำไมถึงคู่ควรกับคำว่าแชมป์ 1. แกนหลักของทีมอยู่ครบ ก่อนเริ่มฤดูกาลเหล่าเกจิต่างคาดการณ์ว่า เจอร์เกน คล็อปป์ มีโอกาสที่จะเสียผู้เล่นคนสำคัญอย่าง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ หรือ ซาดิโอ มาเน่ ที่มีข่าวลืออย่างหนาหูว่าทีมเจ้าบุญทุ่ม บาร์เซโลน่า ต้องการนำตัวไปแทน ลีโอเนล เมสซี ในช่วงที่เจ้าตัวต้องการย้ายออกจากคัมป์นู แต่จนแล้วจนรอดทุกอย่างจบลงที่เมสซีต่อสัญญา และปัญหาในช่วงโควิด-19 บาร์เซโลน่าไม่มีกำลังซื้อมากพอต้องกลับไปใช้งานของเก่าที่มีอย่างคูตินโญ่ เป็นอันว่าลิเวอร์พูลโชคดีแบบสุด ๆ ที่ 3 ประสานในแดนหน้ายังอยู่ครบ กดปุ่มเดินเครื่องถล่มประตูคู่แข่งได้ต่อเนื่องทันที ตำแหน่งอื่นยังอยู่กันพร้อมหน้า แกร่งทั่วแผ่น พร้อมล่าแชมป์อีกสมัย 2. ได้ตัวเด็ด! มาเสริม นอกจากของเก่าจะไม่เสีย ลิเวอร์พูลยังได้ตัวผู้เล่นระดับสุดยอดในตลาดเข้ามาเพิ่มในแอนฟิลด์อย่าง ติอาโก อัลคันทารา ที่เข้ามาแบบเสริมได้ถูกจุด นัดแรกประเดิมสนามในครึ่งหลังกับเชลซีพิสูจน์ด้วยสถิติจ่ายบอลสำเร็จถึง 75 ครั้ง มากที่สุดใน 45 นาทีนับจากที่มีการบันทึกสถิติตั้งแต่ฤดูกาล 2013 บ่งบอกว่าเค้ามีพรสวรรค์ไม่ต้องปรับตัวอะไรมากมายทำให้ลิเวอร์พูล เก่งขึ้น กว่าฤดูกาลก่อนที่ได้แชมป์เสียอีก 3. เจอร์เกน คล็อปป์ ยังมีความกระหาย ได้ฉายา ราชันไร้มงกุฎ ผู้เชี่ยวชาญด้านรองแชมป์อยู่นาน และนี่เพิ่งจะเป็นโทรฟี่แชมป์ลีกครั้งแรกกับลิเวอร์พูล คล็อปป์ยังมีเรื่องท้าทายอะไรอีกหลายอย่างให้ทำอีกเยอะ เสียงตวาดดังลั่น อารมณ์ที่แสดงออกอย่างบ้าคลั่งข้างสนาม บ่งบอกว่าตัวเค้าไม่ใช้ผู้จัดการทีมที่หมดไฟ ยังต้องการความสำเร็จมากกว่านี้ การคว้าแชมป์สองสมัยซ้อนคือเรื่องท้าทายของคล็อปป์เพื่อตอกย้ำว่าเค้าคือที่สุดของที่สุดตัวจริง ด้วยแทคติก และการวางแผนแก้เกมส์ที่ยอดเยี่ยม เตรียมขยายตู้โชว์ที่แอนฟิลด์ไว้รอวางถ้วยได้เลย 4. คู่แข่งเปลี่ยนทีมเยอะ การเสีย เลรอย ซาเน่ และ ดาบิด ซิลบา กระทบกับประสิทธิภาพเกมส์รุกของเรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไม่น้อย แถมยังมีปัญหานักเตะตัวหลักไล่ตั้งแต่ ริยาด มาห์เรซ , อิลคาย กุนโดกัน และ อายเมอริค ลาปอร์กต์ ต้องกักตัว 10 วัน และรอดูอาการว่าจะกลับมาได้เมื่อไหร่จนต้องปรับทัพเปลี่ยนทีมกันวุ่นวาย หันไปทางเชลซีที่เสริมทีมอย่างน่ากลัว แต่ยังต้องใช้เวลาอีกสักระยะกว่าจะลงตัว เช่นเดียวกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด , ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ หรือ เลสเตอร์ ซิตี้ ก็ยังดูไม่แกร่งพอที่จะขึ้นมาต่อกร เห็นจะมีเพียงอาร์เซน่อลของอาร์เตตา ที่ทรงบอลดูดี แต่ระยะยาวต้องมาวัดดูว่าจะยืนระยะไหวไหม ส่องกล้องมองคู่แข่งช่างเป็นใจให้กับลิเวอร์พูลเหลือเกิน 5. โชคชะตาเป็นใจ ถ้าคุณเชื่อในเรื่องโชคลางนี่คือสถานการณ์ที่เหมือนถูกกำหนดให้คว้าแชมป์อีกสมัย ย้อนไปในฤดูกาล 2019-2020 ลิเวอร์พูลประเดิมสนามนัดแรกด้วยการเปิดแอนฟิลด์ถล่มน้องใหม่ที่เพิ่งเลื่อนชั้นอย่าง นอริช ซิตี้ ไป 4-1 เช่นเดียวกับที่ฤดูกาลนี้เปิดบ้านเอาชนะ ลีดส์ ยูไนเต็ด ที่เพิ่งเลื่อนชั้นขึ้นมาเช่นกันไป 4-3 โดยมี ซาลาห์ และ ฟานไดจ์ค มีชื่อทำประตูเหมือนกันทั้ง 2 นัด หากคิดว่าเป็นเรื่องบังเอิญ นัดที่ 2 ของฤดูกาลก่อน ลิเวอร์พูลไปเยือน เซาแธมป์ตัน ชนะไปถึงถิ่น 1-2 มาฤดูกาลนี้เปลี่ยนเป็นไปเยือนเชลซี และชนะไป 0-2 โดยมีซาดิโอ มาเน่ มีชื่อทำประตูเช่นเดียวกันทั้ง 2 เกมส์ และนัดต่อไปลิเวอร์พูลต้องไปเยือนอาร์เซน่อล เช่นเดียวกับฤดูกาลก่อน! ช่างเป็นความบังเอิญที่เหมือนเขียนโชคชะตาไว้สำหรับลิเวอร์พูล 6. การออกสตาร์ทที่ยอดเยี่ยม การรับมือน้องใหม่ที่กำลังห้าวอย่างลีดส์ ยูไนเต็ด และไปเยือนเชลซีถึงถิ่นสแตมฟอร์ดบริดจ์ แม้แต่แฟนพันธุ์แท้ของหงส์แดงยังไม่กล้าพูดอย่างเต็มปากเต็มคำเท่าไหร่ว่าจะเอาตัวรอดมาได้แบบ 6 คะแนนเต็ม แต่มันก็เป็นไปแล้วเมื่อพลพรรคหงส์แดงจัดการยิงรวม 2 นัดไปถึง 6 ประตู พร้อมกับแฮตทริกแรกของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ พาลิเวอร์พูลประเดิมฤดูกาลใหม่อย่างสวยหรูมีลุ้นป้องกันแชมป์อีกสมัย 7. เพราะ “ลิเวอร์พูล” คือ “ลิเวอร์พูล” คำว่าเลือดเดอะค็อปส์ คือคำจำกัดความของสโมสรที่ได้ชื่อว่ามีแฟนบอลเหนียวแน่นเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันมากที่สุดทีมหนึ่งของโลก หัวใจเลือดนักสู้ถูกถ่ายทอดลงบน DNA ของแฟนบอล และนักเตะ โดยมี เจอร์เกน คล็อปป์ ที่เข้าใจวัฒนธรรมทุกอย่างของสโมสร หลายเกมส์ในฤดูกาลก่อนที่น่าจะแพ้แต่กลับมาได้ พร้อมที่จะเกิดขึ้นอีกครั้งในฤดูกาลนี้ ทำไมถึงเป็นอย่างนี้ได้? “ก็เพราะว่ามันเป็นลิเวอร์พูลไง” Red Machine หรือ เครื่องจักรสีแดง มันคือองค์ประกอบที่ทีมอื่นไม่มี ถ้าจะคว้าแชมป์ได้อีกครั้งทุกเหตุผลที่กล่าวมาทั้งหมดมันถูกหล่อหลอมรวมเป็นข้อเดียว เพราะนี่คือลิเวอร์พูล คำนี้ก็เพียงพอแล้วกับเหตุผลว่าทำไมลิเวอร์พูลถึงคู่ควรกับการเป็นแชมป์ เป็นเรื่องที่ต้องติดตามกันดูต่อไปว่าตลอดฤดูกาลที่เหลือ ลิเวอร์พูลจะทำผลงานได้สมหวังดั่งที่ตั้งใจไว้หรือไม่ จะมีปัจจัยอะไรมาเปลี่ยนแปลงทำให้แชมป์ในปีนี้ต้องเปลี่ยนมือ อีกไม่นานคงได้รู้กัน แต่แนะนำให้กดบันทึกลิงก์บทความนี้เก็บเอาไว้ อีก 1 ปีต่อจากนี้กลับมาอ่านจะพบบทความ “7 เหตุผล ที่จะทำให้ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 3 สมัยซ้อน” คงไม่ใช่เรื่องที่เกินจริง อัปเดตเรื่องราวในวงการฟุตบอล และกีฬาทั่วโลกได้ที่ sport.trueid.net และวันหน้ามาติดตามเรื่องราวการวิเคราะห์ที่น่าสนใจแบบนี้กันได้อีกครับ 🤗.. ภาพประกอบโดย Liverpool FC Official : ภาพปก / ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4 / ภาพที่ 5 ช่องดูบอลสด ดูบอลออนไลน์ และกีฬาชั้นนำทั่วโลก >> คลิกที่นี่ ดูบอลพรีเมียร์ลีกฟรี ทุกสัปดาห์ ผ่านทาง ID Station >> คลิกที่นี่