7 วิธีเอาตัวรอดควรรู้เมื่อเรือ ‘เรือล่ม’ ทักษะการ ‘เอาตัวรอด’ นับเป็นสิ่งสำคัญไม่น้อยยามเมื่อเราต้องเผชิญกับสภาวะไม่คาดฝัน ยิ่งในไม่กี่วันที่ผ่านมาหลายคนอาจจะได้ติดตามข่าวของอุบัติเหตุเรือล่มถึง 2 ครั้งในวันเดียวกัน กับเหตุการณ์เรือนักท่องเที่ยวล่มในแม่น้ำเจ้าพระยา และเรือเฟอร์รี่ขนส่งขยะล่มที่เกาะสมุย ซึ่งทั้งสองเหตุการณ์ก็มีทั้งผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิต ซึ่งแน่นอนว่าเหตุการณ์น่าเศร้านี้คงไม่อยากให้มีใครเกิดขึ้น แต่หากว่าเราต้องเผชิญอยู่ในสภาวะนี้ล่ะ จะต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง? วันนี้ผมเลยนำ ‘7 วิธีเอาตัวรอดเมื่อเรือล่ม’ มาฝากกันครับ1. สังเกตสภาพแวดล้อม เริ่มกันที่วิธีแรกกับการเตรียมการก่อนออกเรือ ให้หมั่นสังเกตสภาวะอากาศ และสภาพแวดล้อมของเรือ หากมีแนวโน้มจะมีฝนตกหนัก ควรงดการออกเรือ หรือหากจำเป็นต้องขึ้นเรือควรสวมเสื้อชูชีพตลอดเวลา และมองหาจุดสังเกตรอบ ๆ บนตัวเรือ ตำแหน่งของอุปกรณ์การช่วยเหลือต่าง ๆ เพื่อเตรียมพร้อมหากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน2. ค่อย ๆ ตั้งสติแน่นอนว่าเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ทุกคนย่อมอยู่ในสภาวะตกใจ และอาจสติหลุดได้ ความวุ่นวายบนเรืออาจทำให้เรายิ่งขาดสติ ดังนั้นเมื่อเกิดเหตุการณ์ควรรีบตั้งสติตัวเองให้ได้เร็วที่สุด พยายามผ่อนคลายตัวเองภายในเวลาสั้น ๆ หายใจเข้าและออกให้ลึก 1 ครั้ง นึกถึงวิธีการเอาตัวรอด และรีบเข้าหาอุปกรณ์ช่วยเหลือที่เราได้สังเกตไว้ตั้งแต่ตอนขึ้นเรือ3. หาสิ่งของลอยน้ำนอกจากอุปกรณ์ช่วยเหลือแล้ว หากใกล้ตัวเรามีสิ่งของที่สามารถลอยน้ำได้ เช่น ห่วงยาง แผ่นโฟม หรือเศษซากของเรือที่ลอยน้ำและสามารถเกาะได้ให้รีบคว้ามาทันที และปล่อยให้ตัวเองลอยน้ำไปตามกระแส อย่าเพิ่งรีบใช้แรงมากในช่วงแรกเพราะอาจทำให้เกิดตะคริวหรือภาวะหมดแรงได้4. รีบออกห่างจากตัวเรือหากเรือมีขนาดใหญ่ควรรีบออกห่างจากตัวเรือ เพราะวัตถุขนาดใหญ่อาจมีแรงดึงดูดให้วัตถุขนาดเล็กจมลงไปด้วยเช่นกัน แต่ถ้าหากว่ายน้ำไม่แข็งควรเกาะวัตถุลอยน้ำและพยายามพยุงตัวให้ออกห่างจากตัวเรือโดยการเตะน้ำแรง ๆ5. รวมกลุ่มกันดีที่สุดหลังจากเคลื่อนตัวออกห่างจากตัวเรือ พยายามรวมกลุ่มกันเพื่อหาวิธีเอาตัวรอด และอาจช่วยกันให้กำลังใจในยามที่อาจขาดสติได้6. สำรวจร่างกาย สำรวจร่างกายว่ามีบาดแผลหรือมีความผิดปกติหรือไม่ เพราะบางคนอาจมีภาวะตัวเย็นเกินไป (Hypothermia) ส่งผลให้ร่างกายเกิดการช็อค ไม่สามารถทนอยู่ในน้ำได้ และหยุดทำงานไปในที่สุด ส่งผลให้อาจจมน้ำเสียชีวิตได้ จึงควรต้องอยู่ใกล้ผู้อื่นเพื่อเพิ่มโอกาสในการช่วยเหลือได้ทัน7. มองหาฝั่ง และรอการช่วยเหลือหลังจากที่ปฏิบัติตามวิธีการต่าง ๆ แล้ว ในระหว่างรอการช่วยเหลือควรพยายามมองหาชายฝั่ง หากรู้ทิศแล้วอาจขยับตัวเบา ๆ เพื่อเคลื่อนที่ไปหาฝั่ง แต่หากยังไม่เห็นควรเคลื่อนไหวร่างกายให้น้อยที่สุด พยายามเก็บรักษาพลังงานไว้ งดการขยับตัวโดยไม่จำเป็น เพื่อรอให้เจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยเหลือ อุบัติเหตุเป็นสิ่งที่ไม่มีใครตอบได้ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อใด ดังนั้นเราจึงควรเตรียมพร้อมกาย และใจ ให้พร้อมรับมือสถานการณ์เหล่านี้ไว้ตลอด และที่สำคัญที่สุดคือ ‘สติ’ ที่จะเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยให้เราสามารถหาทางออกในทุกสถานการณ์นั่นเองครับ ที่มาข้อมูล : wikiHow , Singha-a-saเรื่อง / ภาพ : PARICH