โจรขึ้นบ้านสิบครั้ง ไม่เท่ากับไฟไหม้บ้านเพียงครั้งเดียว คำกล่าวนี้หลายคนคงเคยได้ยินกันมาบ้างแล้วใช่ไหมล่ะครับ ถึงแม้ว่าโจรจะขึ้นบ้านกี่ครั้ง ก็ยังพอจะเหลือที่นอนเอาไว้ให้หลบแดดหลบฝนบ้าง แต่ถ้าเกิดอัคคีภัยขึ้นมาแล้ว คงจะไม่เหลืออะไรแม้แต่ชิ้นเดียวก็เป็นได้ นี่คือความร้ายแรงของอัคคีภัยครับ โดยเฉพาะในหน้าแล้งที่ผ่านมานี้ มีเหตุการณ์ไฟไหม้เกิดขึ้นมากมายหลายที่ทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นไฟไหม้ในป่า ในรถยนต์ ในบ้าน โรงงาน หรือแม้กระทั่งชุมชนขนาดใหญ่ก็ตาม เหตุการณ์เหล่านี้ล้วนมีสาเหตุแตกต่างกันไป แต่ส่วนมากจะมีปัจจัยหลักมาจากสภาพอากาศที่แห้ง ทำให้วัสดุต่าง ๆ เป็นเชื้อไฟได้อย่างดีเลยครับ อัคคีภัยส่วนใหญ่จะทำให้เกิดความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินเป็นจำนวนมาก หลายเหตุการณ์เราสามารถป้องกันไม่ให้อัคคีภัยเกิดขึ้นมาได้ แต่ถ้าเหตุเกิดขึ้นมาแล้ว และยังเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวเองอีกด้วย เราจะมีวิธีการเอาตัวรอดจากเพลิงไหม้ได้อย่างไร วันนี้ผมจะมาแนะนำวิธีเอาตัวรอดจากไฟไหม้ จากประสบการณ์จริงที่เจอมากับตัวเอง เพื่อให้ทุกคนได้รับทราบข้อมูลและนำไปประยุกต์ใช้ หากมีเหตุเกิดขึ้นกับตัวเองนะครับ 1. ตั้งสติให้เร็วที่สุด เมื่อเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้ขึ้นใกล้ตัว สิ่งที่ที่ผมอยากจะให้ทุกคนพยายามทำเป็นอันดับแรกเลยก็คือการตั้งสติครับ ถึงแม้ว่ามันจะเป็นสิ่งที่ทำได้ยากมาก ๆ หากมีเหตุเกิดขึ้นมาใกล้ตัวมาก ๆ เหตุการณ์ไฟไหม้ที่ผมเจอมากับตัวก็คือ ไฟไหม้ในแคมป์คนงานก่อสร้างที่เป็นข่าวไปเมื่อไม่กี่เดือนก่อนหน้านี้ ผมอยู่ในเหตุการณ์นั้นพอดี เหตุการณ์เริ่มจากห้องต้นเพลิงเกิดไฟไหม้ขึ้น แล้วช่วงเวลานั้นไม่มีคนงานพักอยู่เลยแม้แต่คนเดียว ประกอบกับมีลมที่พัดค่อนข้างแรง โดยลมจะพัดจากห้องต้นเพลิงเข้าสู่ห้องแถวต่าง ๆ ที่อยู่ในแนวเดียวกัน ช่วงเวลานั้นผมพยายามตั้งสติให้ได้เร็วที่สุด และพาตัวเองออกจากบริเวณนั้นไปยังจุดปลอดภัยให้เร็วที่สุด โดยที่ไม่ต้องหยิบคว้าอะไรติดตัวมาเลย เพื่อให้น้ำหนักตัวเบาที่สุดนั่นเอง 2. เปิดสัญญาณแจ้งเตือนไฟไหม้ หลังจากที่ตั้งสติได้แล้ว สิ่งที่สำคัญสิ่งต่อไปก็คือการเปิดสัญญาณแจ้งเตือนไฟไหม้ (Fire Alarm) โดยปกติแล้วไม่ว่าจะเป็นอาคารห้างร้านต่าง ๆ ส่วนใหญ่จะมีการติดตั้ง Fire Alarm ไว้อยู่แล้ว ถ้าเกิดเหตุขึ้นมาเราต้องพยายามวิ่งตรงไปเปิดสัญญาณแจ้งเตือนให้ได้ เพื่อให้คนที่ยังไม่ทราบว่ามีเหตุไฟไหม้เกิดขึ้น ได้รับรู้ถึงอันตรายและพร้อมหลบหนีออกจากจุดที่ไฟไหม้ให้เร็วที่สุด 3. โทรศัพท์แจ้งเหตุไฟไหม้ ให้เร็วที่สุด ถึงแม้ว่าเหตุการณ์ไฟไหม้จะมีอันตรายสูงมาก แต่ถ้าสามารถเคลื่อนย้ายตัวเองไปยังจุดปลอดภัยในระดับหนึ่งได้แล้ว ผมแนะนำให้ทุกคนรีบโทรแจ้งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเร็วที่สุด โดยสายด่วนที่ควรบันทึกไว้ในโทรศัพท์ก็คือ - สายด่วนแจ้งเหตุเพลิงไหม้ ตลอด 24 ชั่วโมง เบอร์โทร 📞199 🚒 - แจ้งเหตุฉุกเฉิน เรื่องทั่วไป ตลอด 24 ชั่วโมง เบอร์โทร 📞 191 🚒 4. พยายามมองหาทางออกให้เร็วที่สุด ผมเชื่อว่าเกือบทุกที่จะมีป้ายทางออกหนีไฟ เพราะถ้าหากเหตุการณ์ไฟไหม้เกิดขึ้นในช่วงเวลากลางคืน ป้ายบอกทางจะต้องส่องสว่างตลอดเวลา เพื่อเป็นตัวบอกทางให้คนที่ประสบเหตุหนีไปยังทางออกได้อย่างปลอดภัยและรวดเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ถ้าไม่มีป้ายทางออกหนีไฟ ให้ใช้หลักการ"มาทางไหนไปทางนั้น" นั่นก็คือให้หนีไปยังทางที่เข้ามา (หากทางนั้นไม่มีเพลิงไหม้) นั่นก็เพราะเป็นเส้นทางที่เราคุ้นเคยมากที่สุดนั่นเองครับ 5. มองหาถังดับเพลิงและใช้มันเพื่อสกัดหรือหยุดเหตุ 🧯 ระหว่างที่รอหน่วยดับเพลิงมาถึง และสามารถพาตัวเองไปยังพื้นที่ปลอดภัยได้แล้ว หากใครกำลังประสบกับเหตุการณ์เพลิงไหม้ที่ไม่ลุกลามมาก เช่น เพลิงไหม้รถยนต์ เพลิงไหม้กองไม้ หรือเพลิงไหม้ห้องเล็ก ๆ เราสามารถให้การช่วยเหลือเบื้องต้นได้ นั่นก็คือการดับหรือสกัดเพลิงไหม้ด้วยถังดับเพลิง โดยในปัจจุบันนี้พื้นที่ชุมชนส่วนใหญ่จะมีการติดตั้งถังดับเพลิงเอาไว้ หากใครที่เรียนรู้วิธีการใช้งานมาบ้างแล้วก็สามารถใช้ถังดับเพลิงช่วยดับเพลิงเบื้องต้นได้เลยนะครับ หลักการง่าย ๆ ของการใช้ถังดับเพลิงก็คือดึง (ดึงสลักที่ล็อกตัวกด โดยการบิดหรือหมุนให้กระดูกงูขาด) ปลด (ปลดสายฉีดออกจากช่องเก็บ ด้วยการจับบริเวณปลายสายฉีด แล้วเล็งไปทางจุดที่ต้องการจะดับ)กด (กดคันกดบนหัวถังดับเพลิง เพื่อให้สารเคมีด้านในออกมาจากท่อดับเพลิง)ส่าย (ส่ายหัวฉีดไปทั่วบริเวณที่จะดับ เพื่อให้สารเคมีกระจายไปให้กว้างที่สุด) 6. หาผ้าชุบน้ำปิดจมูกแล้วหนีออกจากบริเวณไฟไหม้ หากใครที่ติดอยู่ในตัวอาคาร หรือช่องทางเดินที่เต็มไปด้วยควัน แต่ยังพอมองเห็นทางออก และเป็นทางที่ปลอดภัยพอที่จะฝ่าออกไปได้ การวิ่งฝ่าออกไปถือว่าเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง แต่ว่าปริมาณควันที่ลอยฟุ้งอยู่ระหว่างทางออกอาจจะเป็นอันตรายกับร่างกายได้โดยตรง เพราะปริมาณสารพิษในควันเหล่านั้น หากสูดดมเข้าไปมาก ๆ ก็จะทำให้หมดสติได้ วิธีการฝ่าออกไปก็คือการหาผ้าชุบน้ำให้ชุ่ม แล้วนำมาปิดจมูกไว้ ระหว่างที่วิ่งออกไปก็พยายามกลั้นหายใจให้มากที่สุด แล้วก้มตัวลงต่ำ เพราะควันจะลอยตัวสูงกว่าพื้นดินนั่นเองครับ 7. หากติดอยู่ในห้อง ระหว่างที่รอการช่วยเหลือจากหน่วยดับเพลิง หากติดอยู่ในห้องที่มีหน้าต่าง แล้วไฟยังไม่ได้ไหม้เข้ามาในห้องที่เราหลบอยู่ ให้หาผ้าชุบน้ำมาอุดไว้รอบ ๆ ประตูห้อง และเปิดหน้าต่างเพื่อส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือ หากเจ้าหน้าที่มาถึงแล้วจะได้ช่วยเหลือได้ทันท่วงที และที่สำคัญก็คือการเปิดหน้าต่างจะช่วยให้เราสามารถหายใจได้ ถ้าหากห้องที่หลบอยู่มีกลุ่มควันก็จะช่วยระบายควันเหล่านั้นออกไปได้อีกด้วยครับ เป็นอย่างไรบ้างครับกับ 7 วิธีเอาตัวรอดจากไฟไหม้ที่ผมเคยพบเจอมา ผมหวังว่าประสบการณ์ของผมในครั้งนี้จะมีประโยชน์กับทุกคนไม่มากก็น้อยนะครับ หากพบเจอกับเหตุการณ์ร้ายเหล่านี้ ก็สามารถนำวิธีการนี้ไปใช้ได้ตามสถานการณ์เลยครับ สิ่งสำคัญที่สุดคือรักษาชีวิตของตัวเองไว้ให้ได้ สิ่งของต่าง ๆ สามารถหาใหม่ได้หากยังมีลมหายใจอยู่ ผมหวังว่าทุกคนจะไม่เจอกับเหตุการณ์ร้าย ๆ แบบนี้ในชีวิตนะครับ สำหรับวันนี้ผมต้องขอตัวลาไปก่อน แล้วพบกันใหม่ครับ สวัสดี CREDIT ภาพหน้าปกขอขอบคุณภาพประกอบ | ภาพที่ 1 | ภาพที่ 2 | ภาพที่ 3 | ภาพที่ 4 | ภาพที่ 5 | ภาพที่ 6 | ภาพที่ 7