กเข้าสู่ฤดูหนาวอย่างเป็นทางการ เพื่อนๆ หลายๆ คน อาจจะวางแผนทริปเที่ยวเอาไว้บ้างแล้ว แต่สำหรับใครยังไม่มีแพลน และไม่รู้จะไปเที่ยวที่ไหนดี วันนี้ เราจะมาขอแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตอีกหนึ่งแห่ง ที่สามารถไปสัมผัสอากาศหนาวได้ แถมยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นจุดแลนด์มาร์ค ที่น่าสนใจอีกหลายแห่งอยู่ใกล้ๆ กัน มีเวลาน้อยก็เที่ยวได้ นั่นก็คือ "เชียงคาน จังหวัดเลย" นั้นเองครับ 7 จุด Check In ที่ห้ามพลาดเมื่อมาเที่ยวเชียงคาน 📍 ชมสองฝั่งแม่น้ำโขง (ไทย-ลาว) อีกจุดแลนด์มาร์ค ของเชียงคาน ที่มาแล้ว ยังไงก็ต้องมีภาพติดตัวกลับบ้านแน่นอน นั้นก็คือ ถนนริมโขง โดยสามารถเดิน หรือ จะเช่าจักรยานมาปั่น ชมวิววิวภูเขา และสองฝั่งแม่น้ำโขง ที่ทอดยาว สุดลูกหู ลูกตา แบบชิลล์ๆ ปล.ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการถ่ายรูป เวลา 16:30 น. เป็นต้นไป 📍 ชมพระอาทิตย์ตก เมื่อเดินกินลม ชมวิว แบบชิลล์ๆ เต็มที่แล้ว อีก 1 จุด ที่ควรมาเก็บภาพบรรยากาศคือ "ชมพระอาทิตย์ตก" นั้นเอง แนะนำให้มาก่อน 5 โมงเย็นๆ เพราะช่วงเวลานี้ แสงและองค์ประกอบภาพจะสวยมากจ้า หลังจากพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าแล้ว เราสามารถเข้าไปเดินถนนคนเดิน หาของกินเล่น กินอิ่ม ช้อปปิ้ง ต่อได้ยาวๆ จ้า 📍 ถนนคนเดิน เชียงคาน ถนนคนเดิน ถือเป็นแลนด์มาร์คของที่เชียงคานเลยก็ว่าได้ โดยลักษณะของถนนคนเดินที่นี้ จะเป็นชุมชนบ้านไม้ที่อยู่ติดริมแม่น้ำโขง ซึ่งยังคงให้กลิ่นอายของวัฒธรรมของชุมชนในอดีต โดยผสมผสานของผู้คนในปัจจุบันได้อย่างลงตัว ที่ถนนคนเดิน จะมีร้านค้าที่ประยุกต์ตกแต่งในบ้านไม้เดิม และร้านค้าที่มาตั้งขายเฉพาะช่วงถนนคนเดินก็มีเช่นเดียวกัน โดยมีทั้งของกินเล่น กินอิ่ม เสื้อผ้า ของที่ละลึกต่างๆ และที่เราชอบมากๆ คือ กุ้งเสียบไม้ ปูนาย่าง และอีกอย่างที่เราเรียกไม่ถูก ที่เป็นแป้งแผ่นๆ เวลาย่างจะแป้งจะขยายออก (อันนี้เราจำชื่อไม่ได้ ขออภัยด้วยแฮะๆ) ปล.เวลาที่เหมาะสมเดินถนนคนเดิน เวลา 18:00 เป็นต้นไป 📍 ชมพระอาทิตย์ขึ้น ทะเลหมอก @ภูทอก เที่ยว กิน อิ่ม แบบจุกๆ ที่ ถนนคนเดินเมื่อคืนเสร็จแล้ว ต้องรีบเข้านอนพักผ่อนเอาแรง เพราะต้องตื่นแต่เช้า เพื่อไปชมพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า ทะเลหมอก ที่ภูทอกนั้นเอง สำหรับการเดินทางจาก ตัวเชียงคาน ไปยังภูทอก เพื่อนๆ สามารถเหมาบริการรถสามล้อ (ราคาตกลงกันก่อนเด้อ) หรือรถส่วนตัว ได้เช่นเดียวกัน ระยะทางจากเชียงคาน ถึง จุดขึ้นรถบริการของชุมชน ประมาณ 10 กิโลเมตร (ค่าบริการขึ้นภูทอก 25 บาท/คน) , แนะนำให้ขึ้นภูทอกก่อน 6 โมงเช้า เพราะคนจะยังน้อยๆ อีกทั้งจะมีเวลาในการเก็บภาพบรรยากาศสวยๆ ครบทุกมุมจ้า ปล.เวลาที่เหมาะสมในการชมทะเลหมอกและชมพระอาทิตย์ขึ้น เวลา 05:00 น.เป็นต้นไป 📍 ล่องเรือชมวิถีชีวิตชาวบ้านริมโขง(ไทย-ลาว) @แก่งคุดคู้ แก่งคุดคู้ ลักษณะเป็นแก่งหินที่อยู่กลางแม่น้ำโขง ซึ่งกิจกรรมที่ห้ามพลาดเมื่อมาที่นี้คือ ล่องเรือชมวิถีชีวิต ของชาวบ้านสองฝั่งแม่น้ำโขง (ไทย-ลาว) สำหรับค่านั่งชมเรือ คิดราคาเหมาตกลงราคากันก่อนเด้อ (ล่องเรือไม่นานมาก ไม่เกิน 1 ชั่วโมง) ออกเรือได้เลย ไม่ต้องรอคนอื่น แต่สำหรับคนที่ไปเที่ยวคนเดียว แนะนำให้สอบถามกับนักท่องเที่ยวแถวนั้นว่าสนใจล่องเรือไหม จะได้หารค่าใช้จ่ายกัน สำหรับเราคือไปเที่ยวคืนเดียว ดังนั้นเลือกตัวเลือกที่ 2 โดยเสียค่าใช้จ่ายไป 50 บาท หลังจากล่องเรือเสร็จแล้ว สามารถแวะทานอาหารพื้นเมือง อาหารอีสานรสแซ่บ แบบชิลล์ บรรยากาศริมโขงได้ต่อน้า ปล.เวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : เที่ยวได้ทั้งวัน 📍 แวะชิม เย็นตาโฟ ของหวาน ร้านจุ่มนัวยายพัด เปิดทุกวัน 8:00–15:00 (ปิดวันอาทิตย์) มาที่เชียงคาน สำหรับคนที่ชอบทานสุกี้ ขนมจีนน้ำยา แนะนำให้มาที่นี้ เพราะมีอาหารคาว หวาน ครบ มาที่เดียวกินอิ่มแบบจุกๆ ที่สุดราคาไม่แพง เมนูเด็ดห้ามพลาด “จุ่มนัว” ส่วนประกอบของเมนู หมูชิ้นหมักนุ่มๆ ถั่วงอกขาวๆ ลวก โรยด้วยกระเทียมเจียว ผักบุ้ง ผักชี สุดท้ายราดด้วยน้ำราดสุกี้สีชมพูๆ จัดว่าเด็ดสุดๆ ทานของคราวเสร็จแล้ว ต่อด้วยของหวาน เต้าส่วน หวานมันกระทิกำลังดี ชอบๆ 📍 ยายแห่วแหนมคลุก ใครชอบทานแหนมคลุก ถ้ามาเที่ยวที่เชียงคานแล้ว อย่าลืมมาอุดหนุนคุณยายกันน๊า แหนมคลุกอร่อยราคาไม่แพง คุณยายน่ารักมาก 📍 กินส้มตำ หมูกรอบๆ ไส้อั่ว แสนอร่อย @ ร้านหมูตกครก ใครที่เป็นขาชอบของแซ่บๆ ต้องมาลอง สำหรับที่ตั้งของร้าน จะอยู่ซอยเล็กๆ เยื้องๆ สำนักงานที่ดิน ร้านเล็กๆ บรรยากาศบ้านๆ ติดริมโขง นั่งทานข้าวแบบชิลล์ รับลมเย็นๆ ได้แบบเพลินๆ เลย เอาละ มาถึงร้านแล้ว จะไม่แนะนำเมนูเด็ดที่นี้เลยก็คงไม่ได้ เริ่มกันเลย เมนูเด็ดห้ามพลาด ขอแนะนำ "หมูตกครก" ลักษณะคล้ายๆ ตำถั่วใส่หมูกรอบเลย เผ็ดแซ่บอย่าบอกใคร ส่วนเมนูที่ 2 ที่ขอแนะนำคือ "ใส่อั่วพื้นบ้าน" ผสมผสานลงตัวกับสมุนไพร อร่อยดี สุดท้ายพี่เจ้าของร้านน่ารักมาก พูดคุยเทคแคร์ตลอด