"พอทราบอายุขวัญตาน้องเอยพี่มานั่งทำตากริบ ๆ น้องอายุสามสิบ สามสิบทำไมยังสวย"สมัยก่อนผู้หญิงที่อายุ 30 นี่ คือ แก่แล้ว ใครยังไม่แต่งงานโอกาสที่จะได้แต่งเหลือน้อยเต็มที แต่ปัจจุบันวัย 30 กลับเป็นช่วงที่ผู้หญิงดูดีที่สุด เพราะด้วยร่างกายที่ยังไม่เปลี่ยนไปมากบวกกับความพร้อมด้านหน้าที่การงานการเงิน เมื่อเงินพร้อมความสวยก็ไม่อยู่ไกล และผ่านการลองผิดลองถูกมาพอสมควร เลยไม่แปลกที่ผู้หญิงจะดูดีขึ้นและด้วยสภาพสังคมที่ผู้หญิงออกมาทำงานนอกบ้าน หาเงินเลี้ยงตัวเอง เลยไม่รู้สึกว่าต้องรีบแต่งงาน แต่พอแต่งงานและเริ่มวางแผนจะมีลูก ด้วยวัยที่มากขึ้นเลยเพิ่มความเสี่ยงที่จะเจอโรคต่าง ๆ เพราะธรรมชาติออกแบบมาแบบนั้น และเราก็เป็นหนึ่งในผู้ที่มีลูกในวัย 35+ ซึ่งต้องเจอปัญหาต่าง ๆ ที่มาจากการท้องตอนอายุเยอะ !!!1. มีบุตรยาก ซึ่งเกิดได้จากทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิงโดยมาจากหลายสาเหตุ แต่ส่วนหนึ่งเกิดจากอายุของฝ่ายหญิง เราปล่อยธรรมชาติเกือบปีกว่าจะตั้งท้องคนแรกตอนอายุ 36 ซึ่งผลการตรวจร่างกายทั้งคู่ก็ปกติดีแพทย์เลยลองให้กินยาที่ทำให้ไข่ตกตรงเวลา 1 เดือน แต่ก็ไม่ได้ผล อยู่ ๆ สองเดือนต่อมากลับท้องเองตามธรรมชาติ แต่มีเพื่อนของเราหลายคนที่ยังไม่มีลูก บางรายก็มีลูกแต่มาจากการทำเด็กหลอดแก้วซึ่งมีค่าใช้จ่ายหลักแสน แต่เราเจอเรื่องที่ไม่คาดคิด คือ ผลการตรวจเลือดของเราพบว่าเป็นพาหะธาลัสซีเมียเลยต้องตรวจสามีด้วย ปรากฏว่าเป็นพาหะธาลัสซีเมียทั้งคู่ ซึ่งอาจมีผลให้ลูกมีโอกาสเป็นธาลัสซีเมีย แต่โชคดีที่พอตรวจชนิดของพาหะแล้วเป็นชนิดที่เข้าคู่กันได้ ไม่อันตราย แต่ลูกก็จะเป็นพาหะธาลัสซีเมียด้วย ซึ่งคู่แต่งงานไม่ว่าจะวัยไหนควรมีการตรวจเลือดก่อนมีลูก เพราะการตรวจสุขภาพประจำปีทั่วไปไม่ได้ตรวจธาลัสซีเมีย ผู้เป็นพาหะธาลัสซีเมียก็ไม่ได้แสดงอาการอะไร สามารถบริจาคเลือดได้ แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่จับคู่กันแล้วไม่เข้าคู่ มีโอกาสที่ลูกจะเป็นธาลัสซีเมียถึง 25%2. ภาวะเบาหวานขณะตั้งครรภ์ อายุของแม่ตั้งแต่ 30+ เป็นปัจจัยเสี่ยงที่ทำเกิดภาวะนี้ ถ้าไม่รักษาเด็กจะตัวใหญ่กว่าปกติและจะคลอดยาก เด็กอาจคลอดก่อนกำหนด ตัวเหลืองและอาจทำให้เกิดภาวะเลือดต่ำทำให้เด็กมีอาการชักได้ และเป็นการเพิ่มความเสี่ยงที่จะทำให้ครรภ์เป็นพิษและแม่เป็นเบาหวานหลังคลอด เราและเพื่อน ๆ หลายคนเจอปัญหานี้แม้จะเป็นคนผอมและก่อนท้องไม่ได้เป็นเบาหวานก็ตาม แต่อยู่ในระดับที่ควบคุมอาหารเองได้ ในบางรายถึงขั้นต้องฉีดอินซูลินเข้าไป โดยพยาบาลจะสอนวิธีการฉีดและให้กลับไปฉีดเองที่บ้านเพราะต้องฉีดตลอด ซึ่งสาเหตุเกิดมาจากรกสร้างฮอร์โมนเพื่อการเจริญเติบโตของทารกและไปทำให้การทำงานของอินซูลินผิดปกติ ทำให้น้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือดสูง แพทย์จะตราจเบาหวานตอนอายุครรภ์ได้ 24-28 สัปดาห์ และถ้าพบว่าเป็นเบาหวานต้องควบคุมอาหาร โดนลดปริมาณแป้งและน้ำตาล เราต้องเช็คเลือดหลังอาหารทุกมื้อ งดของหวานทุกชนิดรวมถึงผลไม้หวาน ๆ ด้วย และต้องลดข้าวขาวลงเหลือมื้อละ 1 ทัพพี เปลี่ยนเป็นข้าวกล้องแทนได้ก็จะดี และหันไปเพิ่มพวกโปรตีนแทน พยายามกินของมีประโยชน์ ไม่ใช่กินเยอะ ซึ่งมีข้อดี คือ ลูกจะแข็งแรง ตัวไม่ใหญ่เกินซึ่งจะทำให้คลอดไม่ยาก แม่จะไม่อ้วนด้วย3. ภาวะแท้งคุกคาม อีกปัญหาที่เกิดในวัย 35+ เราเจอภาวะแท้งคุกคามตอนท้องที่ 2 ในวัย 38 ตอนอายุครรภ์ได้ 8 สัปดาห์ ซึ่งต้องสูญเสียลูกไป สาเหตุของภาวะนี้เกิดจากระบบคัดกรองตามธรรมชาติ มักเกิดในช่วงไตรมาสแรก ถ้าเด็กไม่แข็งแรง การฝังตัวไม่ดีก็จะหลุดไปเอง ซึ่งถ้าอาการไม่รุนแรงสามารถรักษาได้ด้วยการฉีดยากันแท้งและนอนเฉย ๆ ห้ามลุกไปไหน ระยะเวลาแล้วแต่เคสไป อาการเบื้องต้น คือ จะมีเลือดออกทางช่องคลอด ถ้าพบอาการดังกล่าวต้องรีบไปโรงพยาบาล ส่วนวิธีอื่น ๆ ที่ช่วยลดความเสี่ยง คือ ต้องดูแลตัวเองเป็นพิเศษในช่วง 3 เดือนแรก ไม่เครียด ไม่ขับรถนาน ๆ ห้ามยกของหนักและงดกิจกรรมที่ต้องเกร็งท้อง4. ครรภ์เป็นพิษ เป็นภาวะที่เกิดจากความผิดปกติของการฝังตัวของรก ซึ่งแพทย์ยังไม่ได้ระบุสาเหตุที่แน่ชัด ภาวะดังกล่าวทำให้มีความดันโลหิตสูง มีไข่ขาวหรือโปรตีนออกมาในปัสสาวะ วิธีป้องกันที่ทำได้ คือ หมั่นสังเกตตัวเองอยู่เสมอ หากพบอาการผิดปกติต้องรีบพบแพทย์เพื่อรักษาได้ทันท่วงที อาการที่บ่งชี้ คือ ปวดศีรษะ ตาพร่ามัว คลื่นไส้ อาเจียน ปวดใต้ลิ้นปี่และมักมีอาการบวมที่มือ ขา หน้าและเท้า ถ้าขั้นรุนแรงมากจะเกิดการชักและเลือดออกในสมอง ส่วนวิธีรักษา คือ การคลอดเด็กออกมาให้เร็วที่สุดเพื่อช่วยเหลือแม่ ทำให้เด็กคลอดก่อนกำหนดซึ่งจะมีปัญหาเรื่องการหายใจและปัญหาสุขภาพอื่น ๆ 5. คลอดลูกยาก วัยนี้มีความเสี่ยงที่ลูกจะเสียชีวิตในครรภ์หรือทารกไม่กลับหัวหรือคลอดลูกยากกว่าปกติเพราะกล้ามเนื้อบริเวณครรภ์จะทำงานลดลง ดังนั้นแพทย์จะแนะนำให้ผ่าคลอด แต่ถ้าจะลองคลอดเองดูก็ได้แต่ต้องควบคุมน้ำหนักช่วงตั้งครรภ์ไม่ให้ทารกตัวใหญ่เกินไป แพทย์ที่เราฝากท้องอนุญาตให้เราผ่าคลอดได้ซึ่งถ้าอายุไม่ถึง 35 แพทย์จะวินิจฉัยให้คลอดเอง แต่เราขอลองคลอดเองดูก่อนซึ่งก็ผ่านไปได้ด้วยดี แต่เพื่อนของเราหลายคนก็คลอดไม่ออก บางคนแพทย์ต้องใช้อุปกรณ์ในการดูดเด็กออกมา บางคนก็ต้องเปลี่ยนไปผ่าคลอดแทน6. ลูกมีความเสี่ยงเป็นดาวน์ซินโดรมแม่วัย 35+ แพทย์จะแนะนำให้ตรวจเช็คความผิดปกติของโครโมโซมเพื่อดูภาวะดาวน์ซินโดรมเมื่ออายุครรภ์ได้ 16-20 สัปดาห์ ซึ่งไม่ได้บังคับ ถ้าตรวจพบความผิดปกติ แพทย์จะแนะนำให้ยุติการตั้งครรภ์ แต่ถ้าใครคิดว่ายังไงก็ไม่ยอมเอาเด็กออกก็ไม่ควรตรวจไปเลย วิธีการตรวจ มี 2 วิธี วิธีแรก คือ การตรวจคัดกรองเพื่อประเมินความเสี่ยงของทารกในครรภ์ โดยการตรวจเลือด ซึ่งมีหลายวิธี ราคาก็ขึ้นอยู่กับความแม่นยำ มีตั้งแต่ 80-99% ซึ่งจะมีข้อดี คือ ไม่เจ็บ ตรวจที่คลีนิคได้ และไม่เสี่ยงแท้งลูก แต่มีข้อเสีย คือ ค่าใช้จ่ายสูง และถ้าหากได้ผลเป็นบวก (พบความผิดปกติ) แพทย์จะให้ตรวจยืนยันด้วยการตรวจน้ำคร่ำที่โรงพยาบาลอีกครั้งเพราะมีความแม่นยำกว่า เท่ากับต้องตรวจและเสียค่าใช้จ่ายสองรอบอีกวิธี คือ การเจาะน้ำคร่ำ ซึ่งเราเลือกการเจาะน้ำคร่ำไปเลย โดยแพทย์จะฉีดเข็มเล็ก ๆ ยาว ๆ เข้าไปในท้องเราผ่านผนังหน้าท้อง ผ่านมดลูกลงไปในถุงน้ำคร่ำแล้วดูดเอาน้ำคร่ำออกมา บางโรงพยาบาลจะฉีดยาชาก่อนแต่โรงพยาบาลที่เราตรวจแพทย์ไม่ได้ฉีดยาชาเพราะยังไงก็ต้องโดนเข็มจากยาชาอยู่แล้ว แพทย์เลยให้โดนเข็มที่ดูดน้ำคร่ำไปเลย วิธีนี้มีข้อดี คือ ผลตรวจมีความแม่นยำมากกว่า 99% และค่าใช้จ่ายถูก แต่มีข้อเสีย คือ เจ็บนิดหน่อยแต่ก็ไม่มาก เหมือนเวลาโดนเข็มแทงอยู่ 2-3 วินาที จริง ๆ กลัวมากกว่าเจ็บ และมีความเสี่ยงที่จะแท้ง 0.5-1%ใครที่วางแผนจะมีลูกแต่มัวทำงานหาเงินเพลิน รอให้มีความพร้อมทุกด้าน แต่อย่าลืมนะคะว่าร่างกายมันไม่รอเรา เงินเมื่อไหร่ก็หาได้ แต่ลูกเราต้องสร้างเองและสร้างได้แค่ช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น แต่ถ้าใครเข้าสู่วัยนี้แล้วก็อย่าเพิ่งวิตกกังวลไปค่ะ เพราะเทคโนโลยีสมัยนี้ดีขึ้น เราแค่ต้องเตรียมพร้อมและดูแลตัวเองมากขึ้นเท่านั้น ส่วนใครยังหาพ่อของลูกไม่ได้ อันนี้ตัวใครตัวมันนะคะ 😉😃 ขอบคุณภาพจาก Pixabay ภาพปก / รูปที่ 1 / รูปที่ 2 / รูปที่ 3 / รูปที่ 4 / รูปที่ 5