ภาพโดย pixabay การลดน้ำหนักนั้นอาจเป็นเรื่องยากสำหรับคนไทย ก็เพราะอาหารไทยทั้งคาวและหวานนั้นวางขายอยู่ทั่วทุกตรอกซอกซอย แล้วแต่ละเมนูนั้นล้วนแต่ยั่วตายั่วใจให้ลิ้มลองเสียเหลือเกิน หลายครั้งที่กินเพลินไปหน่อย เผลอแป๊บเดียวเข็มตาชั่งหมุนติ้วจนต้องกุมขมับ ตอนเอาอาหารเข้าไปในร่างกายมันง่าย แทบไม่ต้องใช้ความพยายามอะไร แต่ตอนไล่มันออกไปนี่สิเรื่องใหญ่ ราวกับอาหารทั้งหลายมันรักร่างกายเราเหลือเกิน อยากจะอยู่ด้วยกันไปนาน ๆ ขนาดลองวิ่งแบบพี่ตูนก็แล้ว แต่น้ำหนักก็ลดไปได้แค่ขีดสองขีด สำหรับท่านที่กำลังมองหาแนวทางลดน้ำหนักอยู่ก็ขอเสนอ 5 แนวทางลดน้ำหนักไว้ให้ทุกท่านได้ลองไปปฏิบัติกัน หากทำได้ครบถ้วน รับรองว่าท่านจะต้องควบคุมน้ำหนักตามความต้องการได้ แต่หากทำได้เพียงบางข้อ ก็นับว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการลดน้ำหนักแล้ว ภาพโดย pixabay 1. พกอาหารเล็ก ๆ น้อย ๆ ไว้รองท้อง วิธีการนี้อาจทำให้หลายท่านงงว่าจะทำให้น้ำหนักลดได้อย่างไร แต่ขอให้เชื่อเถิดว่าการพกอาหารเล็ก ๆ น้อย ๆ ไว้รองท้อง เช่น แซนด์วิชไข่โฮลวีต ขนมปังทูน่าสเปรด กล้วยหอมหรือกล้วน้ำว้าสักผลสองผล อาหารเหล่านี้จะช่วยชีวิตคุณได้ยามหิวจัด ทำให้อาการโมโหหิวน้อยลง พกไว้แบบนี้รับรองว่าดีกว่าปล่อยให้หิวจนตาลาย ไปถึงร้านอาหารแล้วสั่งแบบไม่ลืมหูลืมตาแน่นอน ภาพโดย pixabay 2.งดมื้อเย็น ช่วงเย็นและตอนกลางคืนนั้นเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายไม่ต้องใช้พลังงานมากนัก หากรับประทานอาหารมากเกินความจำเป็นที่ร่างกายต้องการ อาหารเหล่านั้นก็จะไปสะสมตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ดังนั้นหากเป็นไปได้จึงควรหลีกเลี่ยงไม่ รับประทานอาหารเย็น หรือรับประทานให้น้อยที่สุด หากหิวอาจหาอาหารเบา ๆ มารับประทาน เช่น สลัดผัก ผลไม้ ข้าวโพดต้มสักครึ่งฝัก โยเกิร์ตรสธรรมชาติ ไขมัน 0% เท่านี้ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ไม่หิวจนทรมานเกินไป ภาพโดย pixabay 3. เลี่ยงบุฟเฟต์ อาหารบุฟเฟต์เป็นที่นิยมอย่างยิ่งในหมู่วัยกำลังกินกำลังนอนไปจนถึงวัยทำงาน สาเหตุอาจเป็นเพราะร้านบุฟเฟต์มีอาหารให้เลือกรับประทานมากมาย และรับประทานได้อย่างไม่จำกัดจำนวนภายในระยะเวลา 2-3 ชั่วโมง แล้วแต่ระเบียบของร้าน ด้วยเงื่อนไขเหล่านี้จึงทำให้พฤติกรรมการกินของใครหลายคนเปลี่ยนไปเมื่อเข้าร้านบุฟเฟต์ เช่น จากที่เคยรับประทานอาหาร 1-2 จาน ก็จะรับประทานได้มากขึ้น 3-5 จาน ขึ้นไป อาจจะเลือกตักจานนี้นิดจานนั้นหน่อย สุดท้ายก็ต้องรับประทานมากอยู่ดี เพราะ “เดี๋ยวไม่คุ้ม” อาการเสียดายของที่เราคิดว่าเรามีสิทธิ์พึงที่จะได้ลักษณะนี้ จะทำให้ร่างกายต้องรับภาระมากเกินควร การรับประทานบุฟเฟต์ 1 มื้อ ไขมัน คอเลสเตอรอล โซเดียม และสารอาหารอื่น ๆ ที่พุ่งสูงขึ้นเกินความต้องการของร่างกายมีจำนวนมาก แล้วบุฟเฟต์นั้นก็มักจะจัดขึ้นหลังเที่ยงไปจนถึงเย็นค่ำ อันเป็นเวลาที่ร่างกายไม่ได้ต้องการพลังงานสักเท่าใดนัก ทางที่ดีจึงควรเลี่ยงบุฟเฟต์ให้ได้มากที่สุดก็จะเป็นการดีต่อร่างกาย ภาพโดย pixabay 4. เต้นวันละ 30 นาที การเปิดเพลงเบา ๆ เต้นลีลาศ เล่นโยคะ หรือเพลงจังหวะสนุก ๆ ขยับตัวเต้นไปตามจังหวะเพลงสักวันละ 30 นาที จะช่วยเผาผลาญส่วนเกินของร่างกาย หรือหากใครอยากมีเพื่อนเต้นมาก ๆ ก็อาจไปสมัครเข้าร่วมกลุ่มเต้นแอโรบิกของชุมชน หรือตามห้างสรรพสินค้า ก็จะมีผู้นำเต้นประกอบจังหวะ ทำให้เราได้ออกแรงเพิ่มขึ้น เผาผลาญส่วนเกินได้เพิ่มขึ้น ภาพโดย pixabay 5. ทำงานบ้านวันละ 30 นาที การออกกำลังนั้นไม่จำเป็นต้องเป็นการใส่ชุดออกกำลังกายเต็มยศ ออกไปวิ่ง ออกไปขี่จักรยาน หรือเข้ายิมเพียงอย่างเดียว การออกกำลังกายเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างการทำงานบ้านก็ช่วยเผาผลาญส่วนเกินของร่างกายได้เช่นกัน ผู้ที่มีเวลาน้อยอาจใช้การทำงานบ้านวันละ 30 นาที เป็นทางลดน้ำหนัก เช่น กวาดบ้าน ถูบ้าน ล้างรถ ล้างจาน ซักผ้า ตากผ้า จัดบ้าน วิธีการออกกำลังกายเช่นนี้นอกจากจะช่วยให้น้ำหนักลดลง มีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ขึ้นแล้ว ยังช่วยให้บ้านช่องสะอาดสะอ้านขึ้นอีกด้วย การลดน้ำหนักด้วยวิธีการดังกล่าว 5 ข้อ นั้นนอกจากจะไม่ต้องเสี่ยงรับผลข้างเคียงจากยาลดน้ำหนักแล้ว ยังช่วยจัดระเบียบวินัยเรื่องการกินของท่านให้เป็นเวลามากขึ้น แบ่งสัดส่วนเวลาให้ได้ออกกำลังกายอย่างเหมาะสมในแต่ละวัน จึงช่วยให้ลดน้ำหนักอย่างมีประสิทธิภาพและดีต่อสุขภาพในระยะยาวอีกด้วย