สำหรับเพื่อน ๆ ที่เล่นเกมมาเยอะก็คงจะพอรู้ว่าเกมประเภท Single-Player นั้น ส่วนใหญ่มักจะเป็นเกมที่มีระบบการเล่นที่ค่อนข้างดี เนื้อเรื่องต่อเนื่องน่าติดตาม และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวค่อนข้างสูง ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะถูกการันตีว่าเป็นเกมเกรด AAA และแน่นอนว่าเกมระดับนั้นก็ต้องมาจากค่ายใหญ่และมีทุนหนาพอที่จะพัฒนาระบบ Multiplayer Online ของเกมนั้น ๆ ได้ บางเกมแถมมาให้หลังจากซื้อตัวเกมหลัก แต่บางเกมก็อยู่ในรูปแบบของ DLC เช่นกัน แม้บางเกมจะมีระบบออนไลน์ที่ดีมากจนได้รับความนิยมไปทั่วโลก ยกตัวอย่างเช่น Call of Duty, Battlefield หรือ Monster Hunter ซึ่งเป็นเกมที่มีประวัติยาวนานพอสมควร แต่ก็มีเกมอีกไม่น้อยที่ทำระบบออนไลน์ออกมาแล้วไม่ได้รับความนิยมเหมือนกับเกมที่กล่าวไป จะเป็นเพราะอะไร ไปดูกันครับจำนวนคอนเทนท์น้อยกว่าเกมออนไลน์แท้เรื่องจำนวนคอนเทนท์มากหรือน้อยนั้นเป็นเรื่องพื้นฐานที่จะทำให้ผู้เล่นคนหนึ่งจะอยู่กับเกมนี้ได้นาน ถ้าเกมนั้น ๆ ไม่มีระบบเกมเพลย์ที่ดีพอจะให้ผู้เล่นกดเล่นซ้ำได้ ก็ต้องมีคอนเทนท์เยอะ ๆ เพื่อให้ผู้เล่นได้เล่นผ่านไปเรื่อย ๆ แต่ทั้ง 2 สิ่งนี้มักจะไม่ใช่สิ่งที่เกม Single-Player ส่วนใหญ่เค้าโฟกัสกัน เพราะเกม Single-Player จะมีจุดเด่นที่การดำเนินเนื้อเรื่อง เกมเพลย์แบบออฟไลน์ คุณค่าของตัวละครในเกม และอื่น ๆ แม้ตัวเกมจะยอดเยี่ยมแค่ไหน แต่พอกลับมาเป็นระบบออนไลน์ที่ต้องเจอผู้เล่นด้วยกันมันจะกลายเป็นอีกเรื่องหนึ่งทันที เพราะพื้นฐานของโหมดออนไลน์นี้เป็นเพียงคอนเทนท์รองของตัวเกมหลักเท่านั้น จึงทำให้หลาย ๆ อย่างด้านในนั้นนำไปเทียบกับเกมออนไลน์แท้ได้ยาก คนที่อยากเล่นเกมออนไลน์จึงเลือกเล่นเกมออนไลน์แท้ มากกว่าซื้อเกม Single-Player ที่มีโหมดออนไลน์มาเล่นครับส่วนใหญ่ราคาค่อนข้างสูงจากที่ได้กล่าวไปในข้างต้น เกม Single-Player ส่วนใหญ่มักจะถูกจัดอยู่ในเกมเกรด AAA ที่มีเนื้อเรื่องค่อนข้างดี เกมเพลย์ออฟไลน์ค่อนข้างสมบูรณ์แบบ รวมไปถึงตัวละครที่ถูกออกแบบมาอย่างดี บางเกมเป็นภาคต่อที่มีประวัติยาวนาน จึงไม่แปลกที่เกมระดับนี้จะมีราคาค่อนข้างสูง ถ้าเกมออนไลน์อินดี้ราคาอยู่ที่ 100-500 บาท เกม Single-Player เกรด AAA ก็จะราคา 1,000 บาทขึ้นไปจนเกือบ 2,000 เลยทีเดียว การที่ผู้เล่นจะยอมจ่ายเงินขนาดนั้นเพื่อเล่นโหมดออนไลน์จึงมีน้อยมาก แน่นอนว่าส่วนใหญ่ก็จะซื้อมาเล่น Story Mode ปกติของใครของมัน พอเราเล่นเกมจบหรืออิ่มตัวกับเนื้อเรื่องแล้ว ความต้องการในการอยากเล่นโหมดออนไลน์ก็มีน้อยลงไปอย่างช่วยไม่ได้ ยิ่งถ้าเกมหลักใช้เวลาเล่นหลายสิบชั่วโมงถึงจะจบได้ ความเบื่อจะเข้ามาเป็นปัจจัยในการเลือกเล่นก็คงจะไม่แปลกผู้เล่นเปรียบเทียบกับ Story Mode แบบปกติอย่างที่ได้กล่าวไปว่าเกมประเภท Single-Player นั้นเป็นเกมออฟไลน์ที่ใช้เล่นคนเดียวแล้วเจ๋ง นั่นหมายความว่าระบบภายในเกมถูกเอื้อประโยชน์ให้กับผู้เล่นมากกว่าบอทและ AI ภายในเกม บางฉากจำลองเหตุการณ์มาให้เรารู้สึกอินกับเนื้อเรื่อง เกมเพลย์หลาย ๆ อย่างใช้สู้กับ AI แล้วเจ๋งมาก เชื่อว่าหลายคนที่เล่น Story Mode จบแล้วก็จะมีมาตรฐานอยู่ในใจระดับหนึ่ง แต่พอเข้าโหมดออนไลน์ของเกมเดียวกันกลับไม่เป็นอย่างที่คิดไว้ เนื้อเรื่องอาจไม่มี ระบบและเกมเพลย์อาจถูกปรับให้แฟร์ต่อผู้เล่นด้วยกันมากยิ่งขึ้น เพราะเราไม่ได้สู้กับแค่ AI แล้ว ยิ่งใครที่เล่นจบเกมมาก่อน ตัวละครช่วงท้ายเกมอาจจะเก่งขั้นสุด แต่พอเข้าระบบออนไลน์ใหม่ ๆ ความสามารถของตัวละครก็ต้องเริ่มใหม่ตั้งแต่ต้น นั่นก็อาจทำให้ผู้เล่นที่กำลังสนุกอยู่รู้สึกเซ็งนิด ๆ เหมือนกับฉันเก็บเวลมาจน 99 แล้วทำไมฉันต้องมาเก็บเวล 1 ใหม่ด้วยนะเซิร์ฟเวอร์ของเกมไม่ค่อยเสถียรเห็นอยู่หลายเกมที่เป็นแฟรนไชส์ซีรี่ย์ดังจากค่ายใหญ่ ๆ พอมีภาคต่อออกมาหลาย ๆ ภาคก็มักจะเสริมด้วยระบบ Multiplayer Online เข้าไปในเกมของตัวเองด้วย แต่ถึงแม้ว่าเกมนั้นจะประสบความสำเร็จในด้านเกม Single-Player มากแค่ไหน แต่ก็ใช่ว่าพวกเขาจะรับมือกับระบบออนไลน์ได้ดีเท่ากับเกมออนไลน์แท้ โดยเฉพาะในเรื่องของเซิร์ฟเวอร์เกมนั้น ๆ ด้วยพื้นฐานที่ว่าเกม Single-Player มีระบบออนไลน์เป็นคอนเทนท์รองของตัวเกม ขนาดและคุณภาพของเซิร์ฟเวอร์ที่เปิดให้ผู้เล่นได้เล่นอาจจะไม่ดีเท่าที่ควร บางเกมเต็มง่ายมาก บางเกมเด้งหลุดตลอด บางเกมจับคู่คนเลเวลน้อยไปเจอคนเลเวลสูง บางเกมก็ปิงเยอะจนเล่นไม่ได้เลยก็มี แม้ปัญหาต่าง ๆ เหล่านี้จะเป็นสิ่งที่พบเจอได้บ่อย ๆ ในเกมออนไลน์ทั่วไป แต่หากคิดถึงปัจจัยทั้ง 3 ข้อที่กล่าวไปก่อนหน้านี้รวมอยู่ด้วยแล้ว ก็อาจจะทำให้ผู้เล่นไม่อยากเข้าไปเล่นเท่าไหร่นักจำนวนผู้เล่นออนไลน์มีน้อยจนเกินไปแน่นอนครับ ถ้าขึ้นชื่อว่าเกมออนไลน์ก็ต้องมีผู้เล่นจำนวนมากจากทั่วทุกสารทิศเพื่อทำให้เกมมันดูคึกครื้นอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าเกมนั้นจะเป็นเกม MMORPG เก็บเลเวล หรือเกมสร้างห้องแล้วเล่นจบเป็นตา ๆ ก็ตาม การมีผู้เล่นเยอะทำให้เรามีคนเล่นด้วย ไม่ว่าจะในแง่ทีมเดียวกันหรือคู่แข่งก็ตาม แต่จากเหตุผลที่ได้กล่าวไปทั้ง 4 ข้อ ก็ทำให้จำนวนของผู้เล่นโหมดออนไลน์ของเกม Single-Player นั้นลดน้อยลงไปมาก บางเกมนั้นเรียกได้ว่าแทบจะร้างกันเลยทีเดียว พอไม่มีคนเล่นก็ทำให้ผู้เล่นใหม่ไม่อยากเข้าไปเล่นตามไปด้วย เพราะเกมออนไลน์ที่เล่นคนเดียวหรือไม่เห็นผู้เล่นคนอื่นเลยนั้นเป็นอะไรที่ขาดสีสันเกินกว่าจะเล่นได้ เพราะผู้เล่นรู้ดีว่าเมื่อคนน้อยเกินไป ไม่นานเซิร์ฟเวอร์ก็ต้องปิดตัวลงเพราะผลตอบรับไม่ดีเท่าที่ควรนั่นเองครับและนี่คือ 5 เหตุผลที่โหมดออนไลน์ของเกมไม่ค่อยปัง ตรงกับสิ่งที่เพื่อน ๆ เคยเจอไหมครับ สิ่งที่ผมจะสื่อนั้นไม่ได้หมายความว่าเกม Single-Player นั้นไม่ดีนะครับ แน่นอนว่าหากพูดถึงเรื่องเกมเพลย์ใน Story Mode ต่อให้ไม่ใช่เกมระดับ AAA ก็สามารถทำออกมาได้ดีมากจริง ๆ แต่เมื่อเข้าสู่โหมดออนไลน์แล้ว เกม Single-Player จำนวนไม่น้อยที่มองว่านี่เป็นเพียงคอนเทนท์รอง จึงพัฒนามันออกมาได้ไม่สุดเครดิตภาพจาก: Steam