ไลฟ์แฮ็ก

5 เทคนิคจัดการอาการโฮมซิกเมื่อเข้าโรงเรียนประจำ

431
คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
5 เทคนิคจัดการอาการโฮมซิกเมื่อเข้าโรงเรียนประจำ

โรงเรียนประจำ คืออะไร?

โรงเรียนประจำ (boarding school) เป็นประเภทหนึ่งของโรงเรียนซึ่งจะแตกต่างจากโรงเรียนทั่วไปคือ โรงเรียนประจำจะให้นักเรียน นักศึกษากินนอนอยู่ที่โรงเรียน หรือหอพัก โรงเรียนประจำในประเทศไทยมีอยู่หลายโรงเรียนเช่น มหิดลวิทยานุสรณ์ จุฬาภรณราขวิทยาลัย อัสสัมชัญศรีราชา โรงเรียนประจำเป็นโรงเรียนอีกประเภทหนึ่งที่ผู้ปกครองส่วนใหญ่สนใจที่จะพาลูกพาหลานของตัวเองไปเรียน แต่ละโรงเรียนจะมีเกณฑ์การคัดเลือกนักเรียนที่จะเข้าเรียนแตกต่างกัน และเมื่อเข้ามาเรียนแล้ว นักเรียนใหม่ส่วนใหญ่อาจต้องพบเจอกับอาการคิดถึงบ้าน หรือ โฮมซิค นั่นเอง เป็นปกติครับที่นักเรียนที่เข้ามาเรียนใหม่จะเกิดอาการคิดถึงบ้านกันบ้าง เพราะบางคนตั้งแต่ประถมมา ยังไม่เคยห่างไกลจากพ่อแม่ (ผมก็เป็นหนึ่งในนั้นTT) พอได้มาเจอโรงเรียนที่ต้องกินต้องนอนอยู่ที่โรงเรียน ก็ทำเอาซึมอยู่หลายวันครับ งั้นในบทความนี้ผมขอนำเสนอ 5 เทคนิคจัดการกับอาการโฮมซิคเมื่ออยู่ในโรงเรียนประจำ ผมลองใช้เทคนิคทั้งหมดนี้แล้ว ผลออกมาค่อนข้างดีเลยทีเดียว แต่ต้องย้ำนะครับว่า ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลว่าจะนำไปใช้ได้ถูกวิธีหรือเปล่านะครับ

Advertisement

Advertisement


อย่าคิดมาก

อย่าคิดมากเกินไป

แน่นอนครับว่านักเรียนใหม่ทุกคนต้องคิดถึงบ้านเป็นปกติธรรมดาอยู่แล้ว แต่สิ่งที่จะตามมาคือ อาการคิดมาก อาการนี้เกิดขึ้นมาจากการคิดอะไรซ้ำๆ วนไปวนมา กรณีของนักเรียนประจำก็อาจจะคิดว่า เราจะได้กลับบ้านวันไหน ถ้าเราอยู่บ้านตอนนี้เราทำอะไรอยู่ ทำไมเราต้องมาอยู่ที่นี่ด้วย อะไรประมาณนี้ ซึ่งการคิดแบบนี้จะเป็นการกดความคิดในสมองไม่ให้คิดสิ่งอื่นนอกจากสิ่งที่ใจเรากำลังเป็นทุกข์อยู่ ณ ขณะนั้น อาจจะส่งผลถึงการเรียน และการเข้าสังคม ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆในการใช้ชีวิตอยู่ที่โรงเรียนประจำ ดังนั้นอย่าคิดมาก เพราะอาจจะส่งผลต่อสุขภาพจิตใจของคุณได้ครับ


หาเพื่อนสนิทสักคน

หาเพื่อนสนิทสักคน

การทึ่จะอยู่ในโรงเรียนประจำได้อย่างมีความสุขได้นั้น จะต้องมีที่ยึดเหนี่ยวจิตใจที่ไม่ใช่พระเครื่อง กุมารทอง นางกวักอะไรพวกนั้น แต่เป็นเพื่อนนี่แหละ ของขลังชั้นดีในการทำให้เรามีความสุข การมีเพื่อนที่คอยช่วยเหลือ พอให้เราระบายความรู้สึกได้บ้าง คอยให้ความสนุก ความบันเทิง จะช่วยดึงความคิดของเราออกมาจากหลุมความคิดเดิมๆที่กล่าวไปในข้อที่หนึ่ง แต่เพื่อนที่จะเพอร์เฟคขนาดนั้นก็หายากอยู่เหมือนกันนะครับ เอาเป็นว่า แค่เป็นคนดี แค่นี้ก็เหมาะที่จะเป็นเพื่อนของคุณได้แล้วหละครับ แต่อย่าพากันไปในทางที่ไม่ดี เดี๋ยวจะซวยเอานะครับ

Advertisement

Advertisement


หาอะไรทำในเวลาว่าง

หาอะไรทำตอนว่างๆ

หลายคนอาจจะคิดว่าเวลาว่างก็ปล่อยให้มันว่างมันก็ดีอยู่แล้วไม่ใช่หรอ ที่บ้านน่ะใช่ครับ แต่ถ้าเป็นที่โรงเรียนประจำ เวลาว่างอาจจะเป็นยาพิษทำร้ายเราก็เป็นได้ เพราะในเวลาว่างๆที่เราไม่มีอะไรจะทำ สมองของเราก็จะเริ่มคิดฟุ้งซ่านถึงบ้านบ้าง ถึงคนในครอบครัวบ้าง อย่าปล่อยให้เป็นแบบนี้นานเกินไป เพราะจะทำให้เราไม่มีกระจิตกระใจทำอะไรเลย แทนที่จะมีนั่งคิดแบบนี้ ให้คุณลองหาอะไรทำดูบ้างเช่น เล่นเกม ดูหนัง ทำความรู้จักกับเพื่อน เล่นกีฬา การทำอย่างนี้จะทำให้สมองของเราจดจ่อกับสิ่งที่ทำ และจะไม่คิดฟุ้งซ่าน ถ้ายังไม่หาย ลองทำแบบนี้ซ้ำาๆ ความคิดฟุ้งซ่านก็จะหายไปโดยปริยาย


คิดถึงก็โทร

คิดถึง ก็แค่โทรหา

วิธีการแก้อาการโฮมซิคที่ดีที่สุดคือ การคุยกับคนที่บ้าน สมัยนี้การติดต่อสื่อสารดีกว่าเมื่อก่อนมากๆ การคุยกับคนที่บ้านก็เป็นเรื่องที่ง่าย ไม่ว่าจะเป็นการโทร Video call หรือคุยผ่าน Chat Facebook Line ฯลฯ การคุยกับคนที่บ้านจะช่วยให้เราผ่อนคลายยิ่งขึ้น แถมยังมีโอกาสระบายความรู้สึกต่างๆให้กับคนที่บ้านได้ฟัง แต่มีกฏข้อนึงคือ อย่าโทรบ่อยเกินไป นอกจากจะเปลืองแบตแล้ว ยังทำให้กิจวัตรประจำวันของคนในครอบครัวเราต้องหยุดชะงัก ดังนั้น โทรเป็นเวลาน่าจะเป็นอะไรที่ดีกว่านะครับ

Advertisement

Advertisement


ตั้งใจเรียน

ตั้งใจเรียน

การที่ผู้ปกครองส่งลูกหลานตัวเองมาเรียน ก็อยากให้ลูกๆของตนเองตั้งใจเรียนกันทั้งนั้นแหละครับ ในฐานะที่เราเป็นเด็กโรงเรียนประจำ ข้อแตกต่างของเรากับเด็กที่อยู่โรงเรียนปกติคือ คนที่คอยมาเตือนให้อ่านหนังสือ แต่สิ่งที่เราได้เปรียบคือการใช้ชีวิตอย่างมีอิสระ และจงใช้ข้อดีข้อนี้ให้คุ้มในการพัฒนาตัวเอง แถมยังเป็นการตั้งเป้าหมายให้ตัวเราเอง ให้มีแรงผลักดันให้ก้าวข้ามผ่านความทุกข์ต่างๆที่อยู่ในใจเราอีกด้วย เรียกได้ว่า ตั้งใจเรียนดี มีชัยไปกว่าครึ่งเลยทีเดียว


ก็นั้นแหละครับ เทคนิคที่ผมนำมาให้ ผมขอเป็นกำลังใจให้กับคนที่กำลังจะเข้าโรงเรียนประจำในช่วงเปิดเทอมนี้ คุณจะก้าวผ่านอาการคิดถึงบ้านไปได้ แค่คุณต้องใช้เวลา อย่ารีบจนเกินไป และอย่าถึงกับตัดความสัมพันธ์กับที่บ้านนะครับ อันนี้ก็เกินไป อีกหนึ่งอย่างที่อยากจะฝากเอาไว้ก็คือ อย่าคิดถึงมากจนเกินไป เพราะความคิดถึงของคุณที่มีกับครอบครัวนั้น อาจจะทำให้ตัวคุณดิ่งลงเหวก็ได้นะครับ

สวัสดี

ภาพ 1: freepik
ภาพ 2:freepik
ภาพ 3: freepik
ภาพ 4: freepik
ภาพ 5: freepik

ภาพหน้าปก: freepik

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
เด็กปืนยืนไม่อยู่
เด็กปืนยืนไม่อยู่
อ่านบทความอื่นจาก เด็กปืนยืนไม่อยู่

ให้สิ่งที่คุณชอบ กำหนดในสิ่งที่คุณเป็น

ดูโปรไฟล์

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์