อื่นๆ

5 สิ่งที่ทำให้เกมอินดี้แตกต่างกว่าเกมจากค่ายใหญ่

923
คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
5 สิ่งที่ทำให้เกมอินดี้แตกต่างกว่าเกมจากค่ายใหญ่

เกมอินดี้หรือชื่อเต็มอย่างเป็นทางการว่า Independent Game ซึ่งถ้าแปลความหมายแบบตรงตัว ก็คือเกมจากผู้พัฒนาอิสระ ที่ไม่ได้ขึ้นตรงกับค่ายพัฒนายักษ์ใหญ่เจ้าไหนในตลาด โดยในยุคปัจจุบันนี้ เกมเมอร์อย่างเรา ๆ ก็คงมีโอกาสเห็นเกมอินดี้ ได้ออกมาโลดแล่นในวงการเกมอยู่ไม่ขาดสาย เพราะในปัจจุบันการทำเกมมันก็ไม่ได้ยากเหมือนในอดีต และด้วยสาเหตุนี้เอง ก็ทำให้มีจำนวนผู้พัฒนาเกมหน้าใหม่ไฟแรงเพิ่มมากขึ้นพร้อมกับจำนวนเกมอินดี้คุณภาพ ที่ถูกพัฒนาออกมาให้เราได้เล่นกันอย่างมากมาย และแถมบางเกมก็เรียกได้ว่า สามารถเทียบชั้นกับเกมระดับ AAA จากทีมพัฒนาชื่อดังได้อย่างสบาย ๆ ซึ่งถ้ามีคุณผู้อ่านท่าไหนที่เกิดความสงสัย ว่าเกมอินดี้เนี่ยนะ ? จะเทียบชั้นได้กับเกมชื่อดัง ผมก็ขออนุญาตนำเสนอ 5 สิ่งที่ทำให้เกมอินดี้ แตกต่างกว่าเกมจากค่ายใหญ่ ถ้าพร้อมกันแล้วมาเริ่มกันเลย

Advertisement

Advertisement

uniqueกล้าที่จะแตกต่าง

มาเริ่มกันที่ปัจจัยข้อแรกและน่าจะเป็นข้อสำคัญที่สุด ที่ทำให้เกมอินดี้มีความแตกต่างจากเกมค่ายยักษ์ใหญ่อย่างชัดเจน ซึ่งนั่นก็ความกล้าที่จะแตกต่างของทางทีมพัฒนานั่นเอง ซึ่งความต่างที่ว่ามานั้นก็จะมีตั้งแต่ การออกแบบเกมเพลย์ที่มีความสดใหม่และแหวกแนว ตัวอย่างเช่นเกม Braid ที่นำเสนอลูกเล่นของเวลา เข้ามาปรับใช้ในเกมการเล่นได้อย่างดีเยี่ยม, Celeste เกมสาย Platforming ที่นำเสนอระบบการเล่นที่เรียบง่ายแต่ท้าทาย หรือจะเป็นเกมคอนเซ็ปต์สุดแปลกอย่าง Paper Please เกมที่ให้เราได้สวมบทบาทเป็นเจ้าหน้าที่ตรวจเข้าเมือง ที่ถึงแม้จะฟังดูน่าเบื่อ แต่ตัวเกมก็สามารถนำเสนอแง่มุมต่าง ๆ ออกมาได้อย่างน่าสนใจ ซึ่งนี่ก็เป็นตัวอย่างที่ดี ที่ทำให้เราเริ่มที่จะเห็นความแตกต่าง ระหว่างเกมอินดี้และเกมฟอร์มยักษ์เลยล่ะครับ

Advertisement

Advertisement

gameplayเกมเพลย์ที่ได้รับการใส่ใจและคำนึงถึงความสนุกเป็นหลัก

ในยุคปัจจุบันผมเชื่อว่าต้องมีเกมเมอร์อยู่ไม่น้อยเลย ที่ให้ความสำคัญกับภาพกราฟิกของเกมที่มันต้องออกมาดี ไม่แพ้กับเกมการเล่นที่สนุก ซึ่งด้วยปัจจัยดังกล่าวนี้เอง มันก็ทำให้ทีมผู้พัฒนาเจ้าใหญ่ ๆ ในตลาดเริ่มเล็งเห็นถึงความต้องการของผู้เล่น และเริ่มใส่ใจกับงานภาพของเกมตัวเองให้มากขึ้น ซึ่งผลที่ตามมาสำหรับบางเกม ก็อาจจะมีตั้งแต่ความสนุกที่ลดลง เพื่อแลกกับภาพกราฟิกที่สวยขึ้น หรือเป็นเกมที่มีดีแค่งานภาพ (ตัวอย่างเช่น The Order : 1886) แต่ในกรณีของเกมอินดี้นั้น ก็เรียกได้ว่าค่อนข้างจะแตกต่างกับเกมระดับ AAA อยู่ทีเดียว เพราะคงไม่มีเกมเมอร์คนไหนที่หวังภาพกราฟิกขนาด Crisis จากค่ายเกมอินดี้ใช่ไหมล่ะครับ (หรืออาจจะมีก็ไม่เป็นไรนะครับ) และด้วยเหตุผลนี้เองมันก็ทำให้เหล่าค่ายเกมขนาดเล็ก ต่างพากันโฟกัสจุดจุดเดียวก็คือทำอย่างไรก็ได้ ให้เกมของตนเล่นสนุกและออกมาดี ซึ่งนี่ก็เป็นอีกหนึ่งข้อแตกต่าง ที่เรามักจะพบเจอในเกมอินดี้ดีๆ หลายๆ เกมเลยล่ะครับ (แต่ก็มีเกมอินดี้หลายเกมที่ภาพสวยนะครับ)

Advertisement

Advertisement

playsafeการไม่ Play Safe และนำเสนอเกมการเล่นที่สุดโต่ง

ถ้าพูดเกมสไตล์ Rogue like ที่มีรูปแบบการเล่นที่ทำให้ผู้เล่นนั้นมีอยู่ชีวิตเดียว ผมเชื่อเลยว่าคงไม่มีเกมยักษ์ใหญ่เจ้าไหน ที่จะกล้าเอาแนวคิดนี้เข้ามาผสมในเกมการเล่น แต่ไม่ใช่สำหรับเกมอินดี้ ที่หลาย ๆ เกมนำระบบ Permadeath มาใช้กับตัวละครที่เราเล่นจริง ๆ ตั้งแต่เกม Dead Cells ที่มีระบบ Permadeath ที่ถ้าเราเกิดพลาดตายขึ้นมา ก็ต้องกลับมาเริ่มเล่นตั้งแต่ต้นใหม่ หรือจะเป็นเกมอย่าง Darkest Dungeon ที่หากเราจัดทีมมาไม่ดี ก็อาจจะตายกันยกตี้และต้องมานั่งปั้นทีมใหม่เลยก็ว่าได้ หรือจะเป็นระบบการเล่นที่ต้องใช้เวลาในการศึกษาอย่างลึกซึ้งจากเกม Oxygen Not Included แต่ถึงอย่างนั้นระบบที่กล่าวมาข้างต้น มันก็ทำให้เกมอินดี้สามารถฉีกตัวเอง ออกมาจากขนบเดิม ๆ ในโลกของวิดีโอเกมได้ในแบบของมัน

storyเนื้อหาหรือเนื้อเรื่องที่น่าจดจำ

ใครว่าเกมฟอร์มเล็กเนื้อเรื่องจะไม่กินใจ ผมก็ขอค้านอย่างสุดเสียง เพราะมันก็มีอยู่หลายเกม ที่สามารถทำให้เราประทับใจ ไปจนถึงขั้นเสียน้ำตาเลยก็มีเช่นกัน เนื่องด้วยผู้พัฒนาเกมนั้น มีอิสระที่จะสามารถนำเสนอเนื้อเรื่องของเกม ออกมาในรูปแบบไหนก็ได้ ซึ่งมันก็มีตัวอย่างให้เราเห็นอยู่หลายเกมแล้วในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นการนำเสนอเนื้อเรื่องที่ต้องอาศัยการตีความอย่าง Inside, การนำเสนอเนื้อเรื่องที่มีความหม่น แต่เสนอแง่มุมที่น่าสนใจของมนุษย์อย่าง Little Misfortune หรือจะเป็นเกมรุ่นพี่ที่มีเนื้อเรื่องสุดกินใจอย่าง Undertale ก็มีให้เกมเมอร์อย่างเราได้เห็น ว่าจริง ๆ แล้วนั้นเกมอินดี้ ก็สามารถทำให้เรานั้นรู้สึกตราตรึงกับเนื้อหาของมันได้ ไม่แพ้เกมเจ้าใหญ่ ๆ ในตลาดเลยทีเดียว

priceราคาที่ย่อมเยา

แน่นอนว่าขึ้นชื่อว่าเกมฟอร์มเล็ก สิ่งที่ตามมาอย่างขาดไม่ได้ก็คือราคาเกมที่ย่อมเยาและเป็นมิตรกับเกมเมอร์ ซึ่งก็นับว่าเป็นกำไรต่อผู้บริโภคอย่างเรามาก ๆ ที่จะได้เกมดีมีคุณภาพในราคาที่สบายกระเป๋า แถมเกมบางเกมที่หากคุณได้ซื้อมาแล้วเล่นจนติดใจ ก็อาจจะช่วยให้คุณประหยัดเงินจากการซื้อเกมได้อีกหลายเดือน เนื่องจากเกมอินดี้ที่ชวนให้เราเล่นจนติดงอมแงม มันก็มีอยู่หลายเกมด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น Don’t Starve, Oxygen Not Included, Into the Breach และเกมอื่นๆ อีกมากมาย ที่ล้วนแล้วมีความน่ากลับไปเล่นซ้ำๆ อีกหลายรอบ บอกเลยว่าถ้าคุณกำลังเบื่อหน่ายจากความจำเจเดิม ๆ ที่คุณอาจพบเจอในเกมระดับ AAA แล้วก็ ลองหยิบเกมอินดี้ดี ๆ ขึ้นมาเล่นสักเกมดูสิครับ เพราะคุณอาจจะตกหลุมรักกับเกมอินดี้เลยก็ได้นะเออ


เป็นอย่างไรกันบ้างครับ พออ่านมาถึงตรงนี้ มีคุณผู้อ่านคนไหนบ้างรึเปล่า ที่เริ่มอยากจะลองสัมผัสกับเกมอินดี้ดูสักครั้ง ผมหวังว่าบทความนี้จะทำให้เกมเมอร์สายหลัก หรือผู้ที่ชื่นชอบเกมค่ายใหญ่ เริ่มที่จะเปิดใจให้กับเกมฟอร์มเล็ก ๆ เหล่านี้ดูบ้างสักครั้ง เพราะเกมเหล่านี้ ถึงแม้จะขึ้นชื่อว่าเกมฟอร์มเล็ก แต่หากคุณได้ลองศึกษาและลองเล่นดู ผมเชื่อว่ามันจะต้องสามารถมอบประสบการณ์ในการเล่นที่น่าประทับใจให้คุณได้อย่างแน่นอน

เครดิตภาพจาก: Steam

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์