5 สัญญาณ ความรักที่กำลังทำลายชีวิตคุณ พร้อมวิธีแก้

ปฏิเสธไม่ได้เลยครับ ว่าหนึ่งในสิ่งที่ส่งผลต่อชีวิตเรามาก ๆ อย่างนึงเลยคือ “ความรัก”

ความรักคือรากฐานสำคัญที่คอยเป็นเชื้อเพลิงให้เราเวลาที่เราต้องการให้ชีวิตเดินต่อไปได้ อย่างผมเองเวลาเหนื่อย ๆ ท้อ ๆ การได้คุยกับแฟน เล่นกับหมา กินข้าวกับแม่ มันคือช่วงเวลาที่เติมพลังได้เป็นอย่างดีเลยครับ

แต่เหรียญย่อมมี 2 ด้านเสมอครับ ถ้าความรักมันมีด้านที่คอยเติมไฟ เติมพลังให้เราในวันที่เราไปต่อไม่ได้ อีกมุมหนึ่ง สิ่งที่เรียกว่าความรัก ก็อาจกลายเป็นสิ่งที่คอยกัดกินหัวใจหรือทำลายชีวิตเราได้เช่นกัน

ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา มีหลายคนที่เข้ามาโค้ชชิ่งกับผมในเรื่องของปัญหาความสัมพันธ์ ทำให้ผมมีโอกาสเฝ้ามองความสัมพันธ์ของหลาย ๆ คู่ และขณะเดียวกัน ก็มีช่วงเวลาที่ความสัมพันธ์ของผม มันค่อย ๆ ดิ่งลงจนถึงจุดต่ำสุดเช่นกัน

ซึ่งความสัมพันธ์แบบนี้มีชื่อเรียกว่า Abusive Relationship เป็นลักษณะความสัมพันธ์ที่มีแต่ความรุนแรง แทบไม่มีความสุขในชีวิต ยิ่งถ้ามันลุกลามมากขึ้น อาจถึงจุดที่มีการทุบตีหรืออาจถึงแก่ชีวิตเลยก็มี พูดตามจริง สิ่งนี้ไม่เรียกว่าความรักด้วยซ้ำ ซึ่ง Abusive Relationship มันสามารถเกิดได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิงเลยนะครับ ไม่ใช่แค่ผู้หญิงที่ต้องเจอ

สุดท้ายแล้วการมีความสัมพันธ์ การให้ความสบายใจแก่กันเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดครับ ถ้าพื้นที่ของคนรักยังทำให้คุณอึดอัด บางทีมันอาจจะไม่ค่อยเวิร์คก็ได้ครับ

2. การหึงหวงแบบรุนแรง

ซึ่งการหึงหวงแบบรุนแรงผมรวมถึงการกล่าวหาด้วยนะครับ ไม่ว่าเป็นการหาว่าคุณตั้งใจไปอ่อยคนอื่น ทั้ง ๆ ที่คุณอาจจะแค่ไปทำงานตามปกติ

จริง ๆ แล้วการหึงหวงมันเป็นเรื่องปกติของความสัมพันธ์ที่อาจมีบ้าง แต่บางครั้งการแสดงความหึงหวงจนมากเกินไป มันก็อาจจะหมายถึงการไม่ให้เกียรติ ไม่ไว้ใจกันก็ได้ ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วที่ทั้งชีวิตคนเรา จะไม่มีเพื่อนเป็นเพศตรงข้าม

3. การพูดจาดูถูกเหยียดหยาม หรือพูดเพื่อกดคุณให้ต่ำลง

ซึ่งตรงนี้ไม่ใช่แค่เวลาทะเลาะกันนะครับ ซึ่งจริง ๆ ต่อให้ทะเลาะก็ไม่ควรจะพูดจาดูถูกเหยียดหยามกันอยู่ดีครับ แต่ตรงนี้ผมรวมถึงตอนที่ไม่ได้ทะเลาะกันด้วย บางที่เขาอาจจะพูดดูถูกคุณแล้วก็บอกว่าไม่ได้ตั้งใจ แบบนี้ก็ยิ่งไม่โอเคครับ เพราะขนาดเขามีสติสัมปชัญญะครบถ้วน เขายังพูดเลย

ผมเชื่อว่าทุกคนน่าจะคิดเหมือนกันว่าการมีแฟน มีความรัก ควรจะทำให้เรารู้สึกรักตัวเองมากขึ้น เห็นคุณค่าในตัวเองมากขึ้น ถ้ามีความรักแล้วรู้สึกว่าตัวเองต่ำลง น่าอาจจะไม่ใช่ความรักแบบที่มันควรจะเป็น

4. ทั้งโลกมีแค่คุณ 2 คน

ซึ่งผมหมายถึงในแง่ลบนะครับ คือเขาพยายามกักตัวคุณไว้กับเขา ตัดคุณออกจากสังคมเก่า ๆ ของคุณ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนที่ทำงาน เพื่อนสนิท แม้แต่ครอบครัว เขาจะต้องการให้โลกของคุณมีแต่เขาเท่านั้น

ในชีวิตคนเรา เราจะมี Save Zone อยู่ อย่างผมเองก็มีแฟน เพื่อนสนิท บ้าน แล้วก็พระอาจารย์ ที่จะเป็นพื้นที่ปลอดภัยให้ผม คุณเองก็น่าจะมีพื้นที่เหล่านี้เหมือนกัน การที่เขาตัดคุณออกจากพื้นที่เหล่านี้ เป็นเหมือนการทำลายรากฐานของชีวิตคุณไป ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะเป็นพื้นที่ปลอดภัยให้คุณได้ 100% ตลอด 24 ชม.

5. คุณไม่สามารถคาดการอารมณ์ของเขาได้

พูดให้ง่ายคือขึ้นลงตลอดเวลา 3 วันดี 4 วันร้าย วันไหนดีก็ดีใจหาย แต่วันไหนร้ายก็ร้ายจนเหมือนเป็นคนละคน ข้อนนี้อันตรายมากนะครับ เพราะจากที่ผมสังเกตในหลาย ๆ คู่ ข้อนี้คือผลรวมจากทุกข้อที่กล่าวมาข้างต้น เพราะพอมาถึงจุดนี้ คุณไม่มีทางรู้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับคนที่กำลังอารมณ์ขึ้นตรงหน้านี้

ถ้าอยากจบคุณก็จำเป็นต้องยอม แต่ยิ่งคุณยอมครั้งหน้ามันจะยิ่งหนักขึ้น แต่ถ้าคุณไม่ยอมมันก็จะยิ่งบานปลาย บางครั้งถึงขั้นขู่ที่จะทำร้ายคุณ ทำร้ายครอบครัว เพื่อน หรือสัตว์เลี้ยงของคุณ หรืออาจจะเป็นขู่ที่จะทำร้ายตัวเองก็มีครับ

5 ข้อนี้คือสัญญาณที่บ่งบอกว่าความสัมพันธ์ของคุณ มีโอกาสสูงมากที่จะกลายเป็น Abusive Relationship

ส่วนตัวผมไม่เคยเจอกรณีที่หนักถึงชีวิต แต่เราก็ได้ยินข่าวการเอาถึงชีวิตกันเพราะเหตุผลอย่างหึงหวง ทะเลาะกัน หรืออะไรก็แล้วแต่มากมาย

ผมเป็นหนึ่งครับที่ยอมรับว่าผมเคยเป็นมาหมดทุกข้อเลย เรียกว่าความรักของผมเคยอยู่ในจุด Abusive Relationship แล้วมันทำให้ความสัมพันธ์ของผมกับแฟนอันตรายมาก เราไม่มีความสุขเลย มีแต่การทะเลาะ แล้วมันก็ไม่เวิร์ค ทุกวันนี้ผมต้องฝึกที่จะรู้ทันความรู้สึกให้มาก และมันก็ดีขึ้นมาก ๆ แต่ถ้าให้ผมแนะนำคือ คุณควรออกให้ห่างความสัมพันธ์แบบนี้

บางคนอาจจะคิดว่านี้ก็เป็นความรักรูปแบบหนึ่งหรือเปล่า จริง ๆ มันไม่ใช่นะครับ มันเป็นแค่ความรู้สึกผูกมัดในสมองของพวกคุณเฉย ๆ วิธีที่จะหยุดวงจรเหล่านี้ได้คือคุณต้องการที่จะเริ่มชัดเจนในคุณค่าของตัวเอง กลับมาเพิ่มคุณค่าในตัวเอง ทั้งภายนอกและภายใน

ภายนอกอาจจะเป็นการแต่งตัว บุคลิกภาพ ลดหุ่น อะไรก็ได้ที่คุณต้องการ ส่วนภายในก็อาจจะนั่งสมาธิ อ่านหนังสือ หรือเริ่มเรียนความรู้ใหม่ ๆ เพิ่ม คุณจำเป็นที่จะต้องกลับมาเป็นคนควบคุมชีวิตตัวเอง

สิ่งที่ผมจะแนะนำให้คนที่เข้ามารับคำปรึกษาฟังคือ ถ้าทะเลาะกันแล้วสถานการณ์เริ่มเย็นลงให้ยื่นคำขาดว่าครั้งนี้ครั้งสุดท้ายถ้ามีอีกคือเลิก แล้วก็ในเวลาปกติที่อารมณ์โอเคทั้งคู่ ให้หาเวลาเปิดใจบอกเขาตรง ๆ ว่าคุณรู้สึกแย่กับการกระทำไหนของเขา และต้องการให้เขาแก้ไข

จุดอยู่ที่คุณต้องชัดเจนกับสิ่งที่คุณเลือก ถ้าสุดท้ายมันถึงจุดที่ต้องเอาบางอย่างที่ฉุดรั้งชีวิตคุณออกไป คุณก็ต้องกล้าเลือกทำสิ่งที่ใช่ “เพื่อตัวเอง”

หวังว่าบทความนี้ของผมจะช่วยทำให้ความรักของคุณดีขึ้นนะครับ

Mr.Mars

Photo Source ปก1234567