ภาพประกอบจาก https://www.pexels.comคุณเคยตื่นสายหรือไม่ เชื่อว่าหลายคนคงเป็นแบบนี้ประจำ โดยเฉพาะกับนักเรียนนักศึกษา รวมทั้งคนที่ชอบเที่ยวกลางคืน การตื่นสายเป็นเรื่องปกติของคนที่ร่างกายได้รับการพักผ่อนไม่เพียงพอ การที่ได้นอนจนเต็มอิ่มมันช่างเป็นเรื่องที่ดีจริง ๆ หากเป็นครั้งสองครั้งก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าหากเป็นทุกวันแม้แต่วันที่คุณต้องไปเรียนหรือไปทำงาน คุณก็มีความรู้สึกว่าการลุกออกจากที่นอนมันช่างยากลำบาก นี่เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าคุณกำลังเป็นคนขี้เกียจ แล้วดูรอบ ๆ ตัวคุณในตอนนี้ ชีวิตของคุณดีหรือไม่ ถ้าให้ฉันทายคงไม่ดีเท่าไหร่ อย่าให้ความเกียจคร้านเข้าครอบงำชีวิตของคุณ วันนี้ฉันมีวิธีที่จะช่วยให้คุณหลุดพ้นจากความขี้เกียจนี้วิธีหนีจากความขี้เกียจ1.ยอมรับความจริงว่าตัวเองเป็นคนขี้เกียจ การยอมรับความจริงถือเป็นสิ่งแรกของผู้ที่จะเลิกขี้เกียจ หากเรายอมรับในสิ่งที่เรากำลังเป็นอยู่ได้ เราก็จะไม่โทษปัจจัยอื่น ๆ ที่อยู่รอบ ๆ ตัวเรา เช่นการกล่าวโทษว่าไม่มีเวลา ทำไม่ได้ยากเกินไป ข้ออ้างเหล่านี้ถือว่าเป็นบ่อเกิดของความขี้เกียจที่คุณไม่รู้ตัวภาพประกอบจาก https://www.pexels.com2. พยายามสร้างจุดมุ่งหมาย/สร้างเป้าหมาย การมีเป้าหมายจะทำให้เรามีกำลัง มีแรงใจที่จะเดินออกจากความขี้เกียจ เพื่อไปให้ถึงความฝันหรือปลายทางที่ได้ตั้งเอาไว้ ถ้าถึงวันนั้นรับรองได้ว่าความสุขจะตามคุณมาแน่นอนภาพประกอบจาก https://www.pexels.com3. สิ่งแวดล้อมน้อมนำความขยัน คุณปฏิเสธไม่ได้ว่าสิ่งแวดล้อมที่อยู่รอบตัวคุณมีผลต่อการกระทำของคุณ หากคุณอยู่ในบ้านที่สกปรก ข้าวของต่าง ๆ ไม่มีความเป็นระเบียบ ทำให้ยิบจับอะไรก็ไม่สะดวก ผลที่ตามมาแน่นอนคือคุณไม่อยากทำอะไรไม่อยากเข้าไปยุ่งกับบริเวณที่ไม่สะอาดไม่ปลอดภัย แต่ถ้าหากบ้านของคุณเป็นระเบียบ คุณคงไม่ออกไปไหนอยากทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่บ้าน นอกจากนี้ยังอยู่บ้านสร้างสัมพันธ์ที่ดีแก่คนในครอบครัวอีกด้วยผลที่ตามมาแน่นอนคือคุณไม่อยากทำอะไรไม่อยากเข้าไปยุ่งกับบริเวณที่ไม่สะอาดปลอดภัย แต่ถ้าหากบ้านของคุณเป็นระเบียบ คุณคงไม่ออกไปไหนอยากทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่บ้าน นอกจากนี้ยังอยู่บ้านสร้างสัมพันธ์ที่ดีแก่คนในครอบครัวอีกด้วยภาพประกอบจาก https://pixabay.com4. สังคมดีมีชัยไปกว่าครึ่ง คล้ายๆกับเรื่องสิ่งแวดล้อม แต่เรื่องสังคมเป็นเรื่องที่ค่อนข้างวุ่นวาย หากคุณลองทำตามข้อ1ถึงข้อ3แล้ว ฉันคิดว่าคุณคงมองภาพของข้อ 4 ออก หากสังคมรอบตัวคุณดีแต่แรกคุณคงไม่ขี้เกียจใช่หรือไม่ ฉันไม่ได้บอกให้คุณเลิกคบเพื่อนหรือคนที่จะพาคุณขี้เกียจหรอกนะ แต่ให้คุณพยายามคบคนที่จะพาให้ชีวิตดีขึ้น ไม่ต้องเลิกคบคนที่ไม่ดี เพียงแต่ลดบทบาทของคนเหล่านั้นลง และเพิ่มความสัมพันธ์กับคนที่จะพาคุณขยันให้มากขึ้นภาพประกอบจาก https://www.pexels.com5. ประโยควิเศษสร้างความขยัน"ฉันทำได้""ผลของความพยายามย่อมหอมหวานเสมอ""ถ้าพยายามสุดกำลัง ฉันทำได้แน่นอน""ท้อแต่...ห้ามถอย"ประโยคเหล่านี้เป็นประโยคคลาสสิค แต่สำหรับคนที่พยายามทำสิ่งต่าง ๆ ที่ฉันแนะนำมาข้างต้น ฉันเชื่อว่าคำพูดเหล่านี้ช่วยเติมเต็มกำลังใจของคุณได้มากที่สุด อย่าลืมชมเชยตัวเองบ้างการชมเชยตัวเองก็สำคัญถือว่าเป็นรางวัลและความภาคภูมิใจสำหรับความกล้าของคุณ ความกล้าที่คุณจะเปลี่ยนตัวเองให้เป็นคนขยัน ทุกคนไม่ได้เก่ง ไม่ได้ดีมาตั้งแต่เกิด ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเกิดจากสองมือที่เราสร้าง หากคุณท้อและล้ม คุณจะลุกขึ้นใหม่ไหม?ถ้าครั้งต่อไปจะเป็นครั้งที่คุณสำเร็จ ไม่มีอะไรได้มาโดยที่ไม่พยายาม "ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น"นอกจากนี้ฉันยังมีแบบทดสอบว่าคุณเป็นคนขี้เกียจหรือไม่ มาให้ได้ลองทำกันด้วย ฉันมีข้อความให้คุณได้อ่านจำนวน 10 ข้อ แล้วเรามาดูกันว่าข้อความดังกล่าวตรงกับคุณกี่ข้อ1. คุณคิดเสมอว่าต้องทิ้งความขี้เกียจที่คุณมีอยู่ออกไป2. คนรอบข้างคุณชอบบ่นให้คุณเสมอว่าคุณเป็นคนขี้เกียจ3. คุณเป็นพวกชอบผลัดวันประกันพรุ่ง โดยอ้างว่าไม่มีเวลา หรือ เอาไว้ก่อนเดี๋ยวค่อยทำ4. คุณไม่ชอบทำความสะอาด5. คุณไม่มีเป้าหมายของชีวิต ใช้ชีวิตไปวัน ๆ ไม่รู้ว่าอยากเป็นหรืออยากทำอะไร6. คุณมีเวลาให้กับการดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม หรือทำกิจกรรมอื่น ๆ มากกว่าการเรียนและการทำงาน7. คุณคิดว่าตัวเองไม่มีความสามารถพิเศษอะไรเลย8. คุณพยายามออกจากความขี้เกียจแต่ก็ทำได้ไม่นานคุณก็ล้มเหลว9. คุณเข้ากับคนอื่นไม่ได้10. คุณไม่สนใจอนาคตของตัวเองเลยดูคะแนนของคุณกันเลย!!!!ได้ 1-3 ข้อ ยินดีด้วยนะคะ คุณเป็นคนขยัน ขอให้คุณเป็นแบบนี้ตลอดไปรับรองอนาคตของคุณเจริญรุ่งเรืองแน่นอนได้ 4-6 ข้อ เกือบจะดีแล้ว ถ้าคุณพยายามอีกนิดคุณตามทันคนขยันได้แน่นอน รีบๆมาเป็นคนขยันกันได้ 7 ข้อขึ้นไป คุณเป็นคนเกียจคร้าน ลองทำตาม 5 ข้อที่ฉันบอก คุณอาจต้องใช้เวลา ความสำเร็จไม่ได้สร้างได้ภายในวันเดียว รีบสลัดความขี้เกียจอย่าให้ชีวิตคุณต้องจบลงด้วยความขี้เกียจเลย มันน่าเศร้าใจมาก