ภาพถ่าย1ภาพอาจจะพลังดึงดูดให้เรามองอยู่นานแสนนาน หรือภาพบางภาพอาจจะเป็นภาพที่บอกเล่าเรื่องราวหรือเหตุการณ์ต่างๆเฉยๆซึ่งเราก็แค่จะมองผ่านๆ ภาพบางภาพเป็นภาพอมตะที่คนนิยมไปทั่วโลก อะไรคือสิ่งที่ทำให้ภาพแต่ละภาพมีความแตกต่างกัน วันนี้แล้วจะมาเผยถึง 5 เทคนิคในการถ่ายภาพให้มีพลังดึงดูด1. มีการเล่าเรื่องในการถ่ายรูปมีหลายแง่หลายมุม ปัจจุปันเรามักจะถ่านรูปโดยใช้มือถือ ถ่ายกิจกรรมต่าง ๆ ส่งเอกสาร ส่งงาน หรือบันทึกเหตุการณ์ในชีวิตประจำวัน แต่ภาพที่มีพลังจะต้องเป็นภาพที่มีการเล่าเรื่อง หรือ Story อยู่ในนั้น มากกว่าที่เป็นภาพบันทึกสิ่งของเฉย ๆ ที่ไม่มีจุดน่าสนใจ หัวข้อเล่าเรื่องช่างภาพอาจจะต้องคิด เช่น ใคร ทำอะไร ที่ไหน อย่างไร เมื่อคนดูมองภาพ ก็จะพยายามหาเนื้อเรื่องที่อยู่ในภาพนั้น ๆ ถ้าไม่มีเนื้อหาที่น่าสนใจ คนก็จะมองข้ามไปภาพนั้นไป เพราะคนเราชอบที่จะรับรู้เรื่องราวต่าง ๆ มากกว่า2. เน้นอารมณ์ภาพที่ดูแล้วดึงดูด มักจะเป็นภาพมีผลกระทบต่อความรู้สึกของคนดู และสามารถที่ตรึงคนดู ให้มองภาพนั้นได้นานขึ้น หรือมีการแชร์ผ่าน Social Network ให้มากขึ้น อารมณ์ของภาพเกิดขึ้นได้ 2 อย่างคือ 1 รูปเหตุการณ์ที่อยู่ตรงนั้น เช่น ภาพของการประท้วง ภาพของการแสดงความรักของชายหนุ่มที่เอาดอกไม้ให้หญิงสาว หรือภาพวัตถุที่มีแสงเงา และโทนสีที่แสดงอารมณ์บรรยากาศให้เกิดขึ้น ภาพแบบนี้แหละที่คนดูมักจะสนใจ3. มีพระเอกในภาพคำว่าพระเอกในภาพหมายถึง ในภาพหนึ่งภาพจะต้องมีจุดน่าสนใจอยู่ 1 จุดเสมอ หรือผมเรียกง่าย ๆ ว่าเป็นพระเอกที่อยู่ในภาพ เช่น เป็นภาพบุคคลที่ทำกิจกรรม หรือมองมายังกล้องตัวนี้ เป็น Subject เด่นหลักที่อยู่ในภาพนั้น ๆ คำว่าพระเอกในภาพ ไม่ได้หมายถึงมนุษย์หรือคนเพียงอย่างเดียว ยังหมายถึงสิ่งของด้วย เช่น ถ้าเรามีรูปภาพแก้วกาแฟที่ถูกวางอยู่บนโต๊ะ กับแสงสาดเข้ามาทางหน้าต่างแบบเฉียง ๆ แก้วกาแฟนั้นคือพระเอกที่เป็นตัวแสดงเด่นหลักในภาพนั้น ๆ นั่นเอง4. อาศัยทฤษฎีการถ่ายรูปมาช่วยมีน้องเคยถามว่า “ถ้าภาพถ่ายเป็นงานศิลปะแล้ว ไม่ว่าผมจะถ่ายมาแบบไหน ก็ไม่มีผิดใช่ไหม เพราะศิลปะไม่มีผิดไม่มีถูก” คำพูดนี้ถูกต้องแต่มีอยู่คำสิ่งหนึ่ง ควรจะต้องคิดก็คือ ทุกอย่างมีคำว่า “มาตรฐาน” เช่น หากเราบอกว่าเราจะทำแกงเขียวหวาน เราทำออกมาแล้วเป็นแกงเผ็ดมันก็จะไม่ถูกต้องและไม่ตรงตามมาตรฐานของแกงเขียวหวาน การถ่ายรูปก็เป็นเหมือนกัน การถ่ายรูปมีทฤษฎีมาเกี่ยวข้องมากมายทั้งทฤษฎีกฎสามส่วน ทฤษฎีเรื่องที่ว่าง ทฤษฎีเรื่องจุดตัด 9 ช่อง ทฤษฎีเรื่องการใช้เส้นนำสายตาเข้ามาประกอบ ซึ่งทฤษฎีเหล่านี้ทั้งหมดถูกคิดและพัฒนามาเป็นเป็นเวลายาวนาน ทำให้มันคือสูตรสำเร็จในการถ่ายภาพให้สวย ดังนั้นถ้าเราต้องการภาพที่สวยงามเราต้องฝึกใช้ทฤษฎีเหล่านั้นในภาพถ่ายอย่างเป็นนิสัยอยู่เสมอ5. มีจินตนาการภาพบางภาพไม่ใช่แค่การเล่าเรื่องเฉย ๆ แต่ยังบ่งบอกถึงจินตนาการของคนถ่ายด้วย ภาพบางรูปภาพหากเป็นการมองแบบธรรมดาก็จะดูเฉย ๆ แต่ถ้าเราอยากให้ภาพนั้นเป็นภาพที่ทรงพลัง เราอาจจะใส่จินตนาการลงไปในภาพนั้น เพื่อสร้างมุมมองแนวความคิด และมีการเล่าเรื่องที่แปลกออกไป ทำให้ภาพนั้นมีพลังและดึงดูดคนดู ให้รู้สึกว่าคนถ่ายคิดอะไรจินตนาการถึงสิ่งใดอยู่การถ่ายภาพเป็นการฝึกทักษะแบบหนึ่งคล้าย ๆ กับการเล่นดนตรี นอกจากที่เราจะต้องใส่อารมณ์ลงไปแล้ว การฝึกถ่ายภาพด้วยอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้แม่นยำเป็นเรื่องที่สำคัญ เมื่อเราใช้อุปกรณ์ต่าง ๆ ได้คล่องแคล่วแล้ว เราสามารถใส่อารมณ์ และจินตนาการของเราไปได้ง่ายขึ้น และเพิ่มพลังในงานถ่ายรูปของเราให้ดียิ่ง ๆ ขึ้นไปครับ อยากให้เพื่อน ๆ ลองไปฝึกถ่ายรูป และเอาคำแนะนำต่าง ๆ นี้ไปประยุกต์ใช้ดูนะครับติดตามผู้เขียนได้ที่Youtube : online2easyFacebook : https://www.facebook.com/online2easy/Podcast : online 2 easyบทความของผู้เขียน https://creators.trueid.net/@31939https://creators.trueid.net/@48036