เป็นธรรมเนียมของศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีกทุกฤดูกาลที่จะมีการมอบรางวัลดาวซัลโว หรือรองเท้าทองคำ (Golden Boots) ให้กับนักเตะที่ทำประตูได้มากที่สุดต่อหนึ่งฤดูกาล วันนี้ผมจะมาวิเคราะห์เหล่า 5 ศูนย์หน้าตัวเต็งดาวซัลโวพรีเมียร์ลีก 2020/21 จากสื่ออังกฤษอย่าง Telegraph กัน ลองตามมาดูกันครับว่า 5 ชื่อนี้จะตรงใจเพื่อนๆขนาดไหน และจะเป็นคนที่เพื่อนตามเชียร์กันอยู่รึเปล่า มาดูกันเลย ภาพจาก sport.trueid.net Mohamed Salah – Liverpool (โอกาส 17%): ศูนย์หน้าชาวอียิปต์นั้นได้สร้างปรากฏการณ์ให้กับพรีเมียร์ลีกตั้งแต่ร่วมงานกับเจอเก้น คลอปป์ ที่ลิเวอร์พูลในปี 2017 หลังจากล้มเหลวกับเชลซีก่อนหน้านี้ ในสีเสื้อลิเวอร์พูล Salah มีสถิติการถล่มประตูที่สุดยอดมากๆ ตลอด 3 ฤดูกาลที่ผ่านมา จอมถล่มประตูจากแดนปีระมิดถลุงไปถึง 94 ลูกจาก 152 นัด (0.62 ลูกต่อนัด) ในระดับสโมสร จุดเด่นที่ชัดเจนของ Salah คือการความเร็วและเทคนิคการลากเลื้อยที่ใช้จัดการกองหลังพรีเมียร์ลีกมานักต่อนัก และการจบสกอร์ด้วยเท้าซ้ายอันเฉียบคม เขาจึงเข้าระบบสุดๆกับแทคติคเกมส์สวนกลับ และ การเล่น pressing สูงของคลอปป์ และแม้ Salah จะไม่ใช่ศูนย์หน้าที่มีจุดเด่นในการต่อบอล แต่สถิติการส่งให้เพื่อนร่วมทีมทำประตูอยู่ที่ 36 ลูก (0.24 ลูกต่อนัด) ซึ่งถือว่าสูงเมื่อเทียบกับกองหน้าคนอื่นๆ อย่างไรก็ตามจุดอ่อนของ Salah เป็นเรื่องของลูกกลางอากาศ และการช่วยเก็บบอลในแดนหน้า แต่ด้วยศักยภาพของทีม และแนวทางการเล่นเน้นเกมบุกของลิเวอร์พูลก็ทำให้ซาล่าห์ยังคงเป็นตัวเต็งในตำแหน่งดาวซัลโวได้ไม่ยาก ภาพจาก sport.trueid.net Harry Kane – Tottenham Hotspurs (โอกาส 15%): คงไม่มีใครกล้าปฎิเสธว่าในช่วงที่ผ่านมา แฮร์รี่ เคนถือเป็นเบอร์หนึ่งในตำแหน่งกองหน้าของทั้งทีมชาติอังกฤษ และ ทอตแนมฮอตสเปอร์สอย่างแท้จริง ดาวยิงวัย 27 ปีมีสถิติถล่มประตูไปทั้งสิ้น 89 ลูกรวมทุกรายการ จากการลงสนาม 122 นัดกับไก่เดือยทองใน 3 ฤดูกาลหลังสุด (0.73 ลูกต่อนัด) ซึ่งถือว่ายอดเยี่ยมมาก จุดเด่นของเจ้า “เฮอร์ริเคน” คือความครบเครื่อง สามารถยิงได้ดีทั้งซ้ายและขวา รวมถึงการเล่นลูกกลางอากาศ อีกทั้งยังสามารถเก็บบอลไว้กับตัวได้ ครองบอลดี จึงสามารถเล่นได้ทั้งในสไตล์กองหน้าตัวเป้า หรือพาบอลขึ้นไปลุ้นทำประตูด้วยลูกยิงไกลก็ได้ อย่างไรก็ตามจุดอ่อนของหัวหอกสเปอร์นั้นอยู่ที่การส่งให้เพื่อนร่วมทีมทำประตูที่เพียง 12 ลูกจาก 3 ฤดูกาลหลังสุด (0.10 ต่อเกม) ซึ่งควรทำได้ดีกว่านี้ รวมถึงอาการบาดเจ็บที่คอยรบกวนอยู่บ่อยครั้ง และแทคติกเน้นเกมรับของกุนซืออย่างมูรินโญ่ซึ่งอาจไม่เอื้อให้เคนเค้นฟอร์มที่สุดยอดได้มากนัก ภาพจาก sport.trueid.net Pierre Emerick Aubameyang – Arsenal (โอกาส 14%): หนึ่งในนักบอลที่คงเส้นคงวาที่สุดในพรีเมียร์ลีกเวลานี้ก็ว่าได้ สำหรับศูนย์หน้าชาวกาบองวัย 31 ปี ไม่ว่าทีมปืนใหญ่จะอยู่ในฟอร์มที่ดีหรือแย่ โอบาเมยังคนนี้ก็ยังเอาประตูมาฝากแฟนๆได้เสมอ จนได้เป็นถึงรองดาวซัลโวเมื่อฤดูกาลที่แล้ว ผลงาน 91 ประตูจาก 133 นัดใน 3 ฤดกาลหลังสุด (0.68 ลูกต่อเกม) นับว่าการันตีคุณภาพได้เป็นอย่างดี การส่งให้เพื่อนทำประตูที่ 17 ลูก (0.13 ลูกต่อเกม) ก็ถือว่าดีพอสมควร ความอันตรายของโอบาเมยังคือ ความเร็วอันจัดจ้าน และการเลี้ยงตัดเข้ากลางเพื่อลุ้นทำประตู จุดอ่อนของเขาอาจเป็นเรื่องการเข้าทำด้วยลูกโหม่งที่ยังไม่โดดเด่นนักแม้มีส่วนสูงถึง 187 cm นอกจากนี้ด้วยอายุที่ย่างเข้าเลขสาม ของเจ้าตัวก็ถือว่าเลยช่วงพีคของนักฟุตบอลแล้ว จึงอาจเป็นข้อด้อยที่สำคัญข้อนึงของโอบาเมยัง อย่างไรก็ตามการต่อสัญญาฉบับใหม่กับอาร์เซนอล และได้รับความไว้วางใจจากมิเกล อาร์เตต้ากุนซือให้สวมปลอกแขนกัปตันทีม ก็น่าจะเพิ่มสมาธิ และความทุ่มเทของยอดศูนย์หน้ารายนี้ได้มากขึ้น ภาพจาก sport.trueid.net Sergio Agüero – Manchester City (โอกาส 13%): ลูกยิงช่วงทดเวลาบาดเจ็บกับควีนส์พาร์คเรนเจอร์สที่พาแมนเชสเตอร์ ซิตี้เถลิงแชมป์พรีเมียร์ลีกครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสรยังคงตราตรึงในความทรงจำแฟนบอลทีมเรือใบสีฟ้า (และแฟนปีศาจแดง) และลูกยิงนี้คือสิ่งที่สะท้อนประสิทธิภาพของว่าที่ตำนานชาวอาเจนไตน์ได้เป็นอย่างดี ทั้งการหาที่ว่างในกรอบเขตโทษ การครองบอลในพื้นที่แคบๆ และการจบสกอร์ที่ยอดเยี่ยม จึงไม่น่าแปลกใจที่ตลอด 3 ฤดูกาลหลังสุดดาวยิงวัย 32 ปี ถลุงประตูได้ถึง 85 ลูก จากการลงสนามในระดับสโมสร 117 นัด (0.73 ลูกต่อนัด) แม้จะไม่ได้เป็นตัวหลักตลอด แถมด้วยการส่งให้เพื่อทำประตูที่ 21 ครั้ง (0.18 ลูกต่อนัด) เรียกว่าลงแล้วได้เรื่องตลอด จุดเด่นของกองหน้าเรือใบสีฟ้าคือความคมในการจบสกอร์ทั้งในกรอบและนอกกรอบเขตโทษ การต่อบอลประสานงานกับเพื่อนร่วมทีม และการหาพื้นที่ในการทำประตู จุดอ่อนสำคัญคือรูปร่างที่ค่อนข้างเล็ก อายุที่มากกว่า 30 ปี และอาการบาดเจ็บที่รุมเร้าตลอดช่วง 3 ปีหลัง อย่างไรก็ตาม อเกวโร่ยังคงเป็นศูนย์หน้าที่มีความอันตรายรอบด้านหากฟิตสมบูรณ์ จึงเป็นการยากที่จะตัดชื่อศูนย์หน้าคนนี้ออกจากลิสต์ได้ ภาพจาก sport.trueid.net Timo Werner – Chelsea (โอกาส 10%): กองหน้าตัวใหม่ของสิงโตน้ำเงินคราม “เชลซี” ที่คาดหวังว่าจะมาสร้างอิมแพคกับทีมของแฟรงค์ แลมพาร์ตได้ทันที อดีตกองหน้าของ RB Leipzig มีผลงานการทำประตู 74 ลูกจาก 127 นัดรวมทุกรายการในช่วง 3 ฤดูกาลหลังสุด คิดเป็นค่าเฉลี่ยการถล่มประตูที่ 0.58 ลูกต่อนัด จุดเด่นของกองหน้าชาวเยอรมันคือ การจบสกอร์อันเฉียบคมในกรอบเขตโทษ ความรวดเร็วและคล่องตัว และการหาพื้นที่ว่าง นอกจากนี้ยังเป็นตัวอันตรายในเกมส์สวนกลับอีกด้วย อย่างไรก็ตามจุดอ่อนของ Werner คือ การเล่นลูกกลางอากาศเนื่องจากรูปร่างที่ค่อนข้างเล็ก และไม่มีจุดเด่นในการเล่นลูก set piece สถิติการส่งบอลให้เพื่อร่วมทีมทำประตู (Assist) นั้นก็ถือว่าอยู่ในระดับที่ดีที่ 29 ลูกจาก 3 ฤดูกาลหลังสุด (0.23 ต่อนัด) ด้วยสถิตที่สุดยอดในบุนเดสลีก้าจึงทำให้แฟนสิงบลูส์หลายคนคาดหวังกับ Werner ค่อนข้างมาก แต่การย้ายมาค้าแข้งครั้งแรกในประเทศอังกฤษก็สร้างความลำบากให้กับกองหน้าระดับโลกหลายคน และอาจทำให้อาจต้องใช้เวลาปรับตัวพอสมควร เป็นอย่างไรกันบ้างครับสำหรับ 5 รายชื่อตัวเต็งดาวซัลโวพรีเมียร์ลีก ดูจากสถิติและศักยภาพของแต่ละคนในลิสต์รายชื่อแล้วก็ต้องบอกว่ากินกันไม่ลงจริงๆ อย่างไรก็ตามฟุตบอลลูกลมๆอะไรก็เกิดขึ้นได้ ปัจจัยต่างๆอย่างเช่น สภาพความฟิตของร่างกาย ฟอร์มโดยรวมของทีม และเรื่องนอกสนามก็มีส่วนสำคัญที่มากำหนดจำนวนประตูของนักเตะแต่ละคน แล้วเพื่อนๆล่ะครับ คิดว่าใครกัน จะได้รางวัลรองเท้าทองคำ หรือ ดาวซัลโวพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ไปครอง เรื่องโดย KVN โดยอ้างอิงจากบทความของ Telegraph ขอบคุณภาพจาก Pixabay ภาพปก และ sport.trueid.net ภาพที่1 ภาพที่2 ภาพที่3 ภาพที่4 ภาพที่5