สองสามวันมานี้ อากาศทั่วไทยหนาวเย็นขึ้น โดยเฉพาะทางภาคเหนือ ตอนเช้าๆ แถวบ้านฉันอุณหภูมิลดต่ำลงมาถึง 12 องศา นโยบายประหยัดน้ำใช้ได้ผลทุกทีซินะในช่วงนี้ ส่วนกิจกรรมคลายหนาวของคนที่นี้ก็คงหนีไม่พ้น "การผิงไฟ" การล้อมวงนั่งผิงไฟดูเหมือนจะเป็นวัฒนธรรมคู่ชุมชนแถวบ้านมานานนม เรียกได้ว่าช่วงฤดูหนาวของทุกปี ผู้เฒ่าผู้แก่ ลุงป้าน้าอา พร้อมด้วยเด็กเด็ก ก็จะออกมานั่งผิงไฟ พูดคุยสารทุกข์สุกดิบกันอย่างอบอุ่น สนุกสนาน และเมื่อมีการรวมตัวกันของคนในบ้าน สิ่งที่ขาดไม่ได้คงจะเป็นของกินแก้เบื่อเวลานั่งผิงไฟ จากสถิติความถี่ของการนำมาทำบ่อยๆ ตลอดหลายปีที่ผ่าน สามารถจัดอันดับความนิยมได้ดังนี้ อันดับ 1 ให้ไปเลยกับ "ข้าวหลาม" การทำข้าวหลามที่บ้านเรา จะใช้ "ไม้ไผ่ข้าวหลาม" ซึ่งเป็นไผ่ที่ส่วนใหญ่จะมีมากทางภาคเหนือ เลือกไผ่ความยาวประมาณ 30-50 เซนติเมตร เส้นผ่าศูนย์กลางไม่เกินหนึ่งนิ้วครึ่ง เปลือกหนาประมาครึ่งเซนติเมตร จะทำให้การเผาข้าวหลามสุกเร็ว และข้าวเหนียวติดเยื้อไผ่ได้ดี วิธีทำก็ทำกันง่ายๆ โดยการนำข้าวเหนียวเกี่ยวใหม่ๆ เมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายน - ธันวาคม มาแช่น้ำใส่เกลือนิดหน่อยทั้งไว้ซัก 30 นาที แล้ว กรอกใส่กระบอกข้าวหลาม ให้เหลือพื้นที่ปากกระบอกประมาณ 2-3 นิ้ว ใส่น้ำจนเต็มทั้งไว้หนึ่งคืน พอเช้ามาค่อยเอาใบตองหรือ ใบเตยก็ได้แล้วแต่จะหาได้ใกล้ตัว มาอุดปากกระบอกข้าวหลาม แล้วก็ใส่กองไฟ นั่งเฝ้ากันไปเพลินๆ ข้าวหลามที่ได้จะมีกลิ่นหอมตามธรรมชาติ ไม่ได้ใส่กะทิหรือน้ำตาลใดๆ แต่ก็หอมอร่อยอย่างน่าประหลาดใจ อันดับ 2 ตามมาด้วย "ข้าวจี่" ข้าวจี่ ในสมัยก่อนมักจะใช้ ข้าวเย็นหรือข้าวเหนียวที่กินเหลือจากมื้อเย็นเมื่อวันก่อน มาปั้นขนาดเท่ากำมือ เอาไม้เสียบแล้วนำไปปิ้งให้เกรียมนิดๆ จะหอมข้าวไหม้หน่อยๆ ผู้ใหญ่มักจะทำให้เด็กทานแก้หิวช่วงรอข้าวนึ่งสุกตอนเช้าๆ ต่อก็มีการคิดสร้างสรรค์เพิ่มสีสันและรสชาติมากขึ้น มีการนำข้าวมาทาน้ำมันกระเทียมเจียวก่อนไปปิ้งบ้าง ชุบไข่ไก่ก่อนเอามาปิ้งบ้าง ล่าสุดไปเห็นตามถนนคนเดิน มีการนำข้าวมาคลุกกับกะทิ น้ำตาลและเกลือ พอปิ้งแล้วก็ส่งกลิ่นหอมไปทั่ว เชิญชวนคนแวะชิมได้เป็นอย่างดี อันดับที่ 3 ฮิตไม่แพ้กัน "ฟ้าสนั่น" เนื่องจากแถวบ้านยังเป็นสังคมชนบท การปลูกต้นมะขามเปรี้ยวไว้ในบ้านก็ยังมีอยู่ บางต้นมีอายุหลายสิบปี หากยังพอพื้นที่บริเวณบ้านมากพอสามารถให้ต้นมะขามยืนต้นให้ร่มเงาได้โดยไม่ถูกตัดไปด้วยเหตุที่ต้องการใช้พื้นที่บ้าง ปัญหาใบมะขามร่วงบ้าง รบกวนข้างบ้านบ้าง ต้นมะขามใหญ่ก็จะยังคงอยู่ เมื่อถึงช่วงฤดูหนาวฝักมะขามเริ่มแก่ คนในหมู่บ้านก็มักจะพากันมาเก็บฝักมะขามไปใช้ประโยชน์ สมัยเด็กๆ เราจะปีนขึ้นไปขย่มและเขย่ากิ่งมะขามให้ฝักมันร่วง ผู้ใหญ่ที่อยู่ด้านล่างจะคอยเก็บฝักมะขามใส่กระบุ่ง เพื่อนำไปแกะเปลือก ลอกเส้นใย แล้วแคะเมล็ดออก เพื่อนำไปเก็บไว้ใช่ได้ตลอดทั้งปี เมื่อเมล็ดมะขามมีมากมายเด็กๆก็จะนำมาเล่นเป็นหมากเก็บบ้าง คนหนุ่มสาวที่มีสุขภาพฟันดี ก็จะนำมาคั่วและแกกินเมล็ดสีขาวข้างใน ด้วยความแข็งของเมล็ดเวลาเคี้ยวจะรู้สึกมีเสียงสนั่นในหัว เจ้ามะขามคั่วของเรา จึงถูกเรียกว่า "ฟ้าสนั่น" นั่นเอง อันดับที่ 4 ขาดไม่ได้ "ข้าวแคบ" ข้าวแคบ เป็นของกินเล่นของคนภาคเหนือ มีรสชาติเค็มนิด วิธีทำจะคล้ายกับการทำข้าวเกรียบปากหม้อ แต่จะต้องนำมาตากแดดให้แห้ง ส่วนมากมักจะตากบน "ไพคา" หรือ หญ้าคาที่ใช้มุงหลังคา จะนิยมทำตอนหน้าร้อนแดดแรงๆ เป็นการถอมอาหารให้เก็บไว้ได้นานๆ คนภาคเหนือมักนิยมเอากินกับ "แกงผักขมผักจี" หรือ จิ้มกับน้ำพริกน้ำผัก" พอช่วงหน้าหนาวก็จะนำมาย่างไฟอ่อนกินเป็นของกินเล่นระหว่างผิงไฟก็จะเพลินไปอีกแบบ อันดับที่ 5 สุดท้ายคือ "ไข่ป่าม" เมนูนี้ เมื่อตอนที่ฉันเป็นเด็กถือได้ว่าเป็นเมนูหรูหราเลยทีเดียวเพราะต้องรอให้ไก่บ้านที่เลี้ยงออกไข่มาเสียก่อนถึงจะนำมากินได้ สมัยนั้นไม่มีไข่ขายเป็นแผงๆ เหมือนปัจจุบัน ดังนั้นถ้าอยากกินต้องรอคอย หากเช้าไหนตื่นขึ้นมาเจอไข่ไก่ในเล้า เช้านั้นเราจะได้ไข่ป่ามห่อไปโรงเรียน ทำไมต้องเป็น "ไข่ป่าม" ไม่ใช่ไข่ทอด ไข่เจียว หรือไข่ดาว ก็เพราะว่าในสมัยอดีตนั้นน้ำมันที่ใช้ทำอาหารเป็นของหายาก ส่วนใหญ่จะใช้นำมันจากไขมันสัตว์ อย่างน้ำมันหมู เป็นต้น น้ำมันพืชยังไม่นิยม ดังนั้นด้วยภูมิปัญญาของบรรพบุรุษ จึงใช้การป่าม หรือ ย่าง ด้วยใบตองแทนการทอด "การป่าม" คือ การย่างด้วยใบตอง ด้วยการทำเป็นกระทง กลัดหัวท้าย ตีไข่ปรุงรสด้วยน้ำปลานิดหน่อย อาจจะโรยหน้าด้วยหอมแป้น หรือ กุยช่าย นั้นเอง เทลงกระทงใบตอง แล้วนำมาย่างไฟอ่อนๆ หากไฟแรงไปไข่จะไหม้ข้างล่าง ข้างบนไม่สุก กินของอร่อยต้องใจเย็นๆ เสน่ห์ของไข่ปามหรือกลิ่นใบตองย่างไฟจะหอมชวนหิวมากเลยทีเดียว แม้ว่าวิถีพื้นบ้านบางอย่างได้หายไปจากชุมชนแล้ว แต่หากมีใครซักคนยังดำเนินกิจกรรมนั้นๆ อยู่ วิถีชีวิตดั้งเดิมของเราก็จะไม่หายไปไหน ลูกหลานเรายังได้เรียนรู้ที่มาที่ไปของสิ่งที่ผู้ใหญ่ทำ สร้างความสัมพันธ์ของคนในครอบครัว คนในชุมชน โดยผ่านอาหารเป็นตัวดำเนินเรื่อง ภาพโดยนักเขียน เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !