เด็กซิ่ว มีได้หลายรูปแบบอาจจะมาจากการที่ไม่สามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยหรือคณะที่ตนเองอยากเข้าได้จึงเข้าคณะอื่นๆไปก่อน ปีต่อไปจึงค่อยมาสอบคณะที่อยากเข้าใหม่ หรือผู้ที่คะแนนไม่ถึงเกณฑ์ของมหาวิทยาลัยหรือคณะที่ตนเองอยากเข้าจึงอ่านหนังสืออยู่บ้านแล้วปีต่อไปจึงมาสอบใหม่ และอีกหลายๆรูปแบบ ส่วนใหญ่นั้นจะเกิดจากการที่ตนเองไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจนหรือเตรียมตัวมาไม่ดีพอ ซึ่งก็จะเกิดผลกระทบต่างๆ เช่น เสียค่าใช้จ่าย เสียเวลา บางทีอาจจะเสียความรู้สึก(จากคนรอบข้าง) จากที่กล่าวมาข้างต้นหากผู้ที่กำลังจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยแล้วไม่อยากเป็น เด็กซิ่วนั้น ขอให้ปฏิบัติตาม 4 ข้อต่อไปนี้กันเลย1.การมีเป้าหมายที่ชัดเจน มีหลายๆคนที่ซิ่วเพราะเมื่อเข้าไปเรียนแล้วกลับรู้สึกว่าคณะนี้นั้นไม่ใช่คณะที่ตนเองชอบหรือบางคนหรือบางคนนั้นก็ไม่รู้ว่าอยากเข้าคณะอะไรจึงคิดว่า “งั้นก็ลองเข้าไปเรียนดูอาจจะชอบก็ได้หากไม่ชอบก็ซิ่วออกมาสอบใหม่” สิ่งเหล่านี้เกิดจากที่เราไม่รู้ว่าตนเองนั้นชอบอะไร อยากทำอาชีพอะไรในอนาคต ดังนั้น จะดีกว่าไหม? หากเรารู้จักตนเองเสียแต่เนิ่นๆว่าชอบอะไร ไม่ชอบอะไร สิ่งเหล่านี้นั้นอาจจะรู้จาก นิสัยของเรา วิชาที่ชอบ วิชาที่ไม่ชอบ เป็นต้น หากยังไม่รู้ว่าอยากที่จะเข้าคณะไหนอีกละก็ ผู้เขียนแนะนำให้เขียนขึ้นมาเลยว่าเราชอบทำอะไรบ้าง เช่น บางคนอาจจะชอบวาดรูป บางคนอาจจะชอบเขียนแบบ บางคนอาจจะชอบภาษา เป็นต้น จะเขียนเยอะเท่าไหร่ก็ได้ จากนั้นเลือกมา 3 อย่างว่าชอบอะไรมากที่สุด จากนั้นลองจินตนาการว่าหากเราเรียนคณะที่เกี่ยวกับสายวิชานี้ หลังจากเรียนจนจบแล้วอย่างน้อย 1-2 ปี ตอนนั้นเรากำลังทำอะไรอยู่ หากทำตามขั้นตอนนี้จะทำให้เราสามารถมองเห็นเป้าหมายได้ชัดเจนมากที่สุดภาพโดย Gerd Altmann จาก Pixabay 2.มองหาช่องทาง เมื่อเรารู้แล้วว่าเราชอบอะไร อยากเป็นอะไร ก็มาดูว่าจะทำยังไงถึงจะสามารถบรรลุเป้าหมายเข้าคณะที่เราอยากเข้าได้ ก็ลงมือเลยตรวจสอบเลยว่าในระบบ TCAS นั้นคณะที่เราอยากเข้ามันสามารถเข้ารอบไหนได้บ้าง รอบไหนเข้าได้ง่ายที่สุด ใช้คะแนนอะไรบ้าง บางมหาวิทยาลัย บางคณะก็อาจจะมี Open House ซึ่งก็จะมีการแนะนำว่าต้องทำยังไงและใช้อะไรบ้างในการสอบเข้า ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้เราสามารถเข้าใกล้เป้าหมายของเราได้มากขึ้นภาพประกอบโดย https://pixabay.com/th/photos/3.การวางแผนที่ดี เมื่อเรารู้แล้วว่าต้องทำอย่างไรบ้างก็เริ่มวางแผนการอ่านหนังสือ อย่าลืมตรวจสอบให้แน่ใจว่าคณะที่เราอยากเข้า ใช้คะแนนอะไรบ้าง จึงจะได้เตรียมถูกวิชาเพราะแต่ละคณะเองก็ใช้เกณฑ์คะแนนแต่ละวิชาไม่เหมือนกัน สิ่งสำคัญคือ เราต้องอ่านหนังสือให้ตรงกับแผนที่วางไว้อย่างรัดกุมและอย่าลืมทำข้อสอบเก่าย้อนหลังเยอะภาพโดย StartupStockPhotos จาก Pixabay 4.หมั่นเช็คตัวเองเสมอ เราควรเช็คตัวเองอย่างสม่ำเสมอว่าความรู้เราถึงไหนแล้วอาจจะเช็คโดยการทำข้อสอบโดยทำเสมือนว่าวันนี้คือวันสอบจริงโดยแต่ละวิชาก็กำหนดเวลาที่สอบจริงๆไปเลย เมื่อทำเสร็จแล้วก็มาดูว่าคะแนนตัวเองมีมากพอที่จะใช้ยื่นเข้าคณะที่ตนเองอยากเข้าหรือไม่ ควรทำอย่างสม่ำเสมอโดยอาจจะเทสต์ตนเองรายสัปดาห์หรือรายเดือนก็ได้ โดยพิจารณาจากระยะเวลาก่อนที่จะถึงวันสอบจริงๆภาพโดย Tumisu จาก Pixabay ท้ายที่สุดแล้วไม่ว่าจะเป็นผู้ที่กำลังจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยหรือผู้ที่ซิ่วไปแล้วและกำลังจะสอบใหม่ต่างก็ต้องการกำลังใจในการที่ลุกขึ้นมาอ่านหนังสือ ดังนั้นอย่าลืมพักผ่อนให้เพียงพอและอย่าเครียดจนเกินไปและอย่าลืมว่าตอนที่เรานั่งเล่นอยู่คนอื่นอาจจะกำลังอ่านหนังสือเตรียมสอบอยู่ก็ได้ ดังนั้น "ยิ่งเรารู้จักเป้าหมายของตนเองและทำตามลู่ทางของตนได้ไวเท่าไหร่ เราก็ยิ่งสามารถบรรลุเป้าหมายของตนเองได้ง่ายและไวกว่าผู้อื่นมากเท่านั้น"