4 วิธี ลุกมาทำงานบ้านฉบับคนขี้เกียจ

722

FEMTO

05 พ.ค. 2021|2 min read

อ่านบทความอื่นจาก FEMTO

คัดลอกลิงค์

แจ้งตรวจสอบ

คำว่า “งานบ้าน” สำหรับใครหลายๆคนเรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่น่าเบื่อและทำให้รู้สึกหนักใจเป็นอย่างมาก เพราะงานบ้านเป็นงานที่ต้องทำอย่างสม่ำเสมอไม่ใช่งานที่ทำครั้งเดียวแล้วถือว่าจบเลย หากยิ่งปล่อยไว้ก็จะยิ่งพอกพูนเรื่อย ๆ ซึ่งตัวเราที่เหนื่อยจากการทำงานหรือการเรียนทั้งวันแล้ว เมื่อมาเห็นสิ่งต่างๆในบ้านที่ควรจะต้องจัดเก็บ ปัด กวาด เช็ด ถูแล้ว ก็แทบจะเป็นลมให้ได้ ครั้นจะจ้างคนทำความสะอาดบ้านก็รู้สึกขี้เกียจคุย กลัวงานออกมาไม่ดี กลัวโดนโกง มีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่าย และอีกมากมาย ซึ่งสุดท้ายก็ต้องกลับมาวนลูป เหนื่อยจากการทำงาน ขี้เกียจทำงานบ้าน ปล่อยจนบ้านรกสะสม และโหมทำครั้งเดียว ซึ่งแน่นอนว่าพฤติกรรมแบบนี้จะส่งผลเสียทั้งร่างกายและจิตใจสะสมไปเรื่อยๆ ดังนั้นบทความนี้จึงจะพาทุกท่านไปพบกับ 4 วิธีที่จะทำให้งานบ้านนั้นเป็นเรื่องง่ายจนอยากจะลุกขึ้นมาทำเลยทีเดียว

ห้องรก

1.ปรับเวลาตื่นให้เช้าขึ้นซักนิด
ผู้หญิงเปิดหน้าต่าง เรามักจะได้ยินผู้หลักผู้ใหญ่สอนเสมอว่าให้ตื่นเช้า เพราะเมื่อตื่นเช้าก็จะได้มีเวลาในการทำงานมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นวันไปเรียนหรือไปทำงานหรือว่าวันหยุด หากเราตื่นแต่เช้าแล้วแบ่งเวลามาทำงานบ้านอาจจะทำแค่ 30 นาทีก็ได้ หรือหากเป็นวันหยุดก็อาจจะเพิ่มเวลาขึ้นมา นอกจากจะรู้สึกภูมิใจที่ได้ทำบางอย่างสำเร็จแล้ว ก็จะมีเวลาในการทำกิจกรรมอื่นๆเพิ่มขึ้น อีกทั้งยังลดการสะสมของงานบ้านไปได้ด้วย

2.วางแผนงาน

ผู้ชายคิด ไม่ว่าจะงานบ้านเยอะหรืองานบ้านน้อยเราก็ควรที่จะต้องวางแผนงานเสมอเพื่อความเป็นระเบียบวินัยและป้องกันการยืดเยื้อของงาน ไม่ถึงขนาดต้องมานั่งเขียนแผนงาน เพียงแค่ร่างแบบงานคร่าวๆในหัวก็เพียงพอแล้ว และที่สำคัญคือการกำหนดเวลา เช่น ทำความสะอาดห้องครัวครึ่งชั่วโมง รดน้ำต้นไม้15นาที เป็นต้น ทางที่ดีคือ เน้นทำงานที่ง่ายก่อนแล้วจึงไปทำงานที่ต้องใช้เวลานาน เพื่อที่เราจะได้ไม่รู้สึกท้อ หากมีงานที่ต้องทำเยอะ

3.ลงมือทำ

ข้อนี้สำคัญมาก เพราะว่าไม่ว่าคุณจะตื่นเช้าหรือวางแผนดียังไงหากผลัดวันประกันพรุ่งไม่ลงมือทำซักที งานก็จะสะสมเรื่อยๆ และได้เหนื่อยหนักแน่นอน การทำงานบ้านให้เสร็จและสะอาดเรียบร้อยนั้นไม่ใช่เรื่องที่ยากหรือหนักเกินไป แต่การที่จะเริ่มลงมือทำต่างหากที่ยากที่สุด ดังนั้นเมื่อตั้งใจไว้แล้วก็ต้องลงมือทำทันทีและทำให้ดีที่สุด

4.ใจเย็นๆค่อยทำไปตามขั้นตอน

ยกตัวอย่างง่ายๆ หากเรากำลังรดน้ำต้นไม้อยู่แต่ในใจเราดันคิดว่าเดี๋ยวต้องไปล้างจาน ถูพื้น เอาขยะไปทิ้ง ตากผ้า ล้างรถ กวาดใบไม้ และอื่นๆมากมาย ทำไมงานมันเยอะเหลือเกิน จนส่งผลให้รู้สึกหงุดหงิดและท้อ บวกกับอากาศร้อนของประเทศไทย กว่างานจะเสร็จอาจจะเครียดจนเป็นไข้เลยก็ได้ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมแม่ของหลายคนๆเมื่อทำงานบ้านท่านช่างดูดุดัน โหดเหี้ยมเสียเหลือเกิน ดังนั้น เมื่อเราวางแผนงานและกำหนดเวลาไว้แล้ว ก็เพียงทำตามขั้นตอนไม่ทำข้ามขั้นและไม่ทำเกินเลยไปจากแผน หากทำเป็นกิจวัตรเพียงเท่านี้งานบ้านก็ไม่ใช่เรื่องยากเลยแม้แต่นิดเดียว