สมองถือเป็นอวัยวะที่ทรงอานุภาพที่สุดในร่างกายของเรา คนเราใช้สมองคิดค้นนวัตกรรมต่าง ๆ ที่เปลี่ยนแปลงโลกได้ ใช้สร้างสรรค์ผลงานทางศิลปะที่สร้างสุนทรียภาพให้แก่ผู้ชมมากมาย การที่มันเป็นเครื่องมือที่ทรงอานุภาพเช่นนี้จึงทำให้มันเป็นอวัยวะที่กินพลังงานสูงถึง 20% ของพลังงานที่ร่างกายได้รับอีกด้วย นับว่าเป็นอวัยวะชิ้นเล็กที่ใช้พลังงานค่อนข้างเปลืองเลยทีเดียว หากการสิ้นเปลืองพลังงานของสมองนั้นเป็นไปในทางที่สร้างสรรค์ก็ถือเป็นผลดีแต่ส่วนใหญ่แล้วจะไม่ใช่อย่างนั้นเพราะสมองมักถูกใช้พลังงานไปกับเรื่องที่ไร้ประโยชน์ บทความนี้จะมาอธิบายถึง 4 พฤติกรรมที่กินพลังงานสมองจนเราไม่สามารถนำมันไปใช้ในทางที่สร้างสรรค์หรือเป็นประโยชน์กับตัวเองได้ พร้อมนำเสนอแนวทางที่พอจะช่วยลดพฤติกรรมเหล่านั้น เพื่อการพัฒนาสมองให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น พฤติกรรมต่าง ๆ ที่ทำให้สมองของเราด้อยประสิทธิภาพมีดังนี้1. คิดวนเวียน ทุกคนต่างก็ต้องเคยผิดหวังทั้งจากเรื่องที่อยากเจอแล้วไม่ได้เจอหรือเรื่องที่ไม่อยากเจอแต่กลับเจอก็อยู่แล้ว และเก็บเอามาคิดจนอาจสะสมเป็นความเครียดขึ้นมา แม้เหตุการณ์นั้นมันเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวก็ตาม แต่เราก็นำภาพนั้นมาฉายให้มันเล่นซ้ำไปซ้ำมาในหัวของเราซึ่งมันจะทำให้เราเปลืองพลังงานและเปลืองพื้นที่ในสมองอย่างมาก จนทำให้ไม่สามารถจะคิดเรื่องอื่นที่มีประโยชน์ได้เนื่องจากสมองจะคิดได้ทีละเรื่องเท่านั้น วิธีแก้ก็คือให้มองในมุมกลับกัน การที่สมองสามารถคิดได้ทีละเรื่องมันก็ทำให้เราสามารถหาเรื่องอื่นที่เป็นประโยชน์มาคิดจนสมองไม่มีพื้นที่ว่างให้กับเรื่องราวร้าย ๆ นั้นได้เช่นกัน2. อยากแก้ไขเรื่องราวในอดีต เกิดจากการที่คุณไปกระทำผิดกับคนอื่นหรือทำอะไรที่ผิดพลาดในชีวิตแล้วคุณอยากกลับไปแก้ไขให้มันดีขึ้น เช่น คุณอาจจะรู้สึกผิดที่ทำไม่ดีกับคนรักจนเขาจากคุณไป หากคุณยังพอแก้ไขได้คุณต้องรีบกลับไปแก้ไขมัน อย่าปล่อยให้มันเป็นปมที่ผูกมัดคุณ แต่หากว่าไม่สามารถแก้ไขในโลกความเป็นจริงได้ก็ต้องหาวิธีแก้ไขภายในสมองของคุณ โดยคุณจะต้องหาวิธีบอกตัวเองยังไงเพื่อให้สามารถเยียวยาความรู้สึกผิดนั้นได้3. การบ่นแบบไม่มีจุดมุ่งหมาย เป็นการบ่นเรื่องราวต่าง ๆ รอบตัวที่เราไม่สามารถแก้ไขอะไรได้ อย่างเช่น สภาพอากาศ การจราจร เศรษฐกิจ หรืออะไรก็ตามที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของเรา ในหนึ่งวันเรามีเวลาอย่างจำกัดหากเราเสียเวลาบ่นเรื่องที่ไม่เป็นเรื่องเช่นนี้ก็น่าเสียดายเวลาที่จะสามารถเอาไปคิดอะไรที่มันสร้างสรรค์หรือเป็นประโยชน์กว่านี้ได้4. กังวล เกิดจากการที่เรากังวลเรื่องราวในอนาคตที่ยังมาไม่ถึงและคิดมากไปเอง จนอาจเกิดการคิดวนเวียนขึ้นมาได้ เราจะกังวลเพราะคิดไปเองว่าอนาคตที่จะเกิดกับเรามันแย่แต่ส่วนใหญ่แล้วเรื่องราวแย่ ๆ มักจะอยู่แค่ในหัวของเราเท่านั้น เรื่องจริงที่เราประสบพบเจอมันไม่ได้แย่ขนาดนั้น แต่ว่าความกังวลก็มีข้อดีอยู่เพราะมันทำให้เราไม่ประมาท วิธีช่วยแก้ไขความกังวลคือให้เราจดเรื่องราวที่เรากังวลและเตรียมแผนการไว้ให้พร้อม มันจะช่วยลดความกังวลให้เราได้ พฤติกรรมต่าง ๆ เหล่านี้ถือเป็นศัตรูตัวฉกาจที่ทำให้เราไม่สามารถพัฒนาสมองได้ มิหนำซ้ำยังทำให้เราใช้พลังงานไปอย่างเปล่าประโยชน์อีกด้วย เราจึงควรเรียนรู้ที่จะกำจัดมันออกไปให้หมดสิ้น อย่าปล่อยให้มันมากินพื้นที่ในสมองของเรามากเกินไป หากเปรียบเทียบสมองเป็นดังโทรศัพท์ เราก็ควรเรียนรู้ที่จะใช้โหมดประหยัดพลังงานเพื่อเก็บพลังงานที่เหลือไว้ใช้กับเรื่องที่จำเป็นบ้าง หากมีพฤติกรรมต่าง ๆ เหล่านี้ มันก็อาจจะทำให้เราไม่เหลือพลังงานสมองไว้ใช้กับเรื่องที่เป็นประโยชน์ได้เช่นกัน ฉะนั้นควรพยายามหลีกเลี่ยงหรือหาหนทางแก้ไขมันตามที่ได้แนะนำไว้ข้างต้นนี้ หวังว่าทุกคนจะได้รับประโยชน์ที่สามารถนำกลับไปใช้ในการพัฒนาสมองของคุณให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นได้นะครับขอบคุณภาพประกอบจาก pexels ภาพปก/ภาพที่1/ภาพที่2/ภาพที่3/ภาพที่4/ภาพที่5/ภาพที่6/