นักกีฬาดังระดับโลกที่ได้รับการยอมรับด้วยฝีมือที่ไร้เทียมทานจนได้ยืนอยู่แถวหน้าของวงการกีฬา แน่นอนว่าพวกเขาเหล่านั้นได้รับการสอนและฝึกฝนการกีฬามาอย่างหนักจากโค้ชจนประสบความสำเร็จเช่นวันนี้ แต่นอกจากการฝึกทักษะด้านกีฬาทางร่างกายแล้ว พวกเขาก็ต้องได้รับการฝึกฝนทางด้านจิตวิทยาด้วย เพราะการฝึกทางร่างกายที่หนักหน่วง อาจจะทำให้จิตใจอ่อนล้าได้ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาของมนุษย์ หลังจากได้ติดตามอ่านเรื่องราวของนักกีฬาหลายๆคนมาแล้ว วันนี้มีความลับจิตวิทยากีฬา ที่คนธรรมดาๆอย่างเราก็สามารถนำมาใช้ในชีวิตประจำวันได้มาฝากกันค่ะ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้เป็นเคล็ดลับที่ Dr Josephine Perry นักจิตวิทยากีฬาจากมหาวิทยาลัย The Open University ได้ใช้ในการให้คำปรึกษาแก่นักกีฬาดังนั่นเองค่ะ1 Being nervous is good. ตื่นเต้น (ประหม่า) ก็เป็นเรื่องดี อาจจะฟังดูแปลกไปหน่อย แต่หากคุณรู้สึกตื่นเต้น (แบบประหม่า, Nervous) ขึ้นมาให้คุณบอกตัวเองว่า “I’m not nervous but I’m excited” หรือนั่นก็คือ “ฉันไม่ได้ตื่นเต้น (ประหม่า)นะ แต่ฉันแค่ตื่นเต้นที่จะได้ทำมัน” ซึ่งมันเป็นเรื่องปกตินะคะที่เราจะตื่นเต้นเวลาแข่งขันหรือมีความกดดันขึ้นมา แต่จุดประสงค์ที่เราบอกตัวเองแบบนี้ก็เพื่อจะทำให้เราใจเย็นลง สงบนิ่งมากขึ้นด้วยความคิดเชิงบวก เพื่อส่งเสริมให้เรามีสมาธิและสติที่จะลงมือทำสิ่งตรงหน้าค่ะ2 Don’t do all the work yourself. อย่าทำงานทุกอย่างด้วยตัวคนเดียว นักกีฬามืออาชีพทุกคนจะเรียนรู้วิธีการดูแลตัวเอง แต่นอกเหนือจากการดูแลตัวเองแล้วอีกสิ่งที่สำคัญเช่นกันก็คือ เรียนรู้การยอมรับความช่วยเหลือจากผู้อื่น ยกตัวอย่างเช่น นักวิ่งมาราธอนที่วิ่งระยะยาวมากจนเข้าเส้นชัย เขาไม่ได้เข้าเส้นชัยด้วยตัวเองเท่านั้น แต่รอบสนามตามระยะทางการวิ่ง มีผู้คนมากมายที่ส่งเสียงเชียร์ พูดให้กำลังใจ หรืออาจจะแค่ส่งรอยยิ้มให้ หากเขายอมรับกำลังใจเหล่านั้นมาช่วยเหลือผลักดันให้ตัวเองเข้าเส้นชัย ก็ไม่เห็นว่ามันจะผิดตรงไหนใช่มั้ยคะ ในชีวิตจริงก็เช่นกันค่ะ ถ้าคุณกำลังมีช่วงเวลายากลำบาก จะขอความช่วยเหลือจากคนรอบข้างมาสร้างพลังเสริมบ้างก็ไม่ใช่เรื่องน่าอายนะคะ พลังบวกที่เพิ่มขึ้นย่อมสร้างผลลัพธ์ที่ดีกว่าเสมอ3 Mentally Rehearse นักกีฬาระดับนอกจากจะต้องพร้อมทางร่างกายแล้วยังต้องพร้อมทางด้านจิตใจที่เด็ดเดี่ยวอีกด้วย ฉะนั้นการฝึกซ้อมทางความคิดนั้นจึงสำคัญค่ะ เพราะมันจะสามารถสร้างแรงจูงใจ ความมั่นใจและประสิทธิภาพของเรื่องที่ทำได้ค่ะ Dr Josephine Perry บอกว่าก่อนการแข่งขันใดจะเกิดขึ้น เขาจะให้นักกีฬาจินตนาการถึงสิ่งที่อยากเห็น เสียงที่อยากได้ยิน หรืออยากสัมผัส เช่น ในจินตนาการฉันเห็นเส้นชัยอยู่ตรงหน้าและฉันวิ่งสุดแรงที่ฉันมี เสียงเชียร์จากผู้ชมดังกึกก้องทั้งสนาม ในตอนสุดท้ายฉันเห็นเหรียญทองมาคล้องที่คอของฉันแล้ว ฉันทำได้และรู้สึกดีสุดๆ ในชีวิตจริงหากคุณต้องเตรียมตัวเพื่อการสัมภาษณ์งานหรือการสอบ ลองจินตนาการดูสิคะว่าคุณอยากให้มันออกมาเป็นอย่างไร ท้าทายตัวเองและฝึกฝนตัวเองให้พร้อมสำหรับมัน4 Talk to yourself ความคิดด้านลบมีผลกระทบต่อนักกีฬาอย่างมาก แต่พวกเขาใช้เทคนิคนี้ในการทำให้ตัวเองมั่นใจมากยิ่งขึ้น นั่นคือการพูดกับตัวเองและมันได้ผลดีเสมอ ประโยคสำคัญที่นักกีฬาใช้คุยกับตัวเองบ่อยก็คือ “You got this” “I can do this” “You are ready’ความหมายก็คือ ฉันทำได้! คุณพร้อมแล้ว (ที่จะทำมันได้)! มั่นใจไปเลย! ในครั้งหน้าหากสมองบอกคุณว่าคุณไม่สามารถทำได้หรอก ก็ให้คุณพูดตอบกลับไปว่า “I can” ได้สิ! ฉันทำได้! ในโลกที่หมุนเหวี่ยงอย่างรวดเร็วและการแข่งขันก็ยังสูงลิ่วแบบในยุคปัจจุบันนี้ เราเองก็เปรียบเป็นผู้ลงแข่งขันอีกคนบนโลกใบนี้ นอกจากจะต้องฝึกทักษะทางด้านร่างกายแล้วเราต้องไม่ลืมฝึกจิตใจของเราให้แข็งแรงด้วยนะคะ ขอขอบคุณข้อมูลเรื่องจิตวิทยาการกีฬาจาก Dr Josephine Perry และบทความขอขอบคุณรูปภาพประกอบจาก Pixabayภาพปก ภาพประกอบ1 ภาพประกอบ2 ภาพประกอบ3