สวัสดีครับ เคยเป็นกันมั้ยครับ เห็นคนอื่นหุ่นดี ดูดี มีสุขภาพดี เราเองก็อยากเป็นแบบเค้าบ้าง พยายามหาข้อมูลต่างๆ ถามคนโน้นคนนี้ จ้างเทรนเนอร์ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตามที่เค้าบอก เพื่อหวังว่าจะได้รูปร่างดีแบบเค้าบ้าง บางคนก็ทำสำเร็จตามที่ตั้งเป้าไว้ ลดน้ำหนักได้ และได้หุ่นที่ต้องการ แต่บางคนก็ล้มเลิกไปซะก่อน และหลายคนที่ล้มเลิกส่วนใหญ่ไม่คิดจะกลับมาดูแลสุขภาพอีกเลย ส่วนบางคนที่ทำสำเร็จ ก็มีส่วนน้อยที่จะสามารถควบคุมพฤติกรรมที่ทำมาก่อนหน้านี้ให้ได้ไปตลอดการลดน้ำหนัก การดูแลสุขภาพ นอกจากจะคิดแค่ผลลัพธ์ที่ได้ เราควรต้องมาถามตัวเองว่า เราจะรักษาผลลัพธ์นั้นให้อยู่กับเราไปได้นานๆ ได้อย่างไรหากเราสามารถหาวิธีการดูแลสุขภาพ ในรูปแบบที่เข้ากับวิถีชีวิตขอเราได้มากที่สุด ก็จะทำให้เราสามารถทำสิ่งนั้นไปได้นานโดยที่เราไม่รู้สึกอึดอัด หรือรู้สึกฝืนตัวเองมากเกินไป ผลลัพธ์ของสุขภาพ กับน้ำหนักที่ได้ ก็จะง่ายต่อการรักษาให้อยู่กับเราไปได้นานๆผมมี 4 ข้อ ที่เราต้องรู้ ถ้าอยากมีสุขภาพดี ในแบบวิถีชีวิตของเราเองข้อที่ 1 : รู้จักตัวเองให้มากที่สุดทำงานยังต้องรู้จักเนื้องาน ขายของยังต้องรู้ความต้องการของลูกค้า การดูแลสุขภาพตัวเองก็ต้องรู้จักตัวเราเองให้มากที่สุด หยิบกระดาษปากกามาเลย จดทุกอย่างที่เกี่ยวกับตัวเราอย่างจริงใจ ซื่อสัตย์ เริ่มจาก น้ำหนัก, ส่วนสูง, ปริมาณไขมันในร่างกาย, สัดส่วนร่างกายต่างๆ, กิจกรรมในชีวิตประจำวัน, โรคประจำตัว, ความชอบในเรื่องการกิน และกิจกรรมการเคลื่อนไหวร่างกาย, อารมณ์ความรู้สึกที่มีต่อกิจกรรมต่างๆ, ประสบการณ์ในอดีตในเรื่องการดูแลสุขภาพ และลดน้ำหนัก ทั้งที่เคยทำสำเร็จ และไม่สำเร็จ เพราะอะไร......จดทุกข้อมูลที่เราคิดว่า เราสามารถรู้จักตัวเราเองได้มากที่สุด ข้อมูลเหล่านี้นอกจากบางส่วนจะนำเอาไปเป็นตัวเลขตั้งต้นแล้ว ยังเป็นข้อมูลที่สำคัญในการนำไปเลือก ปรับรูปแบบพฤติกรรมในด้านต่างๆ ให้เมาะสมกับตัวเรามากที่สุดอีกด้วยข้อที่ 2 : รู้จักอาหารรอบตัวเราจงอย่าสับสนกันเมนูอาหารสุขภาพตามที่โดนปลูกฝังมาก่อนหน้านี้ ลบไปให้หมดก่อน สิ่งสำคัญคือ จดสิ่งที่เรากินได้ในทุกวัน หากินได้ง่าย กินเป็นประจำ ไม่ว่าจะเมนูไหน ร้านแถวที่ทำงาน หรือแถวบ้าน ลองจดทุกสิ่งที่เรากินในแต่ละวัน ไม่ว่าจะอาหาร หรือปริมาณน้ำ เครื่องดื่มต่างๆ เพื่อให้เราได้รู้จักวิถีการกินของเรา และรู้จักเมนูอาหารที่เรากินในทุกๆวัน คนเราจะกินอะไรในแต่ละวัน มันไม่ค่อยแตกต่างไปมากซักเท่าไหร่หรอกคับ ส่วนมากก็ซ้ำๆเดิมๆ เพิ่มเติมอาจเป็นขนม เครื่องดื่มที่ชื่นชอบก็ดื่มมันทุกวันไม่ค่อยเปลี่ยน ไม่เชื่อก็ลองจดดูนะครับ แล้วจะรู้ว่าวันๆ ร่างกายเรารับอะไรไปบ้าง อาหารทุกอย่างมีประโยชน์และสารอาหารในตัวเอง แค่ลองปรับดู ลดนิดหน่อยไม่ต้องถึงกับเปลี่ยนไปเลยซะทีเดียว ปรับให้เหมาะกับการใช้ชีวิตในแต่ละวัน แค่นี้ก็ทำให้สุขภาพเราเปลี่ยนแล้วครับปล.จดอย่างเป็นธรรม คือ กินให้ปกติ แล้วจด ไม่ใช่ เพราะรู้ว่าจะจะ เลยกินน้อยนะครับผมข้อที่ 3 : รู้กิจกรรมที่เราสามารถทำได้อีกเรื่องที่เราควรรู้คือ การเคลื่อนไหวอะไรที่เราทำได้ พอทำได้ ยอมทำได้ อะไรที่คิดว่าพอเป็นโอกาสที่เราเพิ่มการเคลื่อนไหวในแต่ละวันได้ ยังไม่ต้องพูดถึงการออกกำลังกายนะครับ คิดแค่ว่า วันนี้เราจะเคลื่อนไหวอะไรได้เพิ่มเติมจากปรกติ เช่น ลองเดินขึ้นบันได ซักหน่อย จากข้ามถนน ก็ข้ามสะพานลอย เดินอ้อมเพิ่มระยะทางซักนิด ถ้าสะพายเป้ ก็ลองถือเดิน สลับมือซ้าย มือขวา บ้าง ลองคิดว่าอะไรในวิถีชีวิตประจำวันเราที่คิดว่าพอเป็นโอกาสที่ทำให้เรามีการเคลื่อนไหวร่างกายมากกว่าเดิม เอาสิ่งที่เราคิดว่าทำได้บ่อย ให้ตัวเราสัญญากับตัวเอง หากทำได้เราก็จะได้รู้สึกภูมิใจในตัวเราเองอีกด้วยครับข้อที่ 4 : รู้จักนอนการพักผ่อนที่ดีที่สุด คือการนอน ที่มีคุณภาพ การนอนเป็นช่วงเวลาของการฟื้นฟูของร่างกาย จากการที่เราใช้ร่างกายมาทั้งวัน หากเรานอนได้ดีมีคุณภาพ เราจะรู้สึกสดชื่น พร้อมต่อสู้ในเช้าวันถัดไปอย่างสดใส การนอนแต่ละคน และแต่ละวันไม่เหมือนกัน บางคนต้องการเวลานอนเยอะ บางคนก็ไม่ต้องการเยอะ เราควรสังเกตตัวเอง ในทุกๆเช้า ว่าตื่นขึ้นมาแล้วเรารู้สึกอย่างไร เมื่อวานก่อนนอนเป็นยังไง ระหว่างการนอนรู้สึกตัวหรือคิดอะไรหรือไม่ เพื่อให้รู้ถึงปัจจัย และปริมาณการพักผ่อนที่เหมาะสมกับตัวเราที่ทำให้เราสดชื่น ฟื้นฟูร่างกายได้เต็มที่ ฝึกบริการการนอน ให้เหมาะกับ กิจวัตรประจำวันเราให้ได้ วันไหนใช้ร่างกายมาหนัก ควรนอนอย่างไร วันไหน ไม่ค่อยได้เคลื่อนไหว ควรนอนอย่างไร แต่ละคนก็แตกต่างกัน ลองสังเกต จดดูในแต่ละวัน จะทำให้เรารู้ว่า การนอนของเราเป็นอย่างไรลองสังเกต ทำความเข้าใจตัวเองให้เยอะที่สุด..............สุขภาพดีมีได้ ในแบบเราเองสำหรับ บทความหน้า จะนำเอาตัวอย่างการปรับใช้ ในแต่ละข้อ และการดูแลสุขภาพในแบบตัวเองมาฝากกันนะครับเครดิตภาพ : จากเจ้าของบทความทังหมด